ชาวบ้านแห่สาปแช่ง "เอ็ม" หิ้วตัวทำแผนฆ่าโหด-ก้มขอขมาเศรษฐินีหน้าตู้เย็น
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/ns/0/ud/1588/7940678/13killerladyarrest.jpgชาวบ้านแห่สาปแช่ง "เอ็ม" หิ้วตัวทำแผนฆ่าโหด-ก้มขอขมาเศรษฐินีหน้าตู้เย็น

    ชาวบ้านแห่สาปแช่ง "เอ็ม" หิ้วตัวทำแผนฆ่าโหด-ก้มขอขมาเศรษฐินีหน้าตู้เย็น

    2019-11-02T09:35:06+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    ตำรวจคุมตัว "เอ็ม" ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ฆ่าเศรษฐินีนักปฏิบัติธรรมที่บ้านจุดเกิดเหตุ ชาวบ้านแห่ตะโกนสาปแช่ง เจ้าตัวขอก้มขมาเหยื่อ หน้าตู้เย็นที่อำพรางศพโบกปูน

    (2 พ.ย.) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่และ สภ.จอมทอง ได้คุมตัว นายวิฑูรย์ หรือ เอ็ม อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุฆ่านางสาววรรณี อายุ 58 ปี เศรษฐินีนักปฏิบัติธรรมลูกศิษย์วัดพระธาตุศรีจอมทอง ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านจุดเกิดเหตุ ท่ามกลางความสนใจของประชาชนในพื้นที่ ต่างมาเฝ้าดู พากันสาปแช่งและโห่ไล่ใส่ผู้ต้องหาเป็นระยะๆ ท่ามกลางการคุ้มกันของเจ้าหน้าที่

    สำหรับการทำแผนประกอบคำรับสารภาพในครั้งนี้นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ นายวิฑูรย์ แสดงขั้นตอนการลงมือก่อเหตุอย่างละเอียด ตามคำรับสารภาพที่อ้างว่าลงมือช่วงเช้าวันที่ 11 ตุลาคม 2562 โดยทำทีไปเคาะบ้านเรียกผู้เสียชีวิต จนกระทั่งเปิดประตูออกมาเห็นว่าเป็นคนรู้จัก จึงได้เชิญเข้าบ้าน

    จากนั้นจึงสบโอกาสลงมือทำร้ายร่างกาย ก่อนจะจับมัดมือเท้าละบังคับเอาบัตรเอทีเอ็มและรหัส ซึ่งเมื่อได้แล้วจึงนำไปทดลองกดเงินว่าได้จริงหรือไม่ เมื่อพบว่าสำเร็จจึงได้ย้อนกลับมาลงมือทำร้ายและฆ่าผู้เสียชีวิต จากนั้นอีก 2 วันต่อมา ถึงย้อนกลับมาอำพรางศพใส่ตู้เย็นและโบกปูนทับ ก่อนจะหลบหนี โดยหลังจากนั้นได้นำบัตรเอทีเอ็มของผู้เสียชีวิตไปตระเวนกดเงินสดตามตู้ต่างๆ ได้เงินไปทั้งสิ้น 1.7 ล้านบาท

    เจ้าหน้าที่ได้นำตัวทำแผนโดยละเอียดทุกขั้นตอนของการก่อเหตุในบ้านหลังดังกล่าว แต่มีช่วงหนึ่งที่นายวิฑูรย์ได้ออกปากขอเจ้าหน้าที่ ต้องการจะกราบขอขมาผู้เสียชีวิตที่จุดก่อเหตุ และจุดที่ยัดศพเข้าไปในตู้เย็นด้วย

    นอกจากการทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านของผู้ตายแล้ว ได้นำตัวผู้ต้องหาส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดฮอดเพื่อดำเนินคดีต่อทันที โดยไม่ทำแผนตามจุดต่างๆ ทั้งร้านที่ไปซื้ออุปกรณ์มาใช้อำพรางศพและตู้เอทีเอ็มที่ไปกดเงินสด เนื่องจากมีพยานและหลักฐานพร้อมไว้หมดแล้ว รวมทั้งเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดกับผู้ต้องหาด้วย