ชาวโลกเชิดชู "หญิงผู้กล้า" ฝ่าไฟป่าช่วยชีวิต เจ้าโคอาลา บาดเจ็บสุดเวทนา

ชาวโลกพากันสรรเสริญ "โทนี" หญิงผู้กล้าฝ่าไฟป่าเข้าไปช่วยเหลือ "หมีโคอาลา" กำลังเผชิญหน้ากับความตาย แต่รอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ภาพของหญิงชาวออสเตรเลียคนหนึ่งได้ถอดเสื้อตัวเองออก ก่อนจะเดินบุกเข้าไปพื้นที่ไฟป่ากำลังถาโถม เพื่อเข้าไปช่วยเหลือหมีโคอาลาตัวหนึ่งที่อยู่ท่ามกลางเปลวเพลิงและได้รับบาดเจ็บจากการถูกไฟคลอก ภาพอันน่าสะเทือนใจนี้กลายเป็นที่กล่าวถึงไปทั่วโซเชียลมีเดียทั่วโลก พร้อมกับเสียงชื่นชมยกย่องหญิงใจกล้าผู้นี้

เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่ไฟป่า ทางชายฝั่งตะวันออกของออสเตรเลีย ที่ลุกลามสร้างความเสียหายไปมากกว่า 2.5 ล้านเอเคอร์ หลังจากเกิดไฟไหม้ป่าลุกโหมต่อเนื่องมาเป็นสัปดาห์ และสัตว์ป่ากลายเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากเหตุไฟไหม้ป่าในครั้งนี้

สำหรับหญิงใจกล้าที่ปรากฏอยู่ในภาพเหตุการณ์ครั้งนี้ สื่อท้องถิ่นระบุว่า เธอมีชื่อว่า "โทนี" ที่ตัดสินใจเข้าช่วยหมีโคลาอาทันทีที่เธอเห็นมันอยู่ในสภาพที่น่าเวทนาใจเป็นอย่างมาก ท่ามกลางความร้อนระอุของผืนป่าที่กำลังถูกไฟป่าลุกลาม มันเลือกที่จะปีนขึ้นต้นไม้และเกาะอยู่แบบนั้น คล้ายกับเฝ้ารอความตายมาถึงเหมือนกับพวกพ้องของมัน

โทนี ได้ถอดเสื้อของเธอและเดินฝ่าไฟป่าเข้าไปอุ้มหมีโคอาลามาเอาไว้ในอ้อมกอด หลังจากนั้นเธอก็เปิดขวดน้ำและให้มันได้ดื่มน้ำ พร้อมกับเทน้ำชะโลมตัวมันเพราะมีบาดแผลถูกไฟคลอกไปทั้งตัว ท่ามกลางเสียงร้องโหยหวนของความเจ็บปวดของมัน

หลังจากนั้น เธอจึงได้เรียกให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงนำเจ้าหมีโคอาลาไปรักษาต่อ เนื่องจากมันมีภาวะอิดโรยและได้รับบาดเจ็บจากแผลไฟคลอก ล่าสุดมีการยืนยันว่าเจ้าหมีโคอาลาตัวนี้ปลอดภัยแล้ว อาการฟื้นตัวดีขึ้นตามลำดับ

ขณะที่ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวถูกกล่าวขานไปทั่วโลก โทนี ได้รับฉายาเป็นนางฟ้าคนล่าสุด ผู้คนต่างยกย่องกับวีรกรรมครั้งนี้ของเธอ พร้อมกับขอบคุณที่เธอตัดสินใจช่วยเหลือเพื่อนสัตว์โลกที่กำลังเผชิญหน้ากับความตาย และทำให้มันรอดชีวิตมาได้ แม้ว่าภาพที่เกิดขึ้นจะทำให้ผู้ที่พบเห็นต้องร้องไห้ตามก็ตาม

สำหรับสถานการณ์ไฟป่าที่ออสเตรเลียยังคงลุกไหม้ต่อเนื่อง คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 4 ศพ และทำลายบ้านเรือนเสียหายไปนับร้อยหลัง อีกทั้งยังมีรายงานว่าหมีโคอาลามากกว่า 350 ตัวต้องตายลงจากไฟป่าครั้งนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงยังคงต่อสู้กับเปลวไฟอยู่