เจ้านายปิดตายห้อง "นาธาน" รอให้วิญญาณมาอยู่ เล่านาทียื้อชีวิต

เจ้านายปิดตายห้อง "นาธาน" รอให้วิญญาณมาอยู่ เล่านาทียื้อชีวิต

เจ้านายปิดตายห้อง "นาธาน" รอให้วิญญาณมาอยู่ เล่านาทียื้อชีวิต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รายการ "ถามสุดซอย" ออกอากาศวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 22.20 น. ทางช่องเนชั่น ช่อง 22 ดำเนินรายการโดย "เอิ๊ก พรหมพร ยูวะเวส" วันนี้ (6 ก.ค.) เปิดใจสัมภาษณ์ "ดร.ไพบูลย์ บุตรเลียบ" พี่ชายคนสนิท "นาธาน โอมาน" และหัวหน้างาน รวมทั้ง "ชิ อนุชา ลังประเสิร์ฐ" อดีตผู้จัดการส่วนตัว กรณีการเสียชีวิตกะทันหัน ที่ผ่านมาหลายปีข่าวคราวเงียบไป เขาทำอะไร และเพราะอะไรถึงเสียชีวิตโดยไม่มีใครทราบมาก่อน

ดร. ดูแลนาธานมาตลอด 7 ปี?

ดร.ไพบูลย์  : "ใช่ครับ แรกเริ่มเพื่อนผู้หญิงคนนึงเขาดูแลนาธานมาก่อนหน้านี้ 6-7 เดือน ทีนี้เขาไม่สามารถดูแลได้เพราะเขาเป็นผู้หญิงและมีครอบครัว ลักษณะงานที่ทำเป็นองค์กรเล็กๆ ก็เลยนำมาฝาก บอกว่ามีอะไรจะให้นาธานทำหรือเปล่าเพราะเขาเพิ่งออกจากเรือนจำ เราก็รับเขาเข้ามาที่บริษัท"

กังวลกับข่าวคราวเขามั้ย?

ดร.ไพบูลย์  : "ไม่กังวลเลย เพราะไม่มีอะไรน่ากังวล เขาไม่อยู่ในจุดที่ทำให้องค์กรเราเสียหาย เรารับปากกับทางเพื่อนว่าจะเอาไปดูแล เพราะเขาอยากกลับเนื้อกลับตัว เขาไม่มีที่ไป ไม่มีทางไป เราก็ให้โอกาส"

ช่วงแรกให้เขาทำอะไร?

ดร.ไพบูลย์  : "ช่วงแรกให้เขาอยู่ในกลุ่มโรงแรม เป็นผู้จัดการทั่วไป ประสานงานกับผู้จัดการสาขา"

พี่ชิทราบมั้ยว่าตอนนั้น นาธานไปอยู่ในความดูแลของดร.เอ็ม?

ชิ : "หลังจากนาธานออกจากคุกเรามีโอกาสได้คุยกัน พี่เองก็ตกงาน ไม่มีงานทำ ไม่มีปัญญาจะเลี้ยงเขา หรือดูแลเขาได้ เขาไปอยู่กับดร.เขาก็มาเล่าให้ฟังว่าดร.ทำลำโพง ทำโรงแรม เราก็เบาใจว่าอย่างน้อยนาธานมีที่ไป มีคนดูแล เราไม่ต้องห่วง เราติดต่อสื่อสารกันตลอด มีไปกินไปเที่ยวกันตลอดเวลา แต่ภาพที่จะให้สื่อเห็นมันยาก เพราะมันถูกโฟกัส การมาประกบคู่กันสื่อถามแล้ว มึงโกหกตอแหลทั้งคู่ ช่วงเวลานั้นความยากลำบากเราคือหน้าที่อาชีพ เราอยู่ในที่สว่าง การกลับมาของนาธานคนยังไม่ยอมรับ ยอมรับยาก เราก็เลยต่างคนต่างอยู่ดีกว่า แต่หลังบ้านเราคุยกันดูแลกันตลอดเวลา พอเขาไปทำงานก็เออ ดีแล้ว เรื่องการกลับเข้าวงการก็แล้วแต่โอกาส แต่ถามว่าช่วงนั้นออกมาได้ทำเพลง เขียนหนังสือกันแล้วใครจะดูมึงวะ คนชอบเป็นแสน คนเกลียดเป็นล้าน ไม่มีคนดู ไม่มีใครยอมรับนาธานได้ตอนนั้น"

หลังๆ เขามาพูดกับดร.เอ็มว่าจะเป็นคนดีแล้ว?

ดร.ไพบูลย์  : "ตอนนั้นเขาออกจากผมไป 2 เดือน มีช่วงที่หนีไป พอดีอยู่ได้สองสามปี ต้องเรียนว่าเงินเดือนเขายังไม่ได้มาก เพราะเริ่มสตาร์ทงาน เขาบอกว่าเอาเงินคนนี้ไปจ่ายคนนี้ พอให้เอาเงินไปจ่ายเขาไม่ได้ไปจ่าย เขาบอกคนที่เขาไปจ่ายว่าเขาเดือดร้อน ขอให้ไม่บอกเสี่ยได้มั้ย ขอเอาเงินไปใช้ก่อน สุดท้ายคนนี้เขามาบอกผม ว่าอย่าไปด่ามันนะ เราก็โกรธ เขากลัวเราจะโกรธเขา เขาเลยหนีไปเลย 2 เดือน สุดท้ายไปไม่รอด ไม่มีอะไรกิน เราก็เลยไปรับเขาแถวๆ รามคำแหงนี่แหละครับ"

เงินที่เขาใช้ไม่พอ มาจากเขาเป็นคนใจสปอร์ต?

ดร.ไพบูลย์  : "ถูกต้องครับ นาธานถ้าให้ไป 5 พันบาท เขาจ่ายคนเดียวเลย เขาเป็นคนสปอร์ตมาก แม้กระทั่งคนงานขึ้นไปเช็ดถูให้เขา เขาก็ให้ 500 บาท เพราะกลัวไม่มาทำให้เขา"

เขาเริ่มป่วยตอนไหน?

ดร.ไพบูลย์  : "เห็นสัญญาณเมื่อกลางปีที่แล้ว เขาทานข้าวไม่ได้ เราก็ให้เขาไปหาหมอที่นครสวรรค์ ปรากฎว่าไม่ได้เป็นอะไร หมอบอกให้พักผ่อนให้เพียงพอ เขาเป็นคนนอนดึก เล่นแต่โซเชียลมีเดีย ให้ทานอาหารเยอะๆ อาการก็หายไปพักนึง แล้วเริ่มมาเป็นอีกครั้งตอนต้นปี"

หลังจากเขาอาการดีขึ้น?

ดร.ไพบูลย์  : "เขาขออนุญาตไปเรียนปริญญาโท เพราะอยากไปต่างประเทศ เราบอกโอเค ก็ไปเรียน ตอนไปเรียนก็มีเพื่อนพาแอดมิทที่รามคำแหง สัก 2 ครั้งแล้วเป็นช่วงโควิดพอดี ก็บอกให้เขาไปตรวจให้ดีว่าเป็นหรือเปล่า"

อาการเป็นยังไง?

ดร.ไพบูลย์  : "เป็นไข้หวัด อ่อนแรง ตัวร้อน ไปตรวจก็ไม่พบเชื้อโควิด หมอบอกว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ กลับมาอยู่บ้าน 2 เดือน ก็เกิดอาการอีก นอนอยู่บนห้องเขาก็ไลน์มาบอกว่าเขาไม่ไหว ต้องไปรพ. ผมก็ให้คนขับรถส่วนตัวพาไปรพ."

ดร.ดูแลใส่ใจนาธานเป็นพิเศษ?

ดร.ไพบูลย์  : "เรียนตรงๆ เขาไม่มีใคร เขาเคยบอกว่าจะมาตายที่ผมด้วย ผมก็บอกว่าเฮ้ย จะมาตายที่ผมทำไม ไปตายที่อื่น เราก็สนิทกัน เขาขับรถให้เราด้วย ช่วง 3 ปีหลังเขาเหมือนมาเป็นเลขาประจำตัว ไปไหนก็ไปด้วยกัน ไปจองตั๋วเครื่องบินก็ทำหน้าที่ อยู่กัน 24 ชม. เขาพักห่างจากผมประมาณ 400 เมตร"

"พอส่งไป คุณหมอก็บอกว่าเป็นโลหิตจาง มีภาวะการติดเชื้อ ก็กินยาฆ่าเชื้อ หมอให้รับประทานอาหารเยอะๆ เพราะลักษณะเหมือนเกล็ดเลือดมันต่ำ เขาผอมลง ทานข้าวไม่ค่อยได้ ปกติเขาเลือกทานอยู่แล้ว มา 10 อย่างก็ทานอย่างจะเล็กละน้อย อาการอื่นๆ ก็หนาวสั่น ที่สำคัญเป็นคนไม่ค่อยทานยา และไม่ค่อยไปฉีดยา สมมติหมอให้ไปฉีดยาต้องรักษาต่อเนื่อง พอเราถามว่าไปหาหมอยัง เขาบอกว่ายังเลย เขาบอกว่ารถพัง เขาขี้เกียจไป เป็นคนดื้อ"

น้ำหนักลดไปเท่าไหร่?

ดร.ไพบูลย์  : "น้ำหนักลด 10 กิโล"

พี่ชิทราบข่าวเขามั้ยว่าป่วย 3-4 เดือนที่ผ่านมา?

ชิ : "ไม่ทราบ แต่เห็นจากอินสตาแกรม เรายังคุยกันในกลุ่มว่านาธานป่วยหรือเปล่า เขาซูบลงไปมากจากเดิม เขาไม่บอกว่าป่วย เราคุยกันวาระสำคัญๆ เท่านั้นเพราะช่วงเวลานั้นเราคุยกันน้อยมาก ท้ายๆ เรามีปัญหากัน โกรธกัน"

พ่อแม่ทราบเรื่องป่วยมั้ย?

ดร.ไพบูลย์  : "พ่อเสียไปแล้ว เขาออกจากบ้าน ไม่ได้อยู่กับคุณแม่ตั้งแต่ 3-4 ขวบ พูดง่ายๆ ไม่ค่อยมีความผูกพันกับครอบครัว เราก็แจ้งเขาเพราะเป็นสิ่งที่ต้องแจ้งว่าเขาป่วยหนักนะ"

พอเขาเริ่มผอมลง ทานอาหารไม่ได้ ก็ยังอยู่บ้าน?

ดร.ไพบูลย์  : "ใช่ครับ เดินไปเดินมาแถวโรงจอดรถสัก 2 เดือน เราบอกให้หยุดก่อน ไม่ต้องไป ให้รักษาตัวให้เรียบร้อยก่อน จนวันที่ 2 ก.ค. เขาไปรพ.เอง ไปตามหมอนัดปกติ ไปฉีดยา แต่มีอ่อนแรงบ้าง เป็นลักษณะคนป่วยเลย แต่ไปรพ.เองได้ ตอนนั้นผมไม่ได้ไปด้วย เขาไลน์มาแจ้งว่าเขาไปรพ."

เขารู้ตัวมั้ยว่าอาการหนัก?

ดร.ไพบูลย์  : "เขาไลน์มาบอกว่าเขาเหนื่อย หายใจไม่ค่อยออก เขาร้องไห้ว่าไม่ไหวแล้ว เขาเหนื่อย ลูกน้องก็บอกว่าต้องไหวดิ สู้ๆ นะ ทานข้าวให้เยอะๆ เขาเป็นคนไม่ทานอะไรเลย"

หมอแจ้งมั้ยว่าอยู่ในช่วงวิกฤต  มีอะไรเป็นลางมั้ย?

ดร.ไพบูลย์  : "ผมได้รับแจ้งวันที่ 4 ก.ค. ตอน 8 โมง ผมไม่ได้รับโทรศัพท์ ประมาณ 8 โมงครึ่ง หมอบอกว่าให้โทรตามญาติจริงๆ ผมบอกว่ามีปัญหาอะไร เขาบอกว่ามีเรื่องต้องตัดสินใจ เขาหยุดหายใจไป 2 ครั้งแล้วคุณหมอก็ปั๊มขึ้นมา ซึ่งเขาเสียชีวิตหลังจากนั้นไม่เกินชม. ผมก็โทรไปแจ้งคุณแม่ บอกผจก.โรงแรมสาขานึงให้โทรตามแม่นาธาน และติดต่อน้องที่อยู่เยอรมัน ปกติเราจัดคนเฝ้าไข้ให้ไปดูเขาที่รพ.คนนึง เป็นพนักงานที่โรงแรม"

ตอนเขาเข้ารพ.รอบสุดท้าย พี่ชิทราบมั้ย?

ชิ : "ไม่ทราบเลย ทราบว่าป่วย แต่ไม่คิดว่าจะหนัก เขาไม่คุยกับผมเลย"

ก่อนเขามีอาการหนักแล้ว มีลางบอกเหตุอะไรเกิดขึ้นมั้ย?

ดร.ไพบูลย์  : "ก่อนหน้านี้สัก 2 เดือนเขาเข้ามาที่ออฟฟิศแล้วมานั่งข้างๆ บอกว่าเวรกรรมตามทันเขาแล้ว อยู่ๆ ก็พูด เขาบอกว่าเขาเหนื่อยมาก หายใจไม่ออก อยากให้ผมอโหสิกรรมให้เขา และบอกทุกๆ คนด้วยที่เขาเคยทำอะไรให้ ผมก็บอกว่าไปนอนดีกว่ามั้ย ตอนนั้นรู้สึกว่ามันป่วย ป่วยแล้วอาจจิตตก ไม่มีใคร ก็บอกว่าให้ไปนอน บอกว่าไม่เป็นไรหรอก มึงไม่ตายหรอก"

ตอนรพ.โทรมาแจ้ง ดร.ไปเจอนาธานก่อนเสียชีวิตมั้ย?

ดร.ไพบูลย์  : "ประมาณ 5-6 นาที ไปถึงก็ปั๊มหัวใจ จับมือเขาเรียกชื่อ เขาลืมตาแล้วก็เฮือก ตอนที่ไปตายังไม่ปิดเลย ผมก็บอกว่าไม่ต้องห่วงอะไร ไปเลย ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่จะจัดการให้ เรารู้ว่าเขาต้องการอะไรบ้าง เพราะที่ผ่านมาเราบอกว่าถ้ามึงตายเดี๋ยวเราจัดการให้ เวลาไปด้วยกันกลางคืน เราก็รู้สึกว่าเราตื่นมาตอนตี 1 บนท้องถนน เขายังขับรถให้เราอยู่ 7 ปีนะ ก็มีความผูกพัน ทุกคนก็ไลน์มาให้กำลังใจ ทั้งที่ไม่ได้เป็นญาติ ไม่มีอะไรทางสายเลือดแม้แต่นิดเดียว"

ตอนที่บอกเขาว่าให้ไปสบาย คิดว่าเขารับรู้มั้ย?

ดร.ไพบูลย์  : "คิดว่าเขารับรู้นะ ของที่มีความจำเป็นและเอกสารสำคัญเขา เขาแพ็กไว้ที่ห้องแล้ว แต่ไม่ได้พูดสั่งเสีย วันก่อนคุณแม่มาเอากระเป๋าใบเดียว น้องสาวบอกว่าทั้งหมดอยู่ในกระเป๋าใบนั้น คุณแม่มาเอากระเป๋าแค่ 1 ใบ ทั้งที่กระเป๋ามีอยู่ 4-5 ใบ มีเสื้อสัก 200 ตัว ถ้ามันไปไหนไม่รอดใน 2 ปีก็ให้อยู่ห้องนี้ เราเป็นชาวพุทธก็รู้สึกว่าถ้าดวงวิญญาณไปไหนไม่รอด ก็มาอยู่ที่นี่ล่ะกัน ให้เวลา 2 ปี ไปให้ได้นะเว้ย  บอกเจ้าหน้าที่ปิดโซนให้เป็นห้องเขาไป"

ในเอกสารที่เขาแพ็กไว้ มีจม.อะไรมั้ย?

ดร.ไพบูลย์  : "มีใบเปลี่ยนชื่อที่เขาออกจากเรือนจำ มีท่านสมเด็จพระญานสังวร พระสังฆราช เปลี่ยนชื่อให้เขาเป็น สุธัญ โอมานันท์ ใบนี้เขาจะรักมาก"

ชิ : "เหมือนชีวิตใหม่เขา"

ดร.ไพบูลย์  : "ถูก เขารักมาก เอาออกมาเสมอเคยเอามาตั้งที่หลังโต๊ะทำงานด้วยซ้ำ เขาบอกว่าใบนี้จะเป็นใบที่บอกว่าเขาเป็นคนใหม่แล้ว และพี่เป็นคนเดียวที่รู้ว่าเขาเป็นคนใหม่"

เขาเองก็ตั้งใจกลับตัวกลับใจ?

ดร.ไพบูลย์  : "ตั้งใจมาก มีความตั้งใจอย่างเข้มแข็ง ผมยืนยัน"

พี่ชิทราบได้ยังไง?

ชิ : "ทราบจากข่าวหลังจากนั้น 1 ชม. ตกใจมาก ทำไมไปเร็ว เรายังมีเรื่องค้างคาใจหลายเรื่องมาก และไม่ได้คุยกัน เขาบอกว่าเขาผูกพันกับที่บ้านผมมาก เขาบอกว่าถ้ากูตาย ขอมาฝังที่บ้านมึงได้มั้ย เพราะเขาไม่มีญาติ สุดท้ายพอเราทราบข่าวว่าเขาเสียชีวิต เราถึงรีบมาสุเหร่า ติดต่อกันตลอดว่าเขาถึงหรือยัง ด้วยความที่เราเป็นมุสลิมเหมือนกัน"

ถ้าพูดแทนนาธานได้ อยากพูดอะไร?

ดร.ไพบูลย์  : "อย่างแรกอยากเรียนคนไทยทั้งประเทศว่านาธาน โอมาน ไม่ได้ฆ่าใครตาย อยากให้อโหสิกรรม ส่วนตัวผมเองไม่ค่อยชมใคร แต่ผมเชื่อว่าเด็กคนนี้ ถ้าเกิดเขาอยู่ในสังคมที่มีการอบรมกล่อมเกลาที่ดี ผมว่าเขาเป็นคนที่ดีที่สุดคนหนึ่งเลย ผมเชื่อว่าพี่ชิยืนยันเรื่องนี้ได้"

ชิ : "ผมเชื่อว่านาธานอยากขอโทษคนหลายๆ คน คนที่เขารู้สึกว่าทำให้มีปัญหา เดือดร้อน ไม่สบายใจ คนในวงการหลายๆ คน ก็อยากขออนุญาตเป็นตัวแทนนาธาน ในการขอโทษทั้งเฮียฮ้อ พี่แหม่ม พัชริดา ต้น ลาวัลย์ เจเอสแอล แม่แหม่ม พี่เต็ม น้ามด หรือทุกคนที่เขาทำให้เกิดปัญหาขึ้น ขออนุญาตให้ทุกท่านให้อภัยนาธาน และสุดท้ายคนที่รักนาธานมากๆ พี่ดู๋ สัญญา จากรายการเจาะใจ ที่มีอะไรก็ซัปพอร์ตนาธานตลอดเวลา พี่ดู๋จะช่วยตลอดเวลา หลังเขามีปัญหาเขาไม่กล้าขอโทษใคร เพราะเขากลัวไม่มีใครยกโทษให้เขา แต่วันนี้เขาจากไปแล้ว ก็ขอให้ให้อภัยให้นาธานด้วยนะครับ"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook