เปิดเบื้องหลังวาทะ ปธน. ทรัมป์ “เมื่อการปล้นเริ่มขึ้น การยิงตอบโต้ก็จะเริ่มขึ้น”

เปิดเบื้องหลังวาทะ ปธน. ทรัมป์ “เมื่อการปล้นเริ่มขึ้น การยิงตอบโต้ก็จะเริ่มขึ้น”

เปิดเบื้องหลังวาทะ ปธน. ทรัมป์ “เมื่อการปล้นเริ่มขึ้น การยิงตอบโต้ก็จะเริ่มขึ้น”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากการเสียชีวิตของจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำชาวอเมริกัน นำไปสู่การประท้วงและก่อการจลาจลทั่วสหรัฐอเมริกา โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จึงออกมาทวีตข้อความแสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์การปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมประท้วงและเจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองมินนิอาโปลิส รัฐมินนิโซตา โดยข้อความตอนหนึ่งของทรัมป์ระบุว่า When the looting starts, the shooting startsหรือ “เมื่อการปล้นเริ่มขึ้น การยิงตอบโต้ก็จะเริ่มขึ้น” โดยเป็นคำพูดที่มีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์เชื้อชาติในสหรัฐฯ ซึ่งย้อนกลับไปในช่วงขบวนการสิทธิพลเมือง (Civil Right Movement) ที่คนผิวดำออกมาเรียกร้องสิทธิความเท่าเทียม

 

 

ในปี 1967 Walter Headly หัวหน้าตำรวจแห่งไมอามี กล่าวข้อความที่ว่า “เมื่อการปล้นเริ่มขึ้น การยิงตอบโต้ก็จะเริ่มขึ้น” ในระหว่างการแถลงนโยบายใหม่ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับผู้นำขบวนการสิทธิพลเมืองเป็นอย่างมาก

“เขาแสดงความเห็นที่ต่อต้านชุมชนคนผิวดำอยู่หลายครั้ง มูลนิธิคนผิวสีของสหรัฐฯ (National Association for the Advancement of Colored People หรือ NAACP) และมูลนิธิช่วยเหลือคนผิวดำจึงได้ร้องเรียนเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในไมอามีต่อชุมชนคนผิวดำหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งในครั้งนี้ มีการพูดคุยถึงวิธีการรับมือกับอาชญากรรมและการข่มขู่ประชาชนผิวดำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่ง Headly ระบุว่า สาเหตุที่ไม่มีการก่อจลาจลเกิดขึ้นในไมอามี เป็นเพราะเขาเคยพูดเอาไว้ว่า “เมื่อการปล้นเริ่มขึ้น การยิงตอบโต้ก็จะเริ่มขึ้น” นั่นเอง” Clarence Lusane อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยโฮวาร์ด กล่าว

Headly เป็นหัวหน้าตำรวจนานกว่า 20 ปี และเป็นที่รู้จักจากนโยบาย “เอาจริง” ของเขาต่อการก่ออาชญากรรมของคนผิวดำในช่วงปี 1967 ซึ่ง Lusane คาดการณ์ว่า Headly น่าจะหยิบยืมคำพูดนี้มาจาก Eugene “Bull” Connor เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของเมืองเบอร์มิงแฮม รัฐแอละบามา โดย Connor มีความเชื่อว่าควรแยกพลเมืองต่างสีผิวออกจากกัน และสั่งการให้มีการใช้สุนัขตำรวจและสายส่งน้ำดับเพลิงกับผู้ชุมนุมประท้วงผิวดำ นอกจากนี้ George Wallace อดีตผู้ลงสมัครประธานาธิบดียังใช้ข้อความดังกล่าวนี้ในระหว่างการหาเสียง ปี 1968 อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม คำพูดของ Headly กลายเป็นเชื้อไฟที่ทำให้การประท้วงเรื่องเชื้อชาติทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะในปี 1980 เมื่อ Arthur McDuffie ชายผิวดำคนหนึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจมากกว่า 10 คนรุมทำร้าย หลังจากที่เขาขี่มอเตอร์ไซค์ฝ่าไฟแดง ทำให้เขาอยู่ในอาการโคมา และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

แม้ทรัมป์จะออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเขาไม่รู้ที่มาที่ไปของข้อความดังกล่าว แต่ข้อความของเขาก็สร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนชาวอเมริกันเป็นจำนวนมาก ในช่วงเวลาของการต่อสู้เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับการเสียชีวิตของจอร์จ ฟลอยด์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook