ปีใหม่ ผีจะ เอาใครดี ??
หลังแมตช์ค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เหล่าบรรดา เร้ด อาร์มี่ คงไม่ปลาบปลื้มใจกับทีมรักของตัวเองนัก เมื่อแพ้ให้กับเชลซีในเกมพรีเมียร์ลีกนัดที่ 11 ไปด้วยสกอร์ 1-0 ซึ่งถือว่าเป็นการแพ้ให้กับทีมในกลุ่ม “บิ๊กโฟร์” เป็นเกมที่สองจากสามเกมที่เล่น และก็เหมือนจะเป็นอาถรรพ์ในช่วงปีถึงสองปีที่น้อยครั้งที่จะเอาชนะทีมในกลุ่มลุ้นแชมป์ด้วยกัน
ปัญหาใหญ่ของทีม “ปิศาจแดง” นั้นมีมาตั้งแต่ฤดูกาล 2009-10 ยังไม่เปิดเลยซ้ำ เมื่อตัดสินใจขาย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไปให้กับ รีล มาดริด แม้จะผลิตผลกำไรให้ทีมได้ถึง 80 ล้านปอนด์ก็ตาม
จากนั้น การขาดหายไปของ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ นายประตูวัยดึกที่เจ็บจากทัวร์นาเม้นต์ที่มิวนิคกว่า 2 เดือนก็ทำให้ เบน ฟอสเตอร์ ได้สร้างชื่อว่าเป็นนายประตูที่เฟอะฟะคนหนึ่งที่ยูไนเต็ดเคยมีมา
และยิ่งกว่านั้นก็คือคู่ขาในเกมรับที่แข็งแกร่งราวภูผาหินอย่าง ริโอ เฟอร์ดินานด์ และ เนมานย่า วิดิช กลับฟอร์มตกด้วยกันทั้งคู่ บวกกับประตูน้ำอย่าง เบน ฟอสเตอร์ จึงไม่แปลกใจเลยที่จะเห็นสถิติประตูได้เสียของทีมออกมาแย่ที่สุดในกลุ่ม “บิ๊กโฟร์”
นี่เป็นเพียงปัญหาแค่ช่วงต้น ทั้งที่ฤดูกาลนี้ยังอีกยาวไกล ซึ่งในใจเชื่อว่าคนอย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นั้นไม่ปล่อยปัญหานี้คาราคาซังไปนานๆอย่างแน่นอน ซึ่งช่วงตลาดนักเตะรอบสองเปิดขึ้นในเดือนมกราคม “บอสใหญ่” ชาวสกอตคงได้ขยับจับจ่ายเงิน 80 ล้านปอนด์ที่เหลือมาบ้างไม่มากก็น้อย ในฉบับนี้จึงขออนุญาตวิจารณ์ผลงานของบรรดาแข้งผีชุดใหญ่ที่ลงวาดลวดลายในซีซั่นนี้ว่าดีแย่แค่ไหนใครเป็นใครก็ติตามกันได้เลย
ผู้รักษาประตู
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์
: เป็นปัญหาของทีมพอสมควรเมื่อขาดเขาไปในช่วงสองเดือนแรก เมื่อปล่อยให้ เบน ฟอสเตอร์ ลงทำหน้าที่จนกลายเป็นตัวตลก แต่หลังจากที่อดีตนายทวารทีมชาติฮอลแลนด์หายเจ็บกลับมา ดูเหมือนจะสร้างความมั่นใจให้กับเกมรับของทีมได้เยอะเลยทีเดียว
เบน ฟอสเตอร์
: กลายเป็นจุดบอดของทีมในช่วงต้นซีซั่น ทั้งอาการตื่น ลนลาน มีให้เห็นอยู่ตลอด นอกจากนี้การรับหรือส่งบอลที่เหมือนจะไม่มีความมั่นใจ จนไม่ได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับแผงรับแม้แต่นิดเดียว
โทมัส คุสซ์แช็ค
: นายทวารเลือดโปแลนด์ได้รับโอกาสน้อย แม้ว่าเรื่องประสบการณ์จะมีมากกว่า เบน ฟอสเตอร์ แต่ข้อเสียของ คุสซ์แช็ค มักจะเป็นจังหวะการตัดบอล รวมถึงการตัดสินใจทีเด็ดขาด
กองหลัง
ริโอ เฟอร์ดินานด์
: ตกลงไปเยอะสำหรับฟอร์มการเล่นของปราการหลังพันล้าน ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากอาการบาดเจ็บ จนขาดความต่อเนื่องในเรื่องของการลงสนาม ถ้าหากหายจากอาการบาดเจ็บแล้วฟอร์มยังดร็อปลงไปแบบนี้ เห็นทีปีนี้ เฟอร์ดินานด์ อาจจะต้องนั่งยาวที่ข้างสนามก็เป็นได้
เนมานย่า วิดิช
: ยังเป็นหัวใจในเกมรับของทีม โดดเด่นในเรื่องการประทะ และสกัดกั้นลูกกลางอากาศ แต่ผิดพลาดในเรื่องของตัดสินใจ ถ้าเป็นไปได้ “เกมแดงเดือด” ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เซอร์ อเล็กซ์ ควรจะดร็อปเขาอยู่ข้างสนามจะดีกว่า (555+)
จอห์น โอเช
: น่าจะเป็นแบ็กขวาที่เล่นได้แน่นอนที่สุดของทีมในเวลานี้ แม้จะได้เด่นในเรื่องเกมรุก แต่ยามที่รับได้เรื่องของทางบอล แม้จะมีหลุดๆ ให้เห็นอยู่บ้าง แต่ก็ตามมาตรฐานที่เจ้าตัวเป็นอยู่
ปาทริซ เอวร่า
: ถ้าไม่เจ็บ ไม่ไข้ ได้เห็นเกมรับด้านซ้ายเป็นเขาคนนี้แน่ๆ เด่นในเรื่องเกมรุก แต่เกมรับยังหลุดพอสมควร มีปัญหาเวลาที่เจอกับกองหน้าที่มีความเร็ว และไม่ไม่ค่อยไล่บอลเมื่อเสียตำแหน่ง
จอหน์นี่ เอแวนส์
: ห้าว ดุดัน ตามประสานักเตะดาวรุ่ง คุมเกมได้ดียามที่มีรุ่นพี่อย่าง เฟอร์ดินานด์ หรือ วิดิช เคียงข้าง ขอเพียงเวลาและประสบการณ์อีกนิด ก็น่าจะยึดตำแหน่งตัวจริงของทีมได้เหมือนกัน
เวส บราวน์
: เป็นประเภทวันไหนเล่นดีก็เด่นในแผงรับไปเลย แต่ถ้าวันเล่นได้แย่ที่สุดก็จะกลายเป็นจุดอ่อนของทีมทันที แม้จะได้รับโอกาสให้เป็นปราการหลังตัวกลาง แต่มองว่าเจ้าน้ำตาลทำได้ดีจริงในตำแหน่งแบ็กขวา
แกรี่ เนวิลล์
: มองว่าหมดแรงสำหรับเด็กปั้นที่ดีที่สุดของสโมสร แม้หลายเกมจะพยายามทำลูกเก๋าให้เห็น แต่การเจ็บจนเรื้อสนามไปนาม ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากของนักเตะหลายๆคนที่จะเรียกฟอร์มเก่งแบบเดิมให้ได้อีกครั้ง
ราฟาเอล ดา ซิลวา
: น่าเสียดายที่ได้รับบาดเจ็บในช่วงต้นซีซั่น ไม่เช่นนั้นน่าจะมีลุ้นเป็นตัวหลักในตำแหน่งงแบ็กขวาได้เลย เพราะเมื่อฤดูกาลที่แล้วเจ้าหนุ่มแซมบ้าถือสอบผ่านแบบไม่มีที่ติ
ฟาบิโอ ดา ซิลวา
: หายเจ็บกลับมา จนได้รับโอกาสได้ลงสนามในหลายๆ เกม แต่ยังไม่นิ่งเหมือน ราฟาเอล หลายครั้งที่หลุดตำแหน่ง และมีส่วร่วมกับเกมน้อยเกินไป
กองกลาง
ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์
: จากนักเตะที่บรรดาสาวก เร้ด อาร์มี่ ต้องหันหน้าหนี กลับมาเป็นกระดูกสันหลังที่ทีมจะขาดเสียไม่ได้ เฟล็ทเชอร์เด่นในลูกขยันที่โดนใจเซอร์ อเล็กซ์ แม้ว่าจะมีการเข้าประทะที่หนักในบางจังหวะ และเสียฟาวล์ค่อนข้าง แต่เชื่อได้เวลานี้เขาคือมิดฟิลด์ชั้นแนวหน้าคนนึงของพรีเมียร์ลีก ไปแล้ว
ไมเคิ่ล คาร์ริค
: ยังคงมาตรฐานเดิมๆ นิ่งๆ เนิบๆ แต่ทดแทนด้วยการพาสบอลที่ง่ายและแม่นยำ แต่การแข่งขันในแดนกลางค่อนข้างสูง ทำให้ต้องวนเวียนทั้งในสนามและม้านั่งสำรอง
พอล สโคลส์
: โรยราตามอายุ สำหรับมิดฟิลด์ร่างเล็ก ความเด็ดขาดในจังวะยิงไกลมีให้เห็นน้อยลง และมีข้อเสียตรงชอบทำฟาวล์และเล่นค่อนข้างหนักเกินความจำเป็น จนเป็นเหตุให้ได้รับทั้งใบเหลืองและใบแดง
อันแดร์สัน
: ห้าว ดุดัน กร้าวแกร่ง และมักจะเป็นตัวเลือกแรกๆ สำหรับเกมที่ต้องวิ่งสูฟัด จุดเด่นอยู่ตรงคิลเลอร์พาสที่หวังผลได้สูง แต่ข้อเสียก็คือต้องพัฒนาเรื่องการยิงประตูและมีส่วนร่วมกับเกมรุกมากกว่านี้
หลุยส์ นานี่
: เป็นอีกปีที่น่าผิดหวังสำหรับปีกโปรตุกีส แม้ว่าเซอร์ อเล็กซ์ จะให้โอกาสมากกว่าคนอื่นๆ แต่ทรรศนะการเล่นยังคงดิม จนมีข่าวลือว่าอาจจะได้ย้ายทีมหลังจบฤดกาลนี้
อันโตนิโอ วาเลนเซีย
: มีจังหวะการเลี้ยง และสปีดต้นที่กดดันคู่แข่งเห็นในหลายๆหน รวมถึงลูกครอสจากริมเส้นดีๆ ให้เห็นในหลายๆ จังหวะ แต่เสียตรงที่ว่าสไตล์ของเขามักจะถูกจับทางได้ง่ายกับกองหลังประสบการณ์สูง
ไรอัน กิ๊กส์
: มีหลายนัดที่โดดเด่น แต่มักจะเป็นเกมเล็ก แต่ยามที่เจอกับทีมที่ใหญ่ๆ แสดงให้เห็นแล้วว่าอายุไม่เอื้ออำนวยเหมือนแต่ก่อน แม้ซีซั่นนี้ยังเป็นกำลังของทีมแต่ปีหน้า คงต้องหาตัวตายตัวแทนได้แล้ว
โอเว่น ฮาร์กรีฟส์
: ใช้เวลาอยู่โรงพยาบาลมากกว่าสนามซ้อม แต่แว่วข่าวมาว่ากลับมาเทรนนิ่งได้แล้ว เป็นอีกคนที่โดดเด่นเรื่องความขยัน วิ่งไม่มีหยุด ติดตรงเป็นพวกกระดูกเปราะ เมื่อเจ็บและต้องพักยาวข้ามปี
กาเบรียล โอแบร์ต็อง
: เหมือนจะเป็นขวัญใจคนใหม่ของแฟนๆ เมื่อได้ลงเล่นในช่วงหลังๆ ของเพียงความเข้าใจกับเพื่อนร่วมทีม และประสบการณ์ในเกมระดับสูง เชื่อว่าจะเป็นตัวหลักของทีมได้ไม่ยาก
โซรัน โทซิซ
: เทคนิค และ ทักษะค่อนข้าง มีข้อเสียที่รูปร่าง ทำให้ได้รับโกอาสน้อยกว่าคนอื่นๆ ทางที่ดีน่าจะปล่อยให้ทีมระดับล่างยืมตัวเพื่อเสริมกระดูก ก่อนเรียกมาลองงานอีกครั้งก็ไม่เสียหาย
พาร์ค ชี ซอง
: มีดีที่ลูกขยัน แต่ยังต้องปรับเรื่องการเล่นเกมรุกที่มักจะสะดุดในจังหวะสุดท้ายทั้งการเปิดบอลหรือว่ายิงประตู รวมถึงอาการบาดเจ็บที่เล่นงานค่อนข้างบ่อยในช่วงหลังๆ
กองหน้า
เวย์น รูนี่ย์
: เป็นหัวใจในเกมรุกแทนที่ของ โรนัลโด้ และก็ทำผลงานได้ไม่เลว มีทุกสิ่งทุกอย่างของการเป็นดาวยิง แต่จะดับสนิทเมื่อต้องรับบทเป็นหน้าเดียว และยังมีปัญหาในการควบคุมอารมณ์สำหรับเกมใหญ่ๆ
ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
: มีส่วนร่วมกับทีมากกว่าปีที่แล้วทั้งการยิงประตู รวมถึงการลงมาช่วยเกมรับที่มีให้เห็นมากกว่าเดิม และทีมจะได้ประโยชน์สุดๆ ถ้ามีเขามีคู่ขาในแดนหน้ามากกว่าการเป็นกองหน้าคนเดียว
ไมเคิ่ล โอเว่น
: ยังเรียกภาพของการเป็นดาวยิงที่อันตรายที่สุดคนนึงในพรีเมียร์ กลับมาไม่ได้ หลายครั้งที่มีโอกาสแต่มักจะปล่อยให้หลุดลอยไป แต่ยังไงก็ถือว่าเป็นอะไหล่และซุเปอร์ซับชั้นดียามที่ทีมต้องการ
เฟเดริโก้ มาเคด้า
: ทักษะดี ยิงประตูเยี่ยม แต่ต้องได้รับโอกาสมากกว่านี้ บางทีการให้ทีมอื่นยืมตัวน่าจะเป็นทางออกที่ดีเช่นกัน
แดนนี่ เวลเบ็ค
: เป็นคู่แข่งของ มาเคด้า แต่ยังขาดในเรื่องของประสบการณ์และบางครั้งติดลูกความมั่นใจตัวเองที่มีมากเกินไป
Jeed-Jaad
(ภาพจาก Getty Images)
