5 เรื่องน่ารู้ของ "โยชัว เซียร์คซี" ศูนย์หน้าอนาคตไกลของบาเยิร์น มิวนิค

โยชัว เซียร์คซี คือศูนย์หน้าดาวรุ่งคนใหม่ของบาเยิร์น มิวนิค ที่มีอัตราการทำประตูต่อนาทีเป็นรองเพียงแค่ เออร์ลิง ฮาแลนด์ คนเดียวเท่านั้นในบุนเดสลีกา

มาดูกันเลยว่ามีเรื่องน่ารู้อะไรบ้างเกี่ยวกับนักเตะที่กำลังเดินตามรอยเท้าดาวซัลโวของสโมสรอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี คนนี้..
 
1) ยิง 3 ครั้งได้ 3 ประตู
 
ในแมตช์เดย์ที่ 16 ของฤดูกาลปัจจุบัน ขณะที่บาเยิร์นเสมอกับไฟร์บวร์กอยู่ 1-1 กุนซือฮันซี่ ฟลิค ไม่มีอะไรต้องเสีย เขาทิ้งไพ่ในนาทีที่ 90 ของการแข่งขันเป็นเจ้าหนูกองหน้าวัย 18 ปีคนนี้ และเป็นการประเดิมสนามครั้งแรกของเจ้าตัวในบุนเดสลีกาอีกด้วย

และแล้ว เซียร์คซีก็ใช้เวลาไม่ถึง 2 นาทีในการยิงปิดกล่องด้วยสัมผัสแรกในบุนเดสลีกา ช่วยให้บาเยิร์นเอาชนะไฟร์บวร์ก 3-1 คว้า 3 แต้มสำคัญได้สำเร็จ สัปดาห์ต่อมา ประวัติศาสตร์ก็ซ้ำรอยอีกครั้ง โยชัว เซียร์คซี ถูกเปลี่ยนลงมา ก่อนจะสามารถตีไข่แตกให้ทีมได้สำเร็จ แถมยังเป็นการทำประตูในสัมผัสแรกเหมือนเดิมอีกด้วย

และสุดท้ายในแมตช์เดย์ที่ 24 ที่บาเยิร์นพบกับฮอฟเฟ่นไฮม์ เขาได้ออกสตาร์ทตัวจริงเป็นครั้งแรกในบุนเดสลีกาแล้วทำประตูได้ในการพยายามยิงครั้งแรกในนาทีที่ 26 มีเพียงเออร์ลิ่ง ฮาแลนด์จากทีม "เสือเหลือง" เท่านั้น ที่ทำ 3 ประตูแรกในบุนเดสลีกาได้เร็วกว่าเซียร์คซี (เร็วกว่า 3 นาที)
 
2) ทายาทเลวานดอฟสกี?
 
เซียร์คซีได้โอกาสออกสตาร์ทเป็นตัวจริงครั้งแรกเนื่องจาก โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บจากเกมยูซีแอลรอบ 16 ทีมสุดท้ายกับเชลซี ก่อนนั้นก็คาดการณ์กันว่าฟลิคน่าจะจับ แซร์จ นาบรี หรือ โทมัส มุลเลอร์ มายืนเป็นกองหน้าตัวเป้าแทนเลวาน แต่แล้วก็เป็นเซียร์คซีที่ได้รับโอกาสให้ลงมาพิสูจน์ตัวเองในตำแหน่งของเลวานดอฟสกี

"ผมอยากจะเป็นศูนย์หน้าหมายเลขหนึ่งของบาเยิร์น มันคือเป้าหมายของผมมาตลอด" เซียร์คซีกล่าวกับสื่อในฮอลแลนด์ "จังหวะเวลาของเขา วิธีการบังบอล การวิ่งสปริ้นท์เข้าหาประตูคู่แข่ง ผมพยายามทำทุกอย่างให้ได้เหมือนที่เลวานดอฟสกีทำ"
 
3) เกือบเลือกไปพรีเมียร์ลีก
 
เซียร์คซีเกือบจะได้ไปเล่นในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แล้วเมื่อตอนอายุ 16 ปี เจ้าหนูคนนี้ได้ไปทดสอบฝีเท้ากับทีม "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" และก็ผ่านฉลุย "ผมมีความรู้สึกกับเอฟเวอร์ตันว่ามันมีโอกาสที่ผมจะสามารถเป็นนักเตะคนสำคัญที่นั่นได้จริงๆ พวกเขาเสนอสัญญามาให้ผมแล้วด้วยซ้ำเมื่อตอนที่ไปทดสอบฝีเท้า" แต่โชคร้ายของเอฟเวอร์ตันที่บาเยิร์นเข้ามาขอเอี่ยวด้วย "หลังจากผมเทรนกับบาเยิร์นครั้งแรก ผมก็รู้ทันทีเลยว่าอยากจะไปเล่นให้ใคร"

 
4) ความหวังทีม "อัศวินสีส้ม"
 
ก่อนจะย้ายมาอยู่กับบาเยิร์นรุ่นยู 17 เซียร์คซีเล่นให้กับทีมเยาวชนของเฟเยนูร์ด และเคยติดทีมชาติฮอลแลนด์ชุดเยาวชนมากว่า 10 ครั้งตั้งแต่รุ่นยู 15 มาจนถึงยู 18 ก่อนที่จะได้ย้ายมาเล่นให้กับทีมยักษ์ใหญ่แห่งแคว้นบาวาเรีย เขาทำผลงานได้ยอดเยี่ยม ยิง 16 ประตูจาก 19 นัดในทีมชุดยู 17 และ 16 ประตูจาก 21 นัดในชุดยู 19 ต่อด้วย 2 ประตูจาก 7 นัดในชุดยู 18 และ 8 ประตูจาก 9 นัดในชุดยู 19

 
ล่าสุดมีข่าวว่าเจ้าหนูคนนี้อาจมีโอกาสเป็นหนึ่งในขุนพลทีม "อัศวินสีส้ม" ไปลุยศึกฟุตบอลยูโร 2020 เนื่องจากเมมฟิส เดปาย ได้รับบาดเจ็บ และเฮดโค้ชทีมชาติฮอลแลนด์ก็เชื่อว่าเซียร์คซีต้องมีดีมากพอ ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในตัวเลือกกองหน้าทีมบาเยิร์นได้แน่
 
5) สิงห์นัดแรก
 
แต่ก่อนที่เซียร์คซีจะโดนเรียกตัวติดทีมชาติฮอลแลนด์ชุดใหญ่ แฟนบอลชาวไนจีเรียก็ยังแอบหวังลึกๆ ว่าเจ้าหนูคนนี้จะเลือกย้ายสัญชาติไปเล่นให้กับทีมบ้านเกิดของพ่อแม่ของเขา ซึ่งดูแล้วทีมชาติฮอลแลนด์คงไม่ปล่อยไปเป็นแน่ โดยเฉพาะหากมาลองไล่ดูสถิติที่เจ้าหนูคนนี้ทำได้แล้ว เซียร์คซีสามารถยิงประตูได้ตั้งแต่นัดแรกที่ลงประเดิมสนามให้ทั้งเฟเยนูร์ดชุดยู 19 และบาเยิร์นชุดยู 17 รวมทั้งยิงได้ในเกมแรกที่ลงเล่นให้ทีมสำรองและทีมชุดใหญ่ของบาเยิร์นตามที่กล่าวไว้ข้างบน ทำให้เขาเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดอันดับ 3 ของทีมเสือใต้ที่ทำประตูได้ เป็นรองเพียง โรเก ซานตา ครูซ และ อัลฟอนโซ เดวีส์ เพื่อนร่วมทีมชุดปัจจุบัน

 
เซียร์คซีคือแข้งชาวดัตช์คนที่ 5 ของบาเยิร์น มิวนิค ที่กำลังเดินตามรอยของสองนักเตะระดับตำนาน คนแรกคือรุ่นพี่ทีมชาติฮอลแลนด์ อาร์เยน ร็อบเบน "เดอะ ฟลายอิ้ง ดัตช์แมน" ที่ยิงในบุนเดสลีกาให้บาเยิร์นไปถึง 99 ประตู ส่วนอีกคนก็คือ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี สไตรเกอร์เบอร์หนึ่งของทีมที่เซียร์คซีฝันจะดีให้ได้เท่าๆกัน