"สุเทพ" ลั่นไม่ได้ตระบัดสัตย์ แต่ปล่อยวางการเมืองไม่ได้ เพราะประเทศมี "วายร้ายตัวใหม่"

"สุเทพ" ลั่นไม่ได้ตระบัดสัตย์ แต่ปล่อยวางการเมืองไม่ได้ เพราะประเทศมี "วายร้ายตัวใหม่"

"สุเทพ" ลั่นไม่ได้ตระบัดสัตย์ แต่ปล่อยวางการเมืองไม่ได้ เพราะประเทศมี "วายร้ายตัวใหม่"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อาคารศูนย์ปฏิบัติการโรงแรม และการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี พรรครวมพลังประชาชาติไทยจัดการอบรมหลักสูตร “อุดมการณ์และการสื่อสารทางการเมือง” โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) บรรยายในหัวข้อ “หัวใจสำคัญของพรรครวมพลังประชาชาติไทย” โดยระบุตอนหนึ่งว่า ขอให้ทุกคนภูมิใจ ถ้าเราไม่ออกมาต่อสู้วันนั้นไม่รู้วันนี้จะเป็นอย่างไร คงไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงซึ่งวันนี้เราสามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงประเทศได้แล้ว แม้จะยังไม่บรรลุเป้าหมายที่ต้องการ ซึ่งเป็นภาระที่เราต้องทำต่อไป อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าไม่เคยคิดจะกลับมาทำงานการเมืองเลย เพราะตอนเดินขบวน ตนบอกประชาชนแล้วว่าจะไม่สมัครส.ส. จะไม่กลับไปมีตำแหน่งทางการเมืองแล้วพอแล้ว แต่ต่อมา ตนเห็นว่าที่เราลงทุนลงแรงต่อสู้มา

"เราไม่สามารถวางใจหรือปล่อยมือได้ บ้านเมืองยังไม่เรียบร้อยปลอดภัย วายร้ายตัวเก่าจบไปแล้ว มีวายร้ายตัวใหม่มาอีกซึ่งตนไม่ได้บอกว่าเป็นใคร แต่มันน่ากลัวมากกำแหงมาก มันแสดงท่าทีชัดเจนว่าไม่เอาสถาบันและศาสนา ไม่เอาขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมอะไรทั้งนั้น และมีคนบ้าตามมันจำนวนมากอีกต่างหาก น่ากลัวมาก ตนจึงต้องตัดสินใจ เพราะไม่รู้ว่าจะพึ่งใคร พรรคการเมืองที่เราเห็นก็พึ่งพาไม่ได้ ไม่อยากจะพูดวิจารณ์ให้โกรธเคือง แต่มันคิดแต่เรื่องตัวเอง ว่าจะมีตำแหน่งอย่างไร คิดอยากจะเป็นนายกฯ เป็นรัฐมนตรี ไม่สนว่าประเทศและประชาชนจะเป็นอย่างไร"

นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ตนพิจารณาดูว่าตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ไม่เคยมีพรรคการเมืองของประชาชนมีแต่พรรคการเมืองของนายพล ของนายทุน พรรคการเมืองของครอบครัว ดังนั้นจะไปหวังพึ่งให้เห็นแก่ประชาชนเป็นเรื่องยาก ตนจึงตัดสินใจชวนประชาชนมาทำพรรคการเมืองของประชาชน แต่การสร้างพรรคการเมืองของประชาชนยากมาก ตนซึ่งเป็นคนคิดถูกมันทุบโจมตีเสียจนน่วม มันทำลายภาพพจน์ชื่อเสียง วันนี้เราจึงจะมีการสื่อสารทางการเมือง ซึ่งอุดมการณ์ทางการเมืองที่พรรคของประชาชนต้องการ คือ 1.เรื่องสถาบันที่ต้องชัดเจน เราต้องการให้สถาบันพระมหากษัตริย์อยู่คู่ประเทศไทยเป็นศูนย์รวมใจของประชาชน เป็นความมั่นคงของประเทศไทย

2.คนมาอยู่พรรคเราต้องเชื่อมั่นใจศาสนา ไม่ว่าจะศาสนาใดก็อยู่ร่วมกันได้ พวกที่ไม่ดีคือพวกที่ไม่มีศาสนา จึงทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย และต้องมีศีลธรรม ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย 3.อุดมการณ์เรื่องชาติที่ต้องสำคัญเหนือตัวบุคคล เราต้องแสดงออกซึ่งความรักชาติ ไม่ใช่ชังชาติ 4.เราทำการเมืองเพื่อประชาชน ไม่ได้ทำงานเพื่อนายทุนหรือเพื่อสนองกิเลสตัณหาของนักการเมืองคนไหนให้ได้เป็นนายกฯ 5.ต้องเป็นคนที่มีหัวใจพิเศษเปิดกว้างพร้อมเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศให้ดีขึ้น ไม่ใช่รื้อประเทศแต่เป็นการซ่อมแซม 6.พรรคการเมืองเราต้องคิดเรื่องความปลอดภัยของประชาชน

“ถ้าผมตัดสินใจลงสมัครเป็นผู้แทนป่านนี้ไปนั่งอยู่ในสภา โหวกเหวกกับเขาแล้ว ด้วยความที่เราประกาศสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตั้งแต่ต้น เขาก็เชิญเราร่วมรัฐบาลให้ตำแหน่ง รมว.แรงงาน ถ้าผมมักใหญ่ใฝ่สูง ก็ลงเองแล้ว นี่จึงเป็นการพิสูจน์ว่าผมไม่ได้ทำการเมืองเพื่อตัวเอง ไม่ได้ตระบัดสัตย์ แต่จะมาบังคับผมว่าไม่ให้ยุ่งเกี่ยวทางการเมืองนั้นไม่ได้ เพราะนี่ก็บ้านเมืองของผมเหมือนกัน เราประชาชนไม่สามารถทนเห็นบ้านเมืองย่อยยับต่อหน้าต่อตาได้ แต่เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องรักษาบ้านเมืองนี้ไว้ โดยการสร้างพรรคการเมืองของประชาชนจริงๆ ไม่ใช่ตั้งพรรคการเมืองให้นักการเมืองเข้ามาเป็นสมุน และบริวารแล้วพอมีอำนาจก็ฉ้อโกง” นายสุเทพ ระบุ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook