โชห่วยน้ำตาซึม! วอนรัฐเร่งจับ “บุหรี่เถื่อน” ช่วยผู้ประกอบการให้อยู่รอด

โชห่วยน้ำตาซึม! วอนรัฐเร่งจับ “บุหรี่เถื่อน” ช่วยผู้ประกอบการให้อยู่รอด

โชห่วยน้ำตาซึม! วอนรัฐเร่งจับ “บุหรี่เถื่อน” ช่วยผู้ประกอบการให้อยู่รอด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้อำนวยการบริหารสมาคมการค้ายาสูบไทย เรียกร้องให้ภาครัฐเร่งแก้ไขปัญหาบุหรี่เถื่อนออนไลน์ เพื่อปกป้องรายได้ของร้านค้าที่ถูกกฎหมาย รวมถึงผู้บริโภคและร้านค้าโชห่วยรายย่อยที่ถูกหลอกให้ซื้อสินค้าปลอม 

จากเหตุการณ์ที่ตำรวจปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) ร่วมกับศูนย์ปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยสืบสวนเพื่อความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐอเมริกา ได้เข้าจับกุมเครือข่ายจำหน่ายบุหรี่ปลอมผ่านช่องทางออนไลน์ ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี พร้อมยึดบุหรี่ปลอมหลายยี่ห้อ รวมมูลค่ามากกว่า 10 ล้านบาท วราภรณ์ นะมาตร์ ผู้อำนวยการบริหารสมาคมการค้ายาสูบไทย เผยว่า การขายบุหรี่เถื่อนออนไลน์เป็นปัญหาที่กำลังเติบโตขึ้น เนื่องจากต้นทุนต่ำ ไม่ต้องมีหน้าร้าน และสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายมากขึ้นโดยการชอปปิ้งออนไลน์ 

วราภรณ์ นะมาตร์วราภรณ์ นะมาตร์

จากการสืบค้นข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตโดยใช้คำว่า “บุหรี่นอก” จะพบว่ามีรายชื่อร้านค้าบุหรี่มีทั้งที่เป็นแพลตฟอร์มเว็บไซต์เฟซบุ๊ค และทวิตเตอร์ขึ้นมากว่า 5 ล้านรายการ ยังไม่รวมร้านค้าบนแอพพลิเคชั่นไลน์ที่มีจำนวนมาก ร้านค้าพวกนี้หากถูกจับหรือโดนสั่งปิด ก็สามารถเปลี่ยนชื่อร้านแล้วเปิดขายใหม่ได้ทันทีโดยง่าย ทำให้การป้องกันและตรวจสอบของเจ้าหน้าที่มีความลำบากขึ้น ส่งผลให้กระทรวงการคลังต้องสูญเสียรายได้จากภาษีสรรพสามิตและภาษีอื่น ๆ เช่นภาษีเพื่อมหาดไทยและภาษีบำรุงท้องถิ่นเป็นจำนวนมหาศาล

“ในขณะที่โชห่วยที่ขายบุหรี่ถูกกฎหมายยอดขายลดลง ๆ ทุกวัน เมื่อ 3-4 ปีก่อน บางร้านใน อ.หาดใหญ่เคยขายได้สัปดาห์ละ 10 ลัง แต่ตอนนี้ยอดขายหายไปเกินครึ่ง เหลือแค่ไม่ถึง 5 ลัง (2,500 ซอง) ต่อสัปดาห์ แต่ร้านค้าออนไลน์ที่เห็นตามเว็บไซต์หรือเฟซบุ๊คสามารถขายสินค้าได้เป็นจำนวนมาก มีการลงภาพกล่องที่เตรียมรอส่งไปให้ลูกค้ากองสูงท่วมกำแพง” วราภรณ์ชี้ 

“สมาคมฯ จึงอยากวอนให้กรมสรรพสามิต และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับเรื่องบุหรี่เถื่อนออนไลน์ด้วย และเร่งแก้ปัญหาเพื่อปกป้องรายได้ของร้านค้าที่ถูกกฎหมายและปกป้องไม่ให้ผู้บริโภคและร้านโชห่วยรายย่อยถูกหลอกให้ซื้อสินค้าปลอมอีกด้วย” วราภรณ์กล่าวปิดท้าย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook