ดราม่าร้านบุฟเฟ่ต์ชาบู ล้วงก้นหม้อชั่งเศษอาหาร ปรับลูกค้ากินเหลือขีดละ 100 บาท
ดราม่าร้านบุฟเฟ่ต์ชาบู ล้วงก้นหม้อชั่งเศษอาหาร ปรับลูกค้ากินเหลือขีดละ 100 บาท เจ้าของร้านยันไม่ได้มีเจตนาหารายได้เพิ่ม
(2 ธ.ค.63) กลายเป็นกระแสดราม่าในโซเชียล หลังจากมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพพร้อมข้อความถูกนำอาหารเหลือๆ ที่เป็นเศษอาหารในหม้อมาชั่งน้ำหนักแล้วคิดค่าปรับ โดยโพสต์ระบุว่า "ไปกินบุฟเฟต์ร้านนึงในขอนแก่นอยู่แถวกังสดาล กินเสร็จพนักงานขอช่างเศษอาหารในหม้อ คิดเงินเพิ่มขีดละ 100 บาท งงมากเเม่ เศษผักต้มกับเศษหมูยังตักเลยใครไปกินต้องระวังหน่อยนะ อาจจะเป็นนโยบายหากำไรเพิ่มของทางร้านก้อด้ายย #ร้านชาบูขอนแก่น #บุฟเฟต์ขอนแก่น"
โพสต์ดังกล่า ถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา ทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อไปยังเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น เจ้าตัวบอกว่าไม่อยากเป็นข่าว แต่ที่เอามาโพสต์เพื่อให้เป็นวิทยาทานและเตือนผู้ที่รับประทานบุฟเฟต์ชาบูหรือปิ้งย่าง ควรเลือกร้านที่มีมาตรฐานในเรื่องการให้บริการลูกค้า ส่วนตัวก็คิดว่าที่ถูกทางร้านปรับนั้นถือว่าทำเกินไป เพราะอาหารที่นำมาปรับนั้น เป็นชิ้นเนื้อหมูที่ทานไม่หมดก้นหม้อเพียงหนึ่งชิ้น
ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อทางเจ้าของร้านชาบูดังกล่าว บอกไม่ขอให้ข้อมูลใดๆ เพราะได้ชี้แจงรายละเอียดกับเจ้าของโพสต์แล้ว โดยได้ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า จากการสอบถามพนักงานและตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้ว ทุกครั้งที่เรียกเช็กบิล พนักงานมีหน้าที่ตรวจสอบอาหารที่ทานไม่หมด ในกรณีที่เกิดขึ้นทางพนักงานชั่งแต่เนื้อหมู ได้ประมาณ 50 กรัม คิดเงินไป 40 บาท ซึ่งยังไม่ได้รวมเนื้อหมูที่เหลือในจาน และอยู่ในถ้วยของลูกค้า ส่วนสภาพถุงที่นำไปชั่ง ก็รีดน้ำออกเพื่อให้ได้น้ำหนักที่น้อยที่สุด ยืนยันไม่ได้มีเจตนาหารายได้เพิ่มจากปรับค่าอาหารที่ทานไม่หมด
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาพบว่ามีลูกค้าทานอาหารเหลือเป็นจำนวนมาก ช่วงแรกก็ไม่กล้าปรับ แต่จำเป็นต้องปรับ เพราะอาหารเหลือเพิ่มขึ้นทุกวัน บางวันเศษอาหารเหลือทิ้งหลายกิโลกรัม ที่ผ่านมาเจอลูกค้าหลายรูปแบบ นำอาหารไปซ่อน เอากระดาษทิชชูโปะไว้ ทิ้งเศษอาหารไว้เต็มโต๊ะ หรือทานคนละแพ็คเกจ แต่แอบส่งอาหารให้กัน
จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้พุดคุยกับน้องๆ นักศึกษาในจังหวัดขอนแก่น ที่ชื่นชอบการรับประทานปิ้งย่าง-ชาบู แบบบุฟเฟต์ บอกว่า ปกติจะนัดเพื่อนๆ ไปทานบุฟเฟต์กันแบบกลุ่มใหญ่ 5-6 คน เพราะไปทานแล้วคุ้มค่า ซึ่งก็เคยมีร้านที่ตั้งกติกาว่าทานไม่หมดคิดค่าปรับ ซึ่งตนเองและเพื่อนๆ ก็ยอมรับและเข้าใจทางร้านว่า เป็นการเตือนลูกค้าให้ตักแต่พออิ่ม แต่ก็ไม่เคยถูกปรับแต่อย่างใดเพราะตักแต่พอทานอิ่ม ไม่มีเหลืออาหารบนโต๊ะ ก็จะมีแต่หมูและผักเพียงเล็กน้อยที่อยู่ในหม้อเท่านั้น
ส่วนกรณีที่เป็นประเด็นดราม่าอยู่ในขณะนี้ ส่วนตัวรับไม่ได้ที่เจ้าของร้านทำแบบนี้กับลูกค้า เพราะเศษอาหารที่นำมาปรับลูกค้านั้น เป็นหมูที่เหลือในก้นหม้อเพียงหนึ่งชิ้น ไม่ใช่หมูสดที่ตักมาเป็นจำนวนมากแล้วรับประทานไม่หมด จึงมองว่าไม่เป็นธรรมสำหรับลูกค้าที่เข้าไปใช้บริการ เพราะถ้าเป็นตนเองที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ก็คงไม่เข้าไปใช้บริการอีก