ย้อนรอย "แบร์ลุสโกนี" อดีตนายกฯ อิตาลีวัย 83 จากนักธุรกิจสู่นักการเมืองคาวเซ็กซ์ฉาว

ย้อนรอย "แบร์ลุสโกนี" อดีตนายกฯ อิตาลีวัย 83 จากนักธุรกิจสู่นักการเมืองคาวเซ็กซ์ฉาว

ย้อนรอย "แบร์ลุสโกนี" อดีตนายกฯ อิตาลีวัย 83 จากนักธุรกิจสู่นักการเมืองคาวเซ็กซ์ฉาว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายซิลวีโอ แบร์ลุสโกนี คือ อดีตนายกรัฐมนตรีที่อื้อฉาวที่สุดของประเทศอิตาลี ผู้มีเรื่องเกี่ยวกับคดีทางเพศแบบลามกอนาจารมากสุดนอกจากการที่เขายังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนานที่สุดถึง 9 ปีเศษตั้งแต่ พ.ศ. 2537 และได้เป็นนายกรัฐมนตรีถึง 3 ครั้ง

ปัจจุบันนายซิลวีโอ แบร์ลุสโกนีมีอายุย่างเข้า 84 ปีแล้ว เป็นข่าวอิ้อฉาวอีกครั้งหนึ่งเมื่อเขาเลิกกับกิ๊กวัย 34 ที่อยู่ด้วยกันฉันสามีภรรยาถึง 12 ปีเพื่อเอากิ๊กใหม่วัย 30 ปีเข้าบ้าน ที่น่าเศร้าก็คือ กิ๊กคนล่าสุดของอดีตนายกรัฐมนตรีแห่งอิตาลีคนนี้นั้น อายุน้อยกว่าลูกสาวลูกชาย 5 คนของตนเองเสียอีกมิหนำซ้ำยังอายุน้อยกว่าลูกสาวและลูกชาย 2 คนแรกถึง 20 กว่าปีเลยทีเดียว

เจ้าพ่ออสังหาฯ สู่ราชาสื่อมวลชน

นายซิลวีโอ แบร์ลุสโกนี สร้างตัวขึ้นจากธุรกิจก่อสร้างโดยการสร้างอะพาร์ตเมนต์และที่อยู่อาศัยกว่า 4,000 แห่ง จนกลายเป็นศูนย์กลางทางฝั่งตะวันออกของเมืองมิลาน เมืองเอกทางตอนเหนือของอิตาลี ต่อมาเขาก็เข้าจับธุรกิจประเภทเคเบิลทีวีเป็นรายแรกของอิตาลี จนประสบความมั่งคั่งใหญ่หลวง ด้วยเนื้อหาเป็นเรื่องโป๊และเปลือยทั้งสิ้น

นอกจากนี้เขายังได้ซื้อลิขสิทธิ์ทีวีโชว์จากสหรัฐอเมริกา อาทิ Dallas, Dynasty และ Baywatch ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมโหฬาร เงินทองไหลมาเทมาจนเป็นเคเบิลทีวีอันดับหนึ่งของเมืองมิลานไปเลย ซึ่งต่อมาเขาก็ได้ตั้งสถานีโทรทัศน์เอกชนขึ้นเป็นรายแรกของอิตาลีและประสบความสำเร็จครอบครองความเป็นอันดับหนึ่งทางโทรทัศน์ของอิตาลีได้อย่างรวดเร็วจนขยายกิจการโทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์และภาพยนต์ออกไปยังประเทศฝรั่งเศสและสเปนอีกด้วย

พลิกวิกฤติเอซีมิลาน

ในช่วงปี พ.ศ. 2520 ทีมฟุตบอลดังของอิตาลีชื่อ เอ.ซี.มิลาน กำลังตกต่ำทั้งผลงานในสนามและงานบริหารที่แสนเละเทะ โดนปรับตกชั้นไปสู่ เซเรีย บี ในปี 2523 เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องในข้อหาพัวพันกับคดีการล้มบอลของ เฟลิเซ โคลอมโบ ประธานสโมสรคนเก่า ทำให้นายซิลวีโอ แบร์ลุสโกนี เข้ามาซื้อกิจการของ เอ.ซี.มิลาน ในปี 2529

ระบบการบริหารใหม่แบบแบร์ลุสโกนี ด้วยการลงทุนกับนักเตะดำเนินไปหลายต่อหลายรายการ จนสามารถดึงเอานักเตะในตำนานอาทิ รุด กุลลิต, แฟรงค์ ไรจ์การ์ด, มาร์โก ฟาน บาสเท่น, อังเดร เชฟเชนโก ฯลฯ ทำให้ทีมฟุตบอล เอ.ซี.มิลาน กลับมาผงาดอีกครั้ง และทำให้แบร์ลุสโกนีกลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศอิตาลี ด้วยธุรกิจทั้งหมดที่เขามีในมือ

เส้นทางการเมืองสุดโดดเด่น

ปี พ.ศ. 2537 นายซิลวีโอ แบร์ลุสโกนี ก็เข้าสู่วงการเมืองโดยตั้งพรรคคการเมืองชื่ออิตาลีก้าวหน้า ความก้าวหน้าทางการเมืองของแบร์ลุสโกนีนั้นเป็นไปอย่างรวดเร็ว เขาได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นครั้งแรก และได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2537 นั่นเอง แต่รัฐบาลของแบร์ลุสโกนีถูกล้มลงหลังทำงานได้เพียงเก้าเดือน

อย่างไรก็ดีนายแบร์ลุสโกนีก็หวนกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีก 2 ครั้งคือช่วงพ.ศ. 2544-2549 และในช่วง พ.ศ. 2551-2554

ชีวิตทางการเมืองของนายซิลวีโอ แบร์ลุสโกนี เต็มไปด้วยการใช้อิทธิพลของสื่อสารมวลชนของเขาในทางที่ขัดแย้งกับกฎหมายมาโดยตลอด และปัญหาเรื่องเซ็กส์ส่วนตัวที่อื้อฉาว ซึ่งเขาถูกตัดสินจำคุกหลายครั้งจากข้อหาหนีภาษีและมีเซ็กส์กับเด็กหญิงแต่เนื่องจากอิทธิพลทางการเมืองและอายุที่มากแล้วจึงทำให้เขารอดพ้นจากการต้องเข้าคุกจริงๆ ไปได้

อย่างไรก็ตามชีวิตอันมีสีสันและโลดโผนของแบร์ลุสโกนีในเวลาที่มีอายุย่างเข้า 84 ปีเมื่อถูกถามว่าเมื่อไรจะวางมือจากการเมืองและแต่งตั้งทายาททางการเมืองต่อจากเขาเสียที

คำตอบของนายซิลวีโอ แบร์ลุสโกนี ก็คือ "มันยากที่จะหาอัจฉริยะเหมือนผมได้สักคน แต่ผมจะอยู่ถึงอายุ 120 คงยังไม่ต้องรีบร้อน"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook