"จ่าหำ" ลั่นกล้าสาบาน หลังถูกพาดพิงมีส่วนในคดียิง "หมวดบอล" ตายในค่ายทหาร

"จ่าหำ" ลั่นกล้าสาบาน หลังถูกพาดพิงมีส่วนในคดียิง "หมวดบอล" ตายในค่ายทหาร

"จ่าหำ" ลั่นกล้าสาบาน หลังถูกพาดพิงมีส่วนในคดียิง "หมวดบอล" ตายในค่ายทหาร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จ่าหำ ออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังถูกพาดพิงว่ามีส่วนในคดียิงหมวดบอลตายในค่าย ยืนยันไม่เคยขัดแย้งรุนแรง ชื่นชมผู้ตายเป็นคนดี คาดคนร้ายเป็นคนในหน่วย และมั่นใจว่าผู้บังคับบัญชาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (14 ก.พ.) ความคืบหน้าเกี่ยวกับการฆาตกรรมบุกยิง ร.ท.รุ่งเฉลิม หรือ หมวดบอล อายุ 34 ปี นายทหารหัวหน้าหมวดดุริยางค์ทหาร มณฑลทหารบกที่ 210 นครพนม ถูกยิงเสียชีวิตภายในค่ายทหาร ก่อนที่คนร้ายจะหลบหนีไป และอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนของตำรวจนั้น ได้มี จ่าทหารนายหนึ่ง ชื่อ จ่าหำ ออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังถูกพาดพิงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในคดี 

จ่าหำ เปิดใจว่า เกี่ยวกับคดีดังกล่าว ได้มีข่าวออกมาว่าตนมีส่วนเกี่ยวข้องคดี จึงต้องออกมาชี้แจง ทำความเข้าใจ และให้ความร่วมมือกับทางตำรวจในการที่จะสอบสวนทุกประเด็น และกล้าสาบานว่า ตนไม่ได้มีความขัดแย้งกับผู้ตายจนถึงขั้นรุนแรง

ก่อนหน้านี้ยอมรับเคยมีปัญหากับลูกน้องของหมวดบอล เกี่ยวกับปัญหามาจีบลูกสาว แต่เคลียร์กันจบด้วยดี และหมวดบอลเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน ยอมรับผู้ตายเป็นคนอัธยาศัยดี เคยทำงานร่วมกัน ผู้ตายยังให้ความเคารพตนเสมอ

ถามใจตนมีปมสงสัยเพียงเรื่องเดียวคือเรื่องปัญหาปมชู้สาวที่อาจจะมีคนเข้าใจผิด คิดว่าผู้ตายไปเกี่ยวข้องเชิงชู้สาวกับใคร เพราะเป็นคนหน้าตาดี อัธยาศัยดี  ซึ่งตนคิดว่าจะต้องมีการสอบสวนพยานแวดล้อม รวมถึงเช็กไทม์ไลน์ผู้ตายก่อนเสียชีวิตน่าจะเป็นเบาะแสได้

จ่าหำ ยังกล่าวอีกว่า ในส่วนตัวตนมองว่าคดีที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับผู้บังคับบัญชาแน่นอน เพราะที่ผ่านมาผู้บังคับบัญชามีเมตตากับลูกน้องทุกคน และเป็นคนที่พัฒนาหน่วย ไม่เอาเรื่องเล็กน้อยมาขัดแย้ง และให้อภัยทหารทุกคนเมื่อมีความผิด

ส่วนมือปืนก่อเหตุ ตนมั่นใจว่า จะต้องเป็นคนในหน่วย ที่มีความขัดแย้งส่วนตัวสะสม ไม่ใช่บันดาลโทสะ และจากการสอบถามข้อมูลการก่อเหตุ มั่นใจว่า ไม่ต้องมีความชำนาญหรือเป็นนักรบจากหน่วยรบพิเศษมาก่อน ลงมือก่อเหตุ ก็สามารถทำได้ เพราะมีการยิงระยะประชิดที่ผู้ตายไม่ตั้งตัว

ที่สำคัญสำหรับผมเรื่องยิงผิดตัว ตนคิดว่าเป็นไปได้น้อย เพราะจากการสอบสวนของตำรวจ มีพยานยืนยันว่า ได้ยินเสียงมือปืนเรียกผู้ตายก่อนยิง และมีการรู้ช่องทางหลบหนี ในค่ายเป็นอย่างดี เชื่อว่ารู้ความเคลื่อนไหวผู้ตายตลอด

อย่างก็ตาม ตนเป็นชายชาติทหาร มีเกียรติมีศักดิ์ศรีพอ และมีคุณธรรม ชอบช่วยเหลือสังคม ทุกคนรู้ดี คงไม่มาตัดสินใจทำเรื่องแบบนี้แน่นอน หากมีปัญหาขัดแย้ง ต้องพูดคุยเคลียร์ปัญหากันแบบชายชาติทหาร 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook