ฝันเป็นจริง! สาวลูกครึ่งตามหาพ่ออดีตทหารมะกันเจอแล้ว เตรียมบินไปพบปีหน้า

ฝันเป็นจริง! สาวลูกครึ่งตามหาพ่ออดีตทหารมะกันเจอแล้ว เตรียมบินไปพบปีหน้า

ฝันเป็นจริง! สาวลูกครึ่งตามหาพ่ออดีตทหารมะกันเจอแล้ว เตรียมบินไปพบปีหน้า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สาวลูกครึ่งชาวราชบุรีที่ออกตามหาพ่ออดีตทหารมะกันมาทั้งชีวิต ที่สุดก็ตามหากันจนเจอ หลังจากได้ออกมาเผยแพร่ทางสื่อเมื่อ 2 ปีก่อน ล่าสุด ได้วางแผนเตรียมบินไปพบพ่อประเทศสหรัฐอเมริกาเดือนกันยายนปี 63

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (28 พ.ย.) ได้รับแจ้งจาก คุณแคท หรือ นางนันทวัน บุญใบ อายุ 48 ปี ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน เจ้าของร้านซาลาเปา ตั้งอยู่อาคารพาณิชย์ริมถนนราษฎรยินดี เขตเทศบาลเมืองราชบุรี อ.เมือง จ.ราชบุรี ที่ได้ออกตามหาพ่อซึ่งเป็นอดีตทหารอเมริกันหน่วยจีไอ ในยุคของสงครามโลกครั้งที่ 2 จากสงครามเวียดนาม และได้เดินทางกลับไปสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2513 และได้ทิ้งข้อความสุดท้ายให้กับแม่ของตนเองว่า “ถ้าลูกยังอยู่ ก็ให้มีจดหมายไปหาเขาจะส่งเสีย และขอที่อยู่ของคุณแม่” และไม่สามารถติดต่อกันได้อีกเลย จนกระทั่งเมื่อตนเองโตและจำความได้ จึงได้ออกตามหาพ่อที่ทราบชื่อแต่เพียงว่า “แม็ค”

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 26 ก.ย.2560 ตนได้ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก SiamTownUS ในเมืองลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เพื่อประกาศขอความช่วยเหลือประกาศตามหาคุณพ่อที่เป็นอดีตทหารอเมริกันผู้ให้กำเนิด ที่เข้ามาตั้งฐานรบสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังออกตามหามาเกือบทั้งชีวิตยังไม่พบ

ล่าสุด คุณแคท ได้ประสานมายังผู้สื่อข่าวว่า ตนได้ตามหาพ่ออดีตทหารชาวอเมริกันเจอแล้ว และต้องการขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือตน และสื่อมวลชนที่ช่วยนำเสนอข่าวผ่านสื่อต่างๆ ซึ่งมีการแชร์กันออกไปจำนวนมาก

ทำให้มีผู้ที่รู้จักทางคุณพ่อของตนติดต่อเข้ามาให้ความช่วยเหลือ และให้ตนเองได้พบกับพ่อ และมีการตรวจยืนยันด้วยผล DNA ทั้งคู่ที่ตรงกัน ทำให้ตนเองดีใจเป็นอย่างมาก หลังจากนี้ตนเตรียมวางแผนที่จะเดินทางไปพบกับคุณพ่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยกำหนดบินในเดือนกันยายน พ.ศ.2563

คุณแคท เล่าว่า หลังจากที่ผู้สื่อข่าวได้เดินทางมาสัมภาษณ์ตนที่บ้าน เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2560 และได้นำเสนอเรื่องราวของตนเองทางสื่อต่างๆ จนมีตนติดต่อเข้ามาให้ความช่วยเหลือกันจำนวนมาก ทั้งที่อยู่ในประเทศไทยและที่ต่างประเทศ และมีหลวงพี่ได้โทรศัพท์มาหาตน พร้อมแนะนำให้ติดต่อไปยังคุณมอริส เค เพื่อรวมตัวกันตรวจ DNA หลังจากที่ได้รับชุดตรวจมาแล้วตนเองได้ส่งเลือดกลับไป หลังที่ตรวจเสร็จผล DNA ปรากฏว่าไปตรงกับญาติทางพ่อของตน

หลังจากนั้นได้รู้จักกับอดีตนางเอกคนดัง คุณบี วรรณิศา (ศรีวิเชียร) มาร์คาร์ ได้ตามหาคุณพ่อชาวไอริช ที่ตามหามานาน 50 ปี จนพบเช่นกัน ซึ่งคุณบีได้ช่วยให้ข้อมูลและตามหาคุณพ่อผ่านทางเฟชบุ๊ก และได้ทราบว่าคุณพ่อมีลูกบุญธรรมอีก 2 คน

ซึ่งตอนนั้นตนเริ่มมีความหวังขึ้นมา และได้มีการส่งรูปของคุณพ่อที่สมัยยังหนุ่มๆ ไปให้ลูกสาวของคุณพ่อ ว่ารู้จักคนในรูปนี้หรือไม่ ซึ่งตนได้รับคำตอบว่า ผู้ชายในรูปคือคุณพ่อของเขาเอง ทำให้ตนดีใจมากที่ทราบว่าคุณพ่อยังมีชีวิตอยู่

คุณแคท เล่าต่ออีกว่า จากนั้นไม่นานมีคุณแอ้ อยู่ที่ประเทศฝรั่งเศสได้ติดต่อไปยังลูกชายอีกคน ชื่อ “แอนดี้” ว่ามีลูกสาวของคุณพ่อจากประเทศไทยได้ออกตามหาคุณพ่อ ซึ่งคาดว่าจะเป็นลูกของคุณพ่อของคุณแอนดี้ และได้นำรูปถ่ายต่างๆ ของตนเองให้คุณแอนดี้นำไปให้คุณพ่อดู ซึ่งตอนนั้นตนก็ทราบว่าคุณพ่อคงจะสงสัย ว่าตนเองมีลูกที่เมืองไทยด้วยหรือ

ต่อมา คุณบี วรรณิศา (ศรีวิเชียร) มาร์คาร์ ได้ช่วยร่างหนังสือจากภาษาไทยเป็นภาษาทางอเมริกัน และส่งข้อความไปทางเฟซบุ๊กของคุณพ่อ ตอนนั้นตนเองลุ้นมากเปิดดูทุกวัน ซึ่งก็นานมากประมาณ 2 เดือน คุณพ่อถึงได้เปิดอ่าน โดยคุณพ่อได้ตอบกลับมาหาตนเองว่า “พ่อไม่รู้จริงๆ ว่ามีลูก หรือ คุณแคท เมื่อทราบแล้วก็ดีใจว่า ตนเองมีลูก”

จากนั้นตนเองกับคุณพ่อก็ได้คุยกันเรื่อยมาผ่านทางเฟซไทม์หรือวิดีโอคอล โดยคุณพ่อทราบชื่อต่อมาว่า มิสเตอร์กริลเบิล แม็คคัธชั่น อายุ 75 ปี ได้ขอตรวจ DNA กับตนเพื่อเป็นการยืนยันว่าใช่ลูกที่แท้จริงหรือไม่ ซึ่งผลตรวจ DNA ออกมาตรงกัน 99.9998 positive ยิ่งทำให้คุณพ่อดีใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากที่คุณพ่อกลับจากเมืองไทยไปที่อเมริกา ซึ่งได้แต่งงานใหม่ก็ไม่มีลูก โดยที่ภรรยาใหม่ของคุณพ่อก็ดีใจที่รู้ว่าคุณพ่อมีลูกอยู่ที่เมืองไทย

ซึ่งทุกคนในครอบครัวอยากให้ตนเองบินไปหาคุณพ่อที่อเมริกา เนื่องจากคุณพ่อมีโรคประจำตัวที่ไม่สามารถนั่งเครื่องบินมาที่เมืองไทยได้ ทำให้ตอนนี้ตนเองได้วางแผนร่วมกับคุณพ่อที่จะทำเรื่องผ่านเข้าออกประเทศ และมีกำหนดการเดินทางโดยสายการบินในเดือนกันอยู่และอยู่ที่บ้านของคุณพ่อใน รัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเวลา 3 สัปดาห์

คุณแคท เล่าเมื่อย้อนกลับไปตอนที่ตนเองได้ออกตามหาคุณพ่อมาทั้งชีวิตว่า คุณพ่อแม็คได้เข้ามาเป็นทหารจีไอประมาณปี พ.ศ. 2511 หรือปี ค.ศ.1968 โดยได้พบรักกับคุณแม่ที่อายุมากกว่าคุณพ่อ 10 ปี ตอนนั้นคุณพ่อต้องเดินทางกลับอเมริกาก่อนจากนั้นก็ขาดการติดต่อกัน คุณแคทได้พยายามตามมาคุณพ่อแม็คตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งเคยมีที่อยู่จริงๆ และชื่อจริงของคุณพ่อ

แต่จากการที่ย้ายบ้านบ่อยๆ และเป็นช่วงนั้นยังเด็กเลยทำข้อมูลหายไป เมื่อตนเองโตพอที่จะออกตามหาได้จึงได้นำเรื่องลงผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ เพื่อต้องการกระจายข่าวเพื่อหวังว่าอย่างน้อยจะมีคนไทยรู้จัก หรือทราบจะได้ช่วยเติมฝันให้เธอเป็นความจริง

คุณแคท เล่าอีกว่า “คุณแม่เล่าให้ฟังว่า ก่อนที่คุณพ่อจะเดินทางกลับไปยังอเมริกา จำได้ว่าคุณพ่อแม็คตอนที่ทำงานก็จะใส่ชุดทหารเสื้อสีเขียวขี้ม้า เป็นคนที่สูงมากประมาณ 170-180 ซ.ม. เป็นคนที่อารมณ์ดียิ้มเก่ง จะสวมแว่นสายตา ชอบขับขี่รถจักรยานยนต์ ตอนที่พบกันคุณแม่ไปทำงานอยู่กับเพื่อนและญาติที่รู้จักที่ จ.อุดรธานี สมัยนั้นเป็นยุคของสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นสงครามเวียดนาม จะมีทหารอเมริกันหน่วยจีไอมาตั้งแคมป์ที่นี่ ซึ่งได้รู้จักกับแม็คเพราะว่าแม็คมาจีบก่อน

ซึ่งก็อยู่ด้วยกันประมาณ 2 ปี และมาทราบว่าตั้งท้องขณะเดียวกันที่คุณพ่อแม็คจะเดินทางกลับไปอเมริกัน เมื่อปี 2513 จากนั้นตนได้พยายามนำรูปและนำที่อยู่ออกติดตามหา ทั้งนำไปเดินสอบถามชาวต่างชาติสัญชาติอเมริกันเพื่อตามหาคุณพ่อแม็ค พร้อมทั้งไปขอให้ทางพนักงานของโรงแรมใน จ.ภูเก็ต ให้ช่วยเขียนจดหมาย 2 ฉบับ และได้ส่งไปยังที่อยู่ของคุณพ่อแม็ค และ ที่ทำงานอีกประเทศที่เดินทางไป แต่ก็ไม่การตอบกลับมาแต่อย่างไร

จนกระทั่งตนมีอายุ 45 ปี ตนก็ไม่ลดละความพยายาม โดยหวังว่าจะได้พบพ่อสักครั้ง จึงตัดสินใจนำเรื่องราวของตนเองส่งข้อความไปยัง เพจเฟซบุ๊ก SiamTownUS ในเมืองลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา และมีผู้สื่อข่าวเข้ามาสัมภาษณ์และนำไปเสนอผ่านสื่อดังกล่าว

คุณแคท กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนอยากจะขอบคุณสื่อทุกสื่อ และทุกคนที่ยื่นมือเข้ามาช่วยทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ อยากจะขอบคุณด้วยหัวใจ ซึ่งหาคำใดๆ มาพูดไม่ได้เพราะเป็นสิ่งที่ตนเองได้รับ ทุกคนได้นำข้อมูลต่างๆ ให้ความช่วยเหลือในทุกๆ เรื่องจนได้เจอพ่ออย่างที่ตั้งใจ ขอให้สิ่งดีๆ นี้ย้อนกลับไปทุกคนขอให้ทุกคนมีความสุขตลอดไป

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าสิ่งแรกที่คุณแคทอยากจะทำอะไรให้คุณพ่อเมื่อได้เจอกัน คุณแคทตอบว่า สิ่งแรกที่อยากทำคือ จะบอกพ่อว่า “หนูทำให้พ่อได้รู้แล้วว่าพ่อมีหนู” และตนเองก็จะกอดคุณพ่อ ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า อยากจะฝากอะไรบอกคุณพ่อเมื่อได้เห็นคลิปนี้ คุณแคท ตอบว่า “พ่อดูแลสุขภาพนะรอหนู หนูจะไปกอดพ่อนะ”

ปัจจุบันคุณแคทได้ทำธุรกิจอยู่กับสามีและบุตรอีก 2 คน เปิดจำหน่ายขนมซาลาเป่า ขนมจีบ และบ๊ะจ่าง ในบ้านที่ซอยนารี ถนนราษฎรยินดี เขตเทศบาลเมืองราชบุรี จ.ราชบุรี

อัลบั้มภาพ 20 ภาพ

อัลบั้มภาพ 20 ภาพ ของ ฝันเป็นจริง! สาวลูกครึ่งตามหาพ่ออดีตทหารมะกันเจอแล้ว เตรียมบินไปพบปีหน้า

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook