ได้เวลาฉายแสง "อามีน ฮาริต" ดาวรุ่งผู้กลับมาคืนฟอร์มสุดยอด

ได้เวลาฉายแสง "อามีน ฮาริต" ดาวรุ่งผู้กลับมาคืนฟอร์มสุดยอด

ได้เวลาฉายแสง "อามีน ฮาริต" ดาวรุ่งผู้กลับมาคืนฟอร์มสุดยอด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังคว้ารางวัลผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลไปในปี 2018 ซึ่งเป็นฤดูกาลแรกที่เขาประเดิมสนามในลีกสูงสุดของเยอรมนี ทว่าในฤดูกาลที่ผ่านมา อามีน ฮาริต กลับประสบปัญหาฟอร์มสะดุดไปซะอย่างนั้น แต่แล้วหลังจากที่เดวิด วากเนอร์ ก้าวเข้ามาคุมบังเหียนทีม “ราชันสีน้ำเงิน” เอฟเซ ชาลเก้ 04 ฮาริตก็สามารถเค้นฟอร์มเก่งของตัวเองกลับมาพา “เดอะ รอยัลบลูส์” บินสูงอีกครั้ง
 
ลูกยิงจากตัดเข้ากลางจากกราบขวาแล้วปั่นไซด์ก้อยด้วยหน้าเท้าด้านนอกเสียบเสาไกลในนาทีที่ 89 คือประตูชัยสยบไมนซ์ที่ส่งชาลเก้ให้ขึ้นไปรั้งอันดับ 5 บนตารางหลังจบ 5 เกมลีกแรก สรุปแล้วในเกมนั้นเขาทั้งจ่ายแอสซิสต์สุดแสนฉียบคมหนึ่งลูก แล้วยังเลี้ยงบอลด้วยทักษะเทพเข้าไปยิงเองอีกหนึ่งลูก ซึ่งสัปดาห์ก่อนหน้าที่พลพรรคราชันสีน้ำเงินเพิ่งบุกไปสอนบอลพาเดอร์บอร์นถึง 1-5 ประตูเป็นสองเกมที่ฮาริตโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นจนแฟนบอลตะลึง พร้อมกับยกโทษเรื่องที่ฟอร์มตกไปหนึ่งซีซั่นให้ทันที
 
armeeen4
หลังจากฮาริตย้ายจากสโมสรน็องต์ในฝรั่งเศสมาอยู่กับต้นสังกัดใหม่เมื่อปี 2017 ในวัย 20 ปี เขาสามารถปรับตัวให้เข้ากับแผนการเล่นของโดเมนิโก้ เทเดสโก้ ซึ่งคุมชาลเก้อยู่ในขณะนั้นได้อย่างรวดเร็ว โดยได้โอกาสลงเล่นในบุนเดสลีกาไปทั้งสิ้น 31 นัด ทำไป 3 ประตูกับ 7 แอสซิสต์ช่วยให้ทีมคว้าตำแหน่งรองแชมป์เมื่อสิ้นฤดูกาล 2017/18 ส่วนฮาริตเองก็คว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล หรือ Rookie of the Season เมื่อชนะโหวตเหนือผู้เล่นฝีเท้าดีอย่าง จาดอน ซานโช, เบนฌาแม็ง ปาวาร์, เซบาสเตียน อัลแลร์, ฟีเท่อ อาร์พ และ แดน-อักเซล ซากาดู
 
แต่ทว่าในซีซั่นถัดมาฮาริตกลับฟอร์มตกฮวบ ทำผลงานย่ำแย่ ยิงได้เพียง 1 ประตูและทำ 2 แอสซิสต์ ทำให้ต้นสังกัดจบซีซั่นในอันดับที่ 14 เทียบกับดาวรุ่งคนอื่นๆ แล้วฮาริตเหมือนเดินถอยหลังหรือไม่ก็เรียนช้ากว่าเพื่อนไป 1 ปีด้วยซ้ำ เพราะอย่างซานโชก็สามารถทำผลงานจ่ายแอสซิสต์สูงที่สุดในลีก ส่วนปาวาร์และอาร์พก็โชว์ฟอร์มแจ่มจน “พี่เสือ” บาเยิร์น มิวนิค ต้องรีบคว้าตัวไปร่วมทัพ ขณะที่อัลแลร์มีส่วนในการทำประตูของทีมถึง 24 ประตูจนได้ชื่อว่าเป็นกองหน้าที่หวือหวาที่สุดคนนึงในบุนเดสลีกา และซากาดูก็มีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้ดอร์ทมุนด์ต่อสู้ฟาดฟันลุ้นแชมป์ลีกกับบาเยิร์นจนถึงเกมสุดท้าย
 
“ทุกอย่างไปได้สวยสำหรับผมและทีมในฤดูกาลแรกที่ชาลเก้ เราจบที่ตำแหน่งรองแชมป์และผมก็คว้ารางวัลได้” ฮาริตกล่าวกับเว็บไซต์สโมสร “โชคร้ายที่ในฤดูกาลที่แล้วผมไม่สามารถเค้นฟอร์มการเล่นแบบเดิมกลับมาได้อีก ผมอยากลืมซีซั่นที่ผ่านไปแล้วและกลับมาเล่นให้ได้เหมือนอย่างที่เคยทำได้มาก่อนในตอนที่ได้รับโหวตให้เป็นผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมในเดือนพฤษภาคมปี 2018”
 
จากนักเตะที่ได้ร่วมลุยศึกฟุตบอลโลกปี 2018 กลับกลายเป็นนักเตะที่หลุดโผทีมชาติโมร็อคโคชุดลุยศึกแอฟริกัน คัพออฟเนชั่นส์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา…
 
armeeen2
แต่ชีวิตก็ยังมีพรุ่งนี้เสมอสำหรับฮาริต เมื่อเขาเพิ่งจะกลายเป็นพ่อคนในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งนั่นทำให้เขาเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีขึ้น และที่สำคัญคือการมาของโค้ชคนใหม่ เดวิด วากเนอร์
 
ฮาริตกับชาลเก้น่าจะแยกทางกันไปแล้วด้วยซ้ำในช่วงปิดฤดูกาล แต่วากเนอร์กลับยืนยันว่าเขาต้องการให้ฮาริตอยู่กับทีมต่อไป โดยแสดงความมั่นใจว่าฮาริตจะช่วยชาลเก้ได้อย่างแน่นอน
 
“ในตอนนั้น ผมอธิบายถึงทัศนคติของผม และเขาก็อธิบายทัศนคติของเขา” วากเนอร์ให้สัมภาษณ์ “เราตัดสินใจร่วมผนึกกำลังกัน และนัดมาคุยกันอีกทีหลังช่วงปรีซีซั่น แต่ท้ายที่สุดก็ไม่จำเป็นต้องคุยกันอีกรอบแล้ว ทุกอย่างมันชัดเจนหมดแล้ว”
 
วากเนอร์คือโค้ชที่ขึ้นชื่อเรื่องการเค้นฟอร์มสุดยอดของนักเตะทุกหยดออกมาคนหนึ่งนับตั้งแต่สมัยคุมทีมฮัดเดิลส์ฟีลด์ทาวน์ในอังกฤษ เขาพาทีมเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกได้เป็นหนแรกในประวัติศาสตร์ แถมยังปลุกปั้นนักเตะโนเนมอย่างอารอน มอย ให้กลายเป็นนักเตะค่าตัวหลายล้านปอนด์ได้ และเรื่องแบบนี้กำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้งระหว่างวากเนอร์กับฮาริต ทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก โดยฮาริตก็มั่นใจมากเช่นกันว่าวากเนอร์ทำให้เขาเปลี่ยนไปในทางที่ดีมากยิ่งขึ้น
 
armeeen3
จากสถิติในฤดูกาลล่าสุดเมื่อผ่านไปได้ 5 เกมทำให้เชื่อได้ว่าฮาริตนั้นโฟกัสมากขึ้นจริงๆ เขาออกตัวสปริ้นท์มากที่สุดในลีกรวม 146 ครั้ง นอกจากนี้ฮาริตยังฝึกซ้อมอย่างหนักนอกเหนือจากเวลาซ้อมปกติอีกด้วย แถมสโมสรยังจ้างนักจิตวิทยาเข้ามาช่วยพัฒนาฝีเท้าทั้งทางเทคนิกและจิตใจให้กับนักเตะอีกด้วย
 
ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวที่มาที่ทำให้อดีตนักเตะจากอะคาเดมีของปารีส แซ็งต์ แชร์กแม็ง รายนี้ลืมฝันร้าย เปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีและคืนฟอร์มเก่งในช่วงต้นซีซั่นนี้ได้ในที่สุด อย่างน้อยถึงจะผ่านไปเพียง 5 นัดเท่านั้นแต่เขาก็ทำสถิติดีกว่าฤดูกาลก่อนทั้งฤดูกาลได้แล้ว
 
เมื่อมองตามแผนการเล่นของวากเนอร์ เขาจับฮาริตเล่นกองหน้าฝั่งซ้าย แต่ให้อิสระในการเคลื่อนที่ไปได้ทั่วทั้งสองฝั่ง เราจึงได้เล่นฮาริตจ่ายแอสซิสต์จากฝั่งซ้าย และยิงได้ด้วยลูกเลี้ยงตัดเข้าในจากกราบขวา การให้อิสระในการเล่นแบบนี้อาจเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ฮาริตคืนฟอร์มให้ชาลเก้อีกครั้ง ไม่เพียงเท่านั้นฮาริตยังกลับไปมีชื่อติดทีมชาติอีกครั้งเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย มารอชมและเอาใจช่วยกันว่าแข้งดาวรุ่งวัย 22 ปีรายนี้จะไปได้ไกลสักแค่ไหน…

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook