เพชรบูรณ์กลายเป็นพื้นที่สีแดง ค่า PM2.5 พุ่งสูงถึง 121.67 เหตุหลักจากการเผาอ้อย

วันที่ 12 มกราคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้เผยแพร่เอกสารข้อมูลรายงานการตรวจวัดคุณภาพอากาศ จากเครื่องวัดฝุ่นขนาดเล็ก PM 2.5 ไมโครกรัม ต่อลูกบาศก์เมตร ตั้งแต่วันที่ 8-12 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา จากเครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศ 2 แห่ง ได้แก่ อ.เมืองเพชรบูรณ์ และโรงพยาบาลวิเชียรบุรี อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ผลปรากฏว่าที่ อ.เมืองเพชรบูรณ์ ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศ เมื่อวันที่ 12 มกราคม อ.เมืองเพชรบูรณ์ ตรวจวัดค่า PM2.5 สูงถึง 112.67 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ ที่ อ.วิเชียรบุรี ตรวจวัดค่า PM2.5 พุ่งสูงถึง 121.67  ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สำหรับคุณภาพอากาศค่ามาตรฐาน PM2.5 ต้องไม่เกิน 50 ลบ.เมตร

จากการลงพื้นที่พบว่า สาเหตุหลักที่ทำให้คุณภาพอากาศแย่ลงในพื้นที่ อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ และมีค่า PM2.5 พุ่งสูงขึ้นเป็นพื้นที่สีแดง โดยมีปัจจัยหลักมาจากที่ชาวไร่อ้อย ลักลอบเผาอ้อย เพื่อเร่งส่งโรงงานน้ำตาล ซึ่งไม่เพียงทำให้หมอกควันฟุ้งกระจาย แต่ยังทำให้เกิดฝุ่นละออง โดยเฉพาะหิมะดำจากเขม่าใบอ้อย ลอยกระจายไปตกใส่บ้านเรือนประชาชน เข้าถึงในบ้าน บางคนถึงกับต้องนอนก้างมุ้ง ป้องกันเขม่าใบอ้อยตกใส่ สร้างความเดือดร้อนอย่างหนัก จนกระทั่งเด็กเล็ก แม้กระทั่งผู้ใหญ่เองต่างก็พบว่าเป็นภูมิแพ้ โรคผิวหนังกันมากขึ้น อย่างที่ได้นำเสนอข่าวไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

 และล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวันนี้ (12ม.ค.63) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจที่ ต.สามแยก อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ อีกครั้ง ก็ยังพบว่า ชาวไร่อ้อยยังคงลักลอบเผาอ้อยกัน โดยไม่สนใจคำสั่งห้ามเผาอ้อย แต่อย่างใด แม้ที่ผ่านมาจะมีการร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ช่วยเข้ามาเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว แต่สุดท้ายก็ยังคงพบว่าชาวไร่อ้อยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเผาไร่อ้อยกันอย่างต่อเนื่อง เป็นประจำทุกวัน และดูเหมือนว่าจะหนักขึ้น ทุกวัน