เศรษฐีรางวัลที่ 1 สร่างเมาแล้ว ยันเงินไม่ได้หมดเพราะยาบ้า ซื้อรถให้พ่อ-ซื้อที่ดินให้แม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.40 น. (14 ม.ค. 63) ที่สถานีตำรวจภูธรขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ พ.ต.ท. จำนงค์ ประสพสุขมั่งดี รอง ผกก.สส.สภ.ขุขันธ์ นำตัว นายชัยณรงค์ หรือ แบน อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาครอบครองยาบ้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อเตรียมที่จะนำตัวไปฝากขังต่อศาลจังหวัดศรีสะเกษ ในวันพุธที่ 15 มกราคม 2563

>> แม่แจ้งจับลูกชาย "เศรษฐีรางวัลที่ 1" เมายาบ้าทุบบ้านพัง ครึ่งปีผลาญเงินหมด

ซึ่งนายชัยณรงค์ หรือ แบน ให้การกับตำรวจว่า พอรู้ว่าถูกหวยรางวัลที่ 1 ตนก็คิดถึงแม่เป็นคนแรก จึงนั่งรถโดยสารจากกรุงเทพกลับมาบ้านทันที มาถึงก็เล่าให้พ่อแม่และน้องสาวฟัง รุ่งขึ้นก็ไปแจ้งธนาคาร ธ.ก.ส.สาขาขุขันธ์ แล้วเดินทางไปขึ้นเงินที่กรุงเทพพร้อมกันกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร หลังจากกลับมาจากกรุงเทพ ตนได้ซื้อรถยนต์กระบะมาไว้ใช้ 1 คัน ราคา 770,000 บาท ซื้อรถไถให้พ่อ 1 คัน ราคา 700,000 บาท และตนไปดูที่ดินที่เจ้าของเขาประกาศขาย จำนวน 16 ไร่ราคา 3 ล้านบาท เห็นแล้วตนชอบ จึงกลับมาบอกแม่ไปดู แม่ก็ตกลงจึงซื้อที่ดินแปลงนี้ให้แม่ จากนั้นตนก็นำเงินใช้หนี้ให้แม่ที่เคยยืมมา จำนวน 300,000 บาท ให้แม่ฝากเข้าบัญชีชื่อแม่ไว้ จากนั้นตนก็ไปดื่มกินเที่ยวที่ร้านคาราโอเกะบ้าง เสพยาบ้ากับเพื่อนบ้าง

วันที่เกิดเหตุคือคืนวันที่ 12 ม.ค. ตนกลับมาบ้านและตั้งใจจะไปทำงานที่กรุงเทพเหมือนเดิม แต่เมื่อเข้าบ้านไม่พบใคร หาแม่ไม่เจอ พ่อก็ไม่อยู่ก็คิดเป็นห่วงทั้งพ่อทั้งแม่ ไม่รู้ว่าไปอยู่ไหนเป็นอะไรไปหรือเปล่า ตนเกิดความเครียดและโมโหจึงนำเสื้อผ้าของตัวเองที่เตรียมจะไปกรุงเทพมาจุดไฟเผาในห้อง และได้ทุบทำลายอะไรไปบ้างตนก็จำไม่ได้ หลังจากที่ได้ทำไปแล้วตนรู้สึกเสียใจมาก ตนอยากขอโทษพ่อแม่ที่ทำในสิ่งไม่ดี ถ้าย้อนกลับไปได้ตนจะไม่ทำอย่างนั้นอีก ถ้าพ้นโทษออกมาสิ่งแรกที่จะทำคือตนจะบวชทดแทนบุญคุญให้พ่อแม่ แล้วจะกลับตัวเป็นคนดี จะไม่ทำสิ่งไม่ดีอีก

จากนั้น ตำรวจชุดสืบสวนได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อเก็บหลักฐานเพิ่มเติม ได้พบกับนางก้อม แม่ของนายชัยณรงค์ เมื่อรู้ว่าหลังจากพ้นโทษออกมาลูกชายตั้งใจจะบวชทดแทนบุญคุณให้พ่อแม่ นางก้อมรู้สึกตื้นตันใจจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่ร้องไห้ออกมา บอกว่าที่จริงแล้วลูกชายเป็นคนดี ตนดีใจที่ลูกจะบวช ถ้าพ้นโทษออกมาแล้วถ้าจะบวชจริงตนจะจัดงานให้ยิ่งใหญ่เลย ส่วนเรื่องที่ตำรวจถามว่าจะแจ้งความเอาผิดกับลูกชายที่เผาและทุบทำลายข้าวของหรือไม่ ตนไม่แจ้งเอาผิดกับลูกอย่างแน่นอน เพราะลูกก็คือลูก ทำผิดอย่างไรก็ตัดไม่ขาด ช่วงที่ลูกต้องโทษตนจะไปเยี่ยมให้กำลังใจลูกเรื่อยๆ ไม่ทิ้งลูกแน่นอน