เพื่อนบ้านแสบเจอคุก 21 ปี คดีจุดไฟเผาบ้านเพื่อนบ้านวอด ลักสมุดบัญชีไปถอนเงินเกลี้ยง

เพื่อนบ้านแสบเจอคุก 21 ปี คดีจุดไฟเผาบ้านเพื่อนบ้านวอด ลักสมุดบัญชีไปถอนเงินเกลี้ยง

เพื่อนบ้านแสบเจอคุก 21 ปี คดีจุดไฟเผาบ้านเพื่อนบ้านวอด ลักสมุดบัญชีไปถอนเงินเกลี้ยง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เพื่อนบ้านตัวแสบ แอบเข้าไปขโมยสมุดบัญชีธนาคารของป้าข้างบ้าน และจุดไฟเผาบ้านวอดทั้งหลัง    

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2562 น.ส.สุภาภรณ์ อายุ 39 ปี ได้เข้าไปในบ้านของ นางภาณี หรือ ป้าผัน ชาวบ้าน ม.7 ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง และได้ลักเอาสมุดธนาคาร ธกส.สาขาแม่เมาะ พร้อมทั้งบัตรประจำตัวประชาชน และเงินสดอีก 200 บาท ก่อนที่จะลงมือวางเพลิงเผาบ้านของนางภาณี จนไฟไหม้วอดทั้งหลัง

จากนั้น น.ส.สุภาภรณ์ ได้นำสมุดธนาคาร พร้อมบัตรประจำตัวของนางภาณี และปลอมลายมือชื่อในใบถอนเงินของธนาคาร และสามารถถอนเงินจากบัญชีมาได้จำนวน 28,000 บาท

ต่อมาวันจันทร์ที่ 18 พ.ย. นางภาณีได้เดินทางไปทำบัตรประจำตัวประชาชนใหม่ เพราะเข้าใจว่าบัตรที่เก็บไว้กับสมุดบัญชีธนาคารในบ้านถูกไฟเผาไหม้ไปทั้งหมดแล้ว จากนั้นจึงได้เดินทางไปที่ธนาคารเพื่อจะเบิกเงินนำมาใช้จ่าย แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบหมายเลขบัญชีของนางภาณีแล้วพบว่ามีการถอนเงินออกจากบัญชีสาขาอื่น นางภาณีพร้อมญาติจึงเดินทางไปติดตามตรวจสอบที่ธนาคารสาขาที่มีการถอนเงิน และขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดของธนาคารจนทราบว่าผู้ที่มาถอนเงินคือ นางสุภาภรณ์ อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่มีบ้านเรือนอยู่ใกล้กับบ้านของนางภาณีเอง

นางภาณี จึงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.แม่เมาะ ซึ่งต่อมา วันที่ 20 พ.ย. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมตัว นส.สุภาภรณ์ ได้และทำการสอบสวน จนถูกส่งฟ้องศาล

ล่าสุด เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา ศาลได้พิพากษาจำคุก น.ส.สุภาภรณ์ 4 ปี ฐานลักทรัพย์ในเคหสถาน จำคุก 15 ปี ฐานวางเพลิงเผาทรัพย์ สำหรับความผิดฐานใช้เอกสารสิทธิปลอม 4 ปี จำเลยรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 ปี รวม 21 ปี รอบใบถอนเงิน ใช้ค่าสมุดและบัตรประชาชน 200 บาท และให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตัวบ้าน 568,260 บาท ค่าสินไหมทดแทนทรัพย์สินภายในบ้าน 241,000 บาท ค่าเสียหายอย่างอื่นที่ไม่ใช่ตัวเงิน 100,000 บาท รวมเป็นเงิน 909,260 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ของเงินต้น 909,260 บาท

นางภาณี หรือ ป้าผัน ได้เล่าให้ฟังว่าเมื่อย้อนไปเมื่อวันเกิดเหตุ วันนั้นไม่มีใครอยู่บ้าน ทั้งป้าและสามีก็ออกไปทำงาน บ่ายได้รับโทรศัพท์จากภรรยาผู้ใหญ่บ้านแจ้งว่าบ้านไฟไหม้จึงรีบกลับมาดู เมื่อมาถึงพบว่าบ้านถูกไฟไหม้วอดหมดแล้วถึงกับเป็นลมล้มพับไปทันที ซึ่งในตอนแรกก็คิดว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่ด้วยเอกสารทรัพย์สินภายในบ้านถูกไฟไหม้ไปหมด จากนั้นจึงรีบไปทำเอกสารส่วนตัวและรีบไปธนาคารเพื่อถอนเงินมาใช้ แต่ธนาคารบอกว่าเราได้ถอนเงินไปแล้วซึ่งไม่เป็นความจริง จึงต้องไปขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดจึงรู้ว่า น.ส.สุภาภรณ์ เป็นผู้ไปถอนเงิน

จากนั้นจึงไปแจ้งความและทำการสืบสวนจนทราบว่า น.ส.สุภาภรณ์เป็นคนเผาบ้านด้วย เมื่อศาลพิพากษาออกมาแบบนี้ตนเองก็พอใจ แต่ด้วยที่ทรัพย์สินของตนสูญเสียไปทั้งหมด แม้ศาลจะพิพากษาให้ชดใช้ค่าเสียหายให้ แต่ก็ยังไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปเพราะคิดว่าคงไม่ได้เงินแน่นอน เนืองจาก น.ส.สุภาภรณ์ ไม่มีทรัพย์สินใด ๆเลย ขณะที่ป้าผันปัจจุบันยังคงพักอาศัยที่บ้านของลูก ซึ่งได้มีการต่อเติมเป็นเพิงเพิ่มขึ้น ส่วนบ้านของตนเองที่ถูกไฟไหม้นั้น ทางสวนป่าแม่เมาะได้อนุเคราะห์เสาและไม้มาทำเป็นโครงสร้างให้โดยได้รับเงินบริจาคมาเป็นค่าแรงและซื้อวัสดุได้บางส่วน แต่ขณะนี้บ้านยังไม่เสร็จเรียบร้อย เนื่องจากยังไม่มีเงินที่จะทำต่อได้

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook