คุยเรื่องรักๆ ของ "เพชร กรุณพล" แดดดี้สายฮา ไม่รักขอแค่บอก อย่าหลอกกันก็พอ

คุยเรื่องรักๆ ของ "เพชร กรุณพล" แดดดี้สายฮา ไม่รักขอแค่บอก อย่าหลอกกันก็พอ

คุยเรื่องรักๆ ของ "เพชร กรุณพล" แดดดี้สายฮา ไม่รักขอแค่บอก อย่าหลอกกันก็พอ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ขึ้นแท่นเป็นแดดดี้คนใหม่ขวัญใจสาวน้อยสาวใหญ่ สำหรับนักแสดงหนุ่ม เพชร-กรุณพล เทียนสุวรรณ ที่ตอนนี้ชื่อของเขาถูกพูดถึงอย่างมากอีกครั้ง หลังจากได้เคยออกมาแสดงความคิดเห็นและแสดงจุดยืนทางการเมืองที่สนับสนุนระบอบประชาธิปไตย และยังคงแสดงจุดยืนนั้นเสมอมา

ทำให้ตอนนี้หลายๆ คนที่มีแนวความคิดในทางเดียวกันต่างพากันสนับสนุนทั้งผลงานและธุรกิจของเพชรแบบที่เจ้าตัวก็ตกอกตกใจอยู่พอสมควร พร้อมกับความฮอตกลายเป็นขวัญใจสาวๆ ทั่วบ้านทั่วเมือง จนได้ชื่อว่าเป็น "แดดดี้" คนใหม่ 

และในวันนี้ sanook.com บุกไปถึงถิ่นที่ร้าน On a Cloud Café ราษฎร์บูรณะ ซอย 4 ร้านกาแฟของหนุ่มเพชรเอง แต่ขอเบรกเรื่องเครียดๆ จากสถานการณ์บ้านเมืองมาพูดคุยถึงมุมน่ารักๆ เบาๆ สบายๆ อย่างเรื่องความรักกันสักหน่อย เพราะก่อนหน้านี้เจ้าตัวก็ขึ้นชื่อเรื่องสาวๆ อยู่ไม่น้อย แถมตอนนี้ยังทำสาวๆ อกหักกันเป็นแถวเพราะมีเจ้าของหัวใจเป็นสาวสวยอายุห่างกันถึง 21 ปี แซ่บขนาดนี้รอไม่ได้ไปคุยกับหนุ่มฮอตคนนี้กันเลย

 แฟนของเรานอกจากจะเป็นแฟนแล้วยังเป็นพนักงานในร้านด้วย?

"คนนี้เขาเป็นพนักงาน จ่ายเงินเดือน เป็นผู้จัดการร้าน (ยิ้ม) แต่เขาทำงานเกินหน้าที่ไปนิดหนึ่ง ผมว่าจะไล่ออกแล้ว คือ เขาไม่ได้ดูแค่เงินร้าน เขาดูเงินผมด้วย (หัวเราะ) แต่ไล่แล้วก็ไม่ไป ไล่แล้วจริงๆ นะ ผมบอกให้เขาไปทำงานที่อื่น เพราะว่าเขาเรียนจบมาก็มาทำงานอยู่ที่นี่เลย เราก็อยากให้ลองไปหาประสบการณ์การทำงานก่อนไหมว่าเวลาทำงานผิดพลาดจะต้องโดนอย่างไร เวลาที่มีความเห็นแตกต่างจากหัวหน้างาน แล้วต้องแก้ปัญหาอย่างไร แต่มาตอนนี้ มีปัญหากับหัวหน้างาน จะด่าหัวหน้างาน ไม่ได้ เป็นผู้จัดการที่มีอำนาจเหนือกว่าเจ้าของธุรกิจ (หัวเราะ)"

"ที่เห็นเขามาทำงานในร้านเขาไม่ได้มาทำเล่นๆ นะครับ เขาเหนื่อยจริงๆ เพราะว่าเมื่อก่อนผมก็ทำขนมคนเดียว เขาก็เป็นลูกมือ ช่วงว่างผมก็ส่งเขาไปเรียนเลย ให้เรียนเต็มที่เลย เขาก็ไปเรียนทำขนม แล้วเขาก็เคยทำงานร้านกาแฟมาก่อน เป็นช่วงฝึกงาน ตอนนี้ก็มาทำให้ร้านเราเต็มที่"

ไม่กลัวเหรอ ที่เขาบอกว่าคนเป็นแฟนกันทำงานด้วยกัน เดี๋ยวจะทะเลาะกัน?

 "ไม่เป็นไรนี่ นี่ก็ไม่ใช่คนแรก ก็ทะเลาะกันบ่อย ทะเลาะกันก็ต้องสอน ด้วยความที่เราเป็นผู้ใหญ่กว่า ก็ต้องค่อยๆ สอนด้วยเหตุผล บางทีเขาก็ไม่เข้าใจ เราก็บอกว่า ลองไปถามแม่ดู เขาก็ปรับตัว หลังๆ ก็ดีขึ้น ผมก็บอกว่า เวลาพี่สอนเรื่องหน้าที่การงานในร้าน หนูอย่าชักสีหน้า อย่าขึ้นเสียง เพราะเวลาพนักงานคนอื่นเห็น มันเสียการปกครอง จะทำให้เขารู้สึกว่าเวลาพี่เพชรสอน เราเถียงได้เหรอ เอาจริงๆ เถียงก็ได้ แต่ต้องมีเหตุผลในการเถียง ไม่ใช่ถึงเวลาแล้วไม่ฟัง บางทีให้ทำอะไรแล้วไม่ทำ ไม่ใส่ใจ คิดว่าเป็นแฟนเหรอ ในเวลางานพี่ คือ เจ้านาย ไม่ใช่แฟน กลับบ้านเดี๋ยวพี่นวดให้ (หัวเราะ)  เแต่ขาดีตรงที่มีความเป็นผู้ใหญ่ค่อนข้างสูง เวลามีปัญหาก็จะมานั่งคุย ถ้าเขาผิด เขาก็ขอโทษ ถ้าเราผิด เราก็ขอโทษครับ"

 เมื่อก่อนก็มีประสบการณ์การทะเลาะกับแฟนมาเยอะเหมือนกันใช่ไหม?

"คนเราคบกัน จะเป็นแฟน เป็นเพื่อน มันก็ต้องมีที่เห็นไม่ตรงกัน ถึงเวลาที่เห็นไม่ตรงกัน แล้วทัศนคติมันแตกต่างกันชัดเจนมากๆ ก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ ที่บอกว่าไม่ใช่คนแรก คือ ไม่ใช่คนแรกที่เลิกกัน คือ อายุขนาดนี้ จะอยู่จะไปมันไม่ใช่เรื่องสำคัญของชีวิตแล้ว ชีวิตมันไม่ใช่แค่เรื่องความรักไง ชีวิตมันคือการดำรงอยู่ให้มีความสุขอยู่ตรงนี้ เห็นเพื่อนพ่อค่อยๆ ตาย เพื่อนตัวเองก็ค่อยๆ ตาย เลยบอกเขาว่า พี่ก็ไม่รู้ว่าจะอยู่กับหนูถึงเมื่อไหร่ ทำทุกวันให้มีความสุข อย่าเอาความทุกข์มาใส่ตัว พรุ่งนี้พี่อาจจะตายก็ได้ หนูอาจจะตายก็ได้ เพราะฉะนั้น หาความสุขดีกว่า อย่ามานั่งทะเลาะ อย่ามานั่งเสียเวลากับเรื่องไร้สาระเลย ชีวิตมีอะไรเยอะ แต่ตอนนี้คบกันมา 3 ปี ก็ถือว่าราบรื่นดีครับ"

เพชร กรุณพล

 ภาพลักษณ์ดูอบอุ่น เป็นแดดดี้ ตัวจริงเหมือนภาพที่คนมองไหม?

 "ไม่รู้นะ ผมคิดว่าผมเป็นคนตลก ไม่งั้นคงไม่เป็นเพื่อนกับพี่เสนาลิง กับ พี่เอ๊าะ กีรติ หรอก (หัวเราะ) เราเลยไม่ชอบคนที่ท่าเยอะ เรารู้สึกว่า ไม่เหนื่อยกันเหรอวะ ใช้ชีวิตแบบที่ต้องแคร์สายตาใครก็ไม่รู้ มึงไม่รู้จักน่ะ มึงแคร์คนที่อยู่ข้างมึงดีกว่าไหมวะ"

 ช่วงนี้กระแสเรามาแรงแอบตกใจไหม?

"ตกใจนะ ตอนกลางคืนน้องบอกว่า พี่เพชรขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ด้วย เราก็ถามว่าเรื่องอะไรวะ น้องบอกว่าเรื่องการเมือง ตอนน้องส่งมาให้ตอนนั้น 4 ทุ่ม มีรีทวีตประมาณ 500 เราก็ เออๆ ช่างมันเถอะ ง่วง นอน พอเช้าขึ้นมา โอ้โห! ไลน์กระหน่ำ เพื่อนก็โทรมา มึงขึ้นทวิตเตอร์ เราก็เทรนด์อะไรวะ ขึ้นเทรนด์แล้วไง คือ เรามีทวิตเตอร์ไว้อ่านข่าว ขึ้นเทรนด์แล้วไง ก็ไม่รู้สึกอะไร รุ่งขึ้นก็มาทำงาน ติดเทรนด์วันพุธ หรือ พฤหัสบดี ก็ยังเฉยๆ ลูกค้าก็ไม่มีเหมือนเดิม ก็ลั้นลาๆ  ก็นั่งคุยนั่งเล่น เฮ้ย ขึ้นที่ 1 แล้วนะเว้ย 2 แสนกว่าทวีตแล้วนะ แล้วไง แลกตังค์ได้ไหม (หัวเราะ) ก็ยังขำอยู่

วันศุกร์ไปถ่ายละคร คนบอกจะมาที่ร้านเยอะมาก แล้วปรากฏว่าคนมาที่ร้านเยอะมากจริงๆ แล้วเราไม่อยู่เพราะไปทำงาน แฟนโทรไปด่าว่าเมื่อไรจะกลับ!!! ของหมด ไม่มีอะไรขาย เราก็กลับมาอบขนมถึงตี 2 เอาไว้ขายาเป็นอย่างนี้ตลอดไป ก็ดีนะ เราก็จะได้จ้างคนเพิ่ม แต่คิดว่าแฟนน่าจะตายก่อน ผมจะได้หาเด็กใหม่ (หัวเราะ)

 ถูกเรียกว่า "แดดดี้" มีสาวๆ มากรี๊ดไหมช่วงนี้?

 "มีนะ กรี๊ดแล้วก็วิ่งไปทางโน้นเลย กลัว!"

เพชร สายฮา

เมื่อก่อนนอกจากความเฟี๊ยชเรื่องความไม่ยอมคนแล้ว เรื่องสาวๆ ก็ขึ้นชื่อน่าดู?

"มีแต่คนคิดว่าผมเจ้าชู้ แต่จริงๆ แล้วผมมีแฟนทีละคนนะ ตอนที่ไม่มีแฟน เราเจอคนที่ชอบ ก็โทรคุย ระหว่างคุย เจออีกคน คนนี้ก็น่ารัก ขอเบอร์หน่อยสิ เราก็ดูไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอคนที่ตอบโจทย์ถึงจะใช้คำว่าแฟน เคยมีอยู่คนหนึ่ง เราทุ่มเท ไปรับไปส่ง สุดท้าย เขาบอกว่าไม่อยากคุยกับพี่แล้วนะ ผมก็ถามเพื่อนว่า คือ อะไรวะ เพื่อนบอกว่า เขามีแฟนแล้วไงมึง ตอนนั้นเราก็งงเลยว่าแล้วที่ไปเที่ยวกับเรา คือ อะไรวะ เพื่อนก็บอกว่า เขาไปกับมึงคนเดียวที่ไหนล่ะ เราก็เห้ย! ได้เหรอ ได้สิ มีสิทธิอะไรไปด่าเขา เราก็ได้ประสบการณ์มาว่า โอเค แบบนี้ก็ได้"

เป็นสายเปย์หรือเปล่า?

"มีช่วงหนึ่ง ได้เงินจากหุ้นมาเยอะ พาน้องๆ ไปเที่ยวญี่ปุ่นฟรี พาแฟนไปเที่ยวยุโรป หมดค่าเที่ยวเป็นล้าน (หัวเราะ)"

มีแบบเสียเป็นแสน แขนไม่ได้จับบ้างไหม?

"ไม่มี เพราะว่าถ้าไม่ใช่แฟน เราไม่แตะตัว อย่างที่บอกว่าเวลาเราคุย เราไม่แตะตัว ไม่พาไปกินข้าว ไม่พาไปดูหนัง คุยอย่างเดียวจนกว่าจะรู้ว่าโอเค เจอตัวหน่อย บางคนเจอตัวแล้วไม่ใช่ก็มี เพราะบางคนเจอหน้ากันแล้วไม่เหมือนคุยโทรศัพท์ เคมีมันไม่ได้

เคยมีคนหนึ่งเราชอบมาก โดนหมดทุกสิ่งอย่าง ฐานะ อาชีพ การศึกษา หน้าตา แบบที่เรียกว่าแพ้ทาง แต่เราไปเจอแล้วเรานั่งเป็นหุ่นเลย เพื่อนเราก็เชียร์ เพื่อนเขาก็เชียร์ เขาก็แบบ ก็พี่เขาไม่คุย จะให้ทำไง จะคุยกับเขาต้องจด เขียนสคริปต์ พอหมดสคริปต์ก็แค่นี้ก่อนนะครับ ไม่กวนแล้ว สวัสดีครับ สุดท้ายก็ไม่ได้คบกัน ตอนนี้เขาก็แต่งงาน มีลูกไปแล้ว"

เป็นคนจริงจังกับความรักไหม?

"ผมซีเรียสเรื่องความรักนะ แล้วก็ให้อิสระทุกคน ผมบอกทุกคนว่าเราคบกัน เราไม่รู้หรอกว่าจะเลิกกันวันไหน แล้วคนที่เลือกคบกัน ทุกคนเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเอง ทั้งเรื่องฐานะ ความมั่นคง อยู่ที่ว่าเราเลือกอะไรเป็นที่ตั้ง

ผมบอกแฟนว่าถ้าหนูเจอสิ่งที่หนูชอบ แล้วพี่ไม่ใช่ ขอแค่บอกพี่ พี่ให้ไปเลย เพราะสุดท้าย จะมานั่งทนทำไม แต่ขออย่างเดียว อย่าหลอกกันเพราะพี่ก็เคยโดนหลอก แล้วพี่เจ็บมาก"

"เราเคยโดนหลอกว่ารัก แล้วเขาก็คุยกับคนอื่นด้วย จนเขาโอเคกับคนอื่นก็ขอเลิกกับเรา ซึ่งเรารู้สึกว่ามันไม่ดี มันเจ็บนะ เราก็ถามเขาว่า หนูเคยอกหักไหม พี่เคยอกหัก มันเจ็บ ถ้าหนูเคยอกหักแล้วมันเจ็บ หนูอย่าทำ อย่าโกหกกัน ผมก็จะบอกทุกคนว่ามาคุยกัน ถ้าหมดรักแล้วก็แค่บอก

เหมือนแฟนคนก่อน สัก 7 – 8 ปีที่แล้ว นั่งๆ กันอยู่ ผมรู้สึกว่ามีกลิ่นแปลกๆ ก็ถามเขาว่าเรายังรักกันอยู่ไหม เขาก็ร้องไห้ เราก็บอกว่า บอกแล้วไง ไม่รักก็คือไม่รัก ก็เป็นเพื่อนกัน เราก็เดินออกมา ร้องไห้ แต่ด้วยความเป็นผู้ใหญ่ ก็ร้องไม่นาน ร้องไห้วันสองวัน เพราะบ้านต้องผ่อน รถต้องผ่อน กูต้องไปทำงานแล้ว (หัวเราะ)

 การจัดการกับความรู้สึกด้วยความเป็นผู้ใหญ่มันก็ช่วยได้ ตอนเด็กๆ มันไม่สนใจอะไรไง อกหักก็จะเป็นจะตาย เคยหนีไปเมืองนอก 6 เดือน กับแฟนคนแรกที่เข้าวงการ ไปอยู่ห้องใต้ดิน เรียนภาษา เดินด็อกแด็กๆ ลุยหิมะเลย"

 เรียกว่าประสบการความรักโชกโชนไหม?

 "ไม่โชกโชนหรอก ก็ไปเรื่อยๆ ตอนแรกก็โกรธทุกคนที่เลิกกับเรา แต่พอเวลาผ่านไป อ๋อ กูนี่แหละไม่ดีเอง แต่ไม่ไช่ว่าเราไปทำร้ายร่างกายหรือด่าอะไรนะ เพียงแต่เราไม่ใส่ใจ ด้วยความที่คบกันแล้วเราปล่อยให้เขาอิสระ แต่นี่แฟน ไม่ใช่ไก่ ปล่อยให้หากินเอง (หัวเราะ) พอมานั่งนึกดู เราต่างหากล่ะที่ปล่อยให้เขาไปหาคนอื่น เราต่างหากล่ะที่ไม่ใส่ใจดูแล

สุดท้ายก็โทรไปขอโทษทุกคน เขาก็งง บางคนแต่งงานไปแล้ว พอโทรหาทุกคน มันก็ปลดล็อกตัวเอง เลยรู้สึกว่าจริงๆ แล้ว พอเรามองมุมเปลี่ยน เรื่องราวเดิมมันก็ต่างกัน ถ้าเราคิดว่าเขาผิด เราก็จะโทษเขาตลอดเวลา แต่ถ้าเราลองนึกว่าเราผิดแล้วเราหาเหตุผล เราก็มาดูว่ามันจริงไหม"

เพชร กรุณพล

 

ความรักครั้งนี้ อายุต่างกันปรับตัวเข้าหากันยังไงบ้าง?   

"ก็พยายามสอน พยายามคุย แต่โชคดีอย่างหนึ่ง คือ เขาไม่เหมือนเด็กทั่วไป อัปเฟซบุ๊กประมาณ 4 เดือนครั้ง เขาไม่ใช่คนโซเชียล ไม่แต่งหน้า ไม่ช้อปปิ้ง ชอบถ่ายรูป ไม่เคยออกไปข้างนอกเพราะอยู่กับแม่ ไม่เที่ยวต่างจังหวัด ไม่เคยไปต่างประเทศ ไม่เคยมีพาสปอร์ต แม่เขาก็ยังไม่ปล่อยให้ไปไหน แต่นิสัยเขาเป็นผู้ใหญ่ แล้วเขาคุยกับคนรุ่นเดียวกันไม่ค่อยรู้เรื่อง เพราะเขาไม่เที่ยว ไม่เที่ยวกลางคืน ไม่กินเหล้า ดังนั้นเขากับผมคุยกันก็โอเค เขาก็พยายามอยากจะทำอะไรให้เรามีความสุข เขาคิดถึงเรามากกว่า เราก็เออ ดีว่ะ"

จีบกันอย่างไร?

"ไม่ได้จีบนะ คือ ตอนนั้นเขาอกหัก แล้วพี่ชายเขาเล่นละครกับเรา เขาก็ไม่รู้จะปรึกษาใคร ก็เลยไดเร็กข้อความมาปรึกษา แล้วจังหวะนั้นเราก็เพิ่งเลิกกับแฟนด้วย ก็ให้คำปรึกษาเขา ส่งข้อความคุยกันประมาณเดือน สองเดือน ผมก็เลยขอเบอร์ เพราะขี้เกียจพิมพ์ จริงๆ ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร แล้วก็ยังไม่เจอตัวจริง เข้าไปดูใน IG ก็ ตัวปลอมป่ะวะ มีรูปอยู่สิบกว่ารูปคนบ้าอะไร (หัวเราะ)

เราก็คุยปรึกษาเรื่องชีวิตเขาไง แล้วเวลาจะสอนคน คนแก่มันพูดเยอะ ขี้เกียจพิมพ์ ก็คุยเกือบทุกวัน จนเหมือนกลายเป็นชีวิตประจำวัน คุยกันอยู่เกือบครึ่งปี แล้วบ้านอยู่ใกล้กัน ห่างกันประมาณ 2 กม. เขาก็มากินข้าวใกล้ๆ คอนโด เราก็ลงไปหาเลย ก็เจอกันเราก็รู้สึกเขาน่ารักดี"

อายุห่างกันขนาดนี้ โดนแซวไหม

 "โดนๆ เพื่อนเขาก็บอกว่าจะรอดเหรอ นี่รอสมน้ำหน้าเลยนะ มันเป็นไปไม่ได้หรอก พี่เขาเป็นคนในวงการ อายุเยอะ เจ้าชู้ เราก็แล้วแต่ อยากลองคบก็คบ ไม่เห็นยากเลย ชีวิตมันไม่ใช่เรื่องยาก อยากทำก็ทำ ไม่อยากทำก็แค่หยุด เขาก็เลยมา คุยๆ ก็โอเค ก็เลยคุยกับเขาว่าอยากคบกันไหม เขาบอกว่าอยาก อ่ะ งั้นเดี๋ยวพี่ไปขอแม่ เพราะเรารู้สึกว่าเราไม่ใช่เด็กคุยกันแล้ว เราอายุห่างจากแม่เขาสิบกว่าปี ก็เลยคิดว่าต้องคุยให้เป็นกิจจะลักษณะ เพราะถ้าเรามีลูกอายุเท่านี้ คบกับผู้ชายอายุเท่านี้ แน่นอนว่าเราต้องเป็นห่วง ก็เลยไปบอกแม่เขาว่าขอคบนะครับ คุณแม่ไม่ต้องห่วง ผมจะดูแลไม่ให้เขามีข่าวคราวเสียหาย"

 แม่มีช่วงไฟเขียว ไฟแดงไหม?

 "ไม่มี เพราะน้องก็อยู่บ้านเขา โทรคุยกัน ถึงเวลาก็ไปกินข้าวแล้วก็ไปส่งบ้านตรงเวลา อยู่ในสายตา แล้วก็บอกแม่ว่าไม่ให้เสียหาย"

เรามองอนาคตกับความรักครั้งนี้ไว้ยังไงบ้าง? 

"ก็มองอนาคตแหละ สุดท้ายก็อยากให้เขาโตกว่านี้ ผมก็บอกเขาว่าพี่คบแฟนมาแล้วเลิกกันตอนแฟนอายุ 27 – 28 หมดเลย เพราะที่ผ่านมาแฟนพี่ 22 – 23 ทุกคน พอคบไป 3 – 4 ปี เขาอายุ 27 – 28 – 29 ก็เลิกทุกคน เพราะอย่างที่บอกแหละ มันเป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน ช่วงไม่ใส่ใจ ใช้ชีวิตแบบเป็นตัวเอง แล้วทำงานข้างนอก ไม่ได้ทำงานกับเรา มีคนมาเทคแคร์ดูแล มันเริ่มเห็นความต่างว่าทำไมแฟนไม่ใส่ใจ แต่คนที่ไม่ใช่แฟนกลับใส่ใจ แล้วก็ไป ก็เล่าให้เขาฟังแบบนี้เลย พอหนูอายุ 27 – 28 ถ้าหนูคิดได้ หนูก็ไป ถ้าวันนั้นหนูไม่อยากไป เราก็มาแต่งงานกัน"

ประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้เราเปลี่ยนไปเยอะไหม?

"เรื่องความใส่ใจก็เปลี่ยนนะ มันอยู่ที่ความใจเย็นขึ้น ไม่ได้โวยวาย เมื่อก่อนผมทำร้าน Mute ที่ทองหล่อ กับร้านสละโสด ที่รังสิต ร้านโสด ที่รัชดา ผมเจ้าพ่อร้านเหล้าเลย เราก็ตระเวนไปตามร้านต่างๆ ดูคอนเสิร์ตลั้นลา ผู้หญิงบางคนก็รู้สึกว่าเราไม่มีเวลาให้ แต่ตอนนี้ก็โอเคขึ้น"

เพชร และหวานใจ ช่วยกันทำงานในร้าน

เคยอ่านเจอว่าเพชรไม่อยากมีลูก ตอนนี้ความคิดเปลี่ยนไปไหม?

"ไม่ ก็ไม่อยากมี เพราะว่าโลกปัจจุบันมันเหนื่อย การมีลูก ไม่มีลูก ไม่ใช่เรื่องผิดหรอก บางคนการมีลูกทำให้มีความสุขขึ้น แต่สำหรับผม ผมมีแฮชแท็ก #พี่เพชรท่องโลก ผมมีความฝันว่าพี่อยากไปมาชูปิกชู อยากไปเม็กซิโก อยากไปแอฟริกา อยากไปเยอะมาก ถ้ามีลูกก็ไปไม่ได้ เพราะพี่มั่นใจว่าถ้าต้องมีลูก ต้องรักลูกชิบเป๋งเลย อยากเลี้ยงดู อยากให้เวลา อยากให้เรียนโรงเรียนดีๆ อยากให้สิ่งที่ดีที่สุด แต่จะไม่ตามใจ จะให้ลูกโตมาเป็นคนดีให้ได้ เพราะฉะนั้น วิธีการต่างๆ ทุกอย่างต้องใช้เงิน เลยมานั่งคุยกันว่าเด็กในปัจจุบัน จะให้เรียนโรงเรียนดีๆ ได้ ต้องมีเงิน 20 – 30 ล้าน แล้วเราห้ามคาดหวังว่าเขาเรียนจบมาต้องมาเลี้ยงดูเรา เพราะเราอยากให้เขาเกิด เขาไม่ได้อยากเกิด หน้าที่ของเราคือเลี้ยงดูให้เขาทำงานได้ เขาทำงานได้นั่น คือ ชีวิตของเขาแล้ว

พอมานั่งคิดกับตัวเองแล้วก็บอกแฟนว่า ถึงเวลาหนูจะคาดหวังกับใคร หนูจะทุ่มเทชีวิตเพื่อเด็กคนหนึ่ง 20 ปี แล้วเขาก็ไปแต่งงานเหรอ แล้วตอนป่วยจะทำอย่างไร ผมก็ถามตัวเองว่าแล้วตอนนี้มึงอยู่กับพ่อแม่ไหม พอมีลูกมีหลานก็ไม่ได้เจอพ่อแม่ ถึงได้บอกว่า ดูแลตัวเองเถอะ ผมก็บอกทุกคนว่า 20 – 30 ล้าน ที่ต้องใช้ดูแลลูก พี่จะเก็บเข้าบัญชี พอแก่ตัวลงก็จะจ้างพริตตี้มาดูแล (หัวเราะ) ซึ่งน้องเขาก็คิดเหมือนกัน เขาก็ไปเลี้ยงหลาน เล่นกับเด็ก แล้วเขาก็รู้สึกว่าเหนื่อย ผมก็บอกว่านี่แหละ 20 – 30 ล้าน ก็เก็บไว้ พอพี่แก่ หนูก็ยังเป็นวัยรุ่น อยากไปเที่ยวก็ไป เช้าก็เข็นพี่ไปตากแดด เย็นก็กลับ (หัวเราะ)"

แล้วเรื่องแต่งงานล่ะ?

"ถามว่าแต่งไหม ก็แต่งแหละ แต่ไม่ได้เชื่อเรื่องการแต่งงาน เพราะผมเห็นเพื่อนผมรักกันปานจะกลืนกิน จัดงานใหญ่อลังการ สุดท้ายก็เลิก แล้วมันต่างอะไรกันกับไม่แต่ง ทะเบียนสมรสมันช่วยอะไรได้ ลูกยึดเหนี่ยวได้ คุณเอาลูกมาเป็นข้อแม้ในการยึดเหนี่ยวความสัมพันธ์ของคนมันเห็นแก่ตัว ถ้ามีก็ดี แต่อย่าเพิ่งมีเลย ถ้าอยากจัดงานแต่งก็คงจัดเล็กๆ คือ มีผมกับเขาแหละ ไม่มีใคร (หัวเราะ)"

เรียกว่ากว่าจะกลายมาเป็นแดดดี้สายสตรองแบบนี้ พี่เพชรของสาวๆ ก็ผ่านประสบการณ์ทั้งหวานทั้งขมมามากมาย แบบนี้แหละเขาเรียกว่าแดดดี้ผู้ช่ำชองใช่ไหมสาวๆ 

อัลบั้มภาพ 15 ภาพ

อัลบั้มภาพ 15 ภาพ ของ คุยเรื่องรักๆ ของ "เพชร กรุณพล" แดดดี้สายฮา ไม่รักขอแค่บอก อย่าหลอกกันก็พอ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook