ผกก.ออกโรงโต้ "ตำรวจ" ไม่ได้เมา หลังถูกตามถ่ายคลิปแฉกลางถนน

ผกก.ออกโรงโต้ "ตำรวจ" ไม่ได้เมา หลังถูกตามถ่ายคลิปแฉกลางถนน

ผกก.ออกโรงโต้ "ตำรวจ" ไม่ได้เมา หลังถูกตามถ่ายคลิปแฉกลางถนน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผกก.สภ.พระสมุทรเจดีย์ ยันตำรวจในเครื่องแบบ จากคลิปที่แชร์สนั่นโซเชียล ไม่เมาเหล้าแต่อย่างใด เพียงแต่อ่อนเพลียและไม่สบาย เข้าเวรตั้งแต่เช้า-เพิ่งกินยาแก้หวัด

(7 ธ.ค.) จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์คลิปและข้อความสงสัยเกี่ยวกับพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งว่า "ถ้าตำรวจเมาแล้วใครจะจับเขา?" โดยภาพในคลิปเผยให้เห็นรถตำรวจกำลังขับคร่อมเลนถนนอยู่ จากนั้นได้จอดเข้าข้างทาง และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดกระจกลง และเรียกเข้าไปถามว่าตามมาและถ่ายคลิปทำไม กลายเป็นการโต้แย้งกันไปมาระหว่างสองฝ่าย เพราะเจ้าของคลิปสงสัยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจจะเมาอะไรบางอยู่

หลังจากคลิปดังกล่าวเผยแพร่ออกไปในโลกโซเชียลมีเดีย ปรากฏว่าเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และแสดงความคิดเห็นไปต่างๆ นานา บางคนก็สงสัยเช่นเดียวกับเจ้าของคลิปได้ตั้งข้อสันนิษฐานเอาไว้ ขณะที่เจ้าของคลิปดังกล่าวได้ออกมาเปิดใจและยืนยันว่า ได้กลิ่นคล้ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าตำรวจนายนั้นเมาสิ่งใด แต่จากพฤติกรรมโดยรวมแล้ว ในเวลานั้นเจ้าหน้าที่มีอาการไม่น่าจะพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่

ขณะที่ล่าสุด พ.ต.อ.อนันต์ ชัยชาญ ผกก.สภ.พระสมุทรเจดีย์ ได้ออกมาชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า บุคคลที่ปรากฏอยู่ในคลิปภาพคือ ร.ต.อ.นายหนึ่ง สังกัดที่ สภ.พระสมุทรเจดีย์ และช่วงเวลาดังกล่าวอยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ หลังได้รับแจ้งว่ามีรถบรรทุกทำดินตกหล่นบนพื้นที่ถนน จึงได้ขับรถออกไปตรวจสอบ

แต่ระหว่างที่ขับรถออกไปก็พบเห็นรถจักรยานยนต์คันหนึ่งขี่ตามมาตลอดทาง และยังหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายคลิป จึงได้จอดเข้าข้างทางและถามผู้ที่ถ่ายคลิปว่าถ่ายไปทำไม แต่ ร.ต.อ.ก็ยอมรับว่าได้พูดจาไม่สุภาพตอบโต้กลับอีกฝ่ายไป แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันไป

ผกก.สภ.พระสมุทรเจดีย์ ยังได้ตอบคำถามถึงประเด็นที่สังคมสงสัยว่า ตำรวจนายดังกล่าวมีอาการมึนเมาหรือไม่ จึงได้ไปสอบถามกับ ร.ต.อ.แล้ว ยืนยันว่าไม่ได้เมาสุรา แต่มีอาการอ่อนเพลีย เนื่องจากเข้าเวรแต่หลายชั่วโมงต่อเนื่อง พร้อมกับกินยาแก้หวัดเข้าไป ทำให้มีอาการสะลึมสะลือ

ทั้งนี้ยอมรับว่า คลิปที่เผยแพร่ออกไปทำให้ ร.ต.อ.ได้รับความเสียหาย และยังกระทบต่อภาพลักษณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย อีกทั้งการลงคลิปในลักษณะดังกล่าวเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ อีกด้วย จึงอยากฝากถึงประชาชนที่ควรรับฟังข้อเท็จจริงจากทุกฝ่ายเสมอ ก่อนจะวิพากษ์วิจารณ์สิ่งใดก็ตาม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook