หนุ่มสะอื้น บิ๊กไบค์มือสองยังผ่อนไม่หมดเจอขโมย แถมโจรเอาเชือกมัดปิดประตูห้อง

กล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ 600 ซีซี ของหนุ่มที่ซื้อมือสองมาและยังผ่อนไม่หมดขี่ผ่านกล้องขณะหลบหนี แถมยังเอาเชือกมามัดสายยูประตูหน้าห้องไม่ให้ กันเจ้าของรถได้ยินแล้วออกมาทันช่วงก่อเหตุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (8 ก.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น. นายวินัย อายุ 30 ปี อยู่บ้านหลังหนึ่ง บ้านสุรศักดิ์ ซอย 22 หมู่ 5 ตำบลบ่อวิน อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดที่ไปขอดูจากโรงงานแห่งหนึ่งใกล้เคียงกับที่พักเส้นทางที่คนร้ายขับหลบหนี ซึ่งจับภาพคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ซูซูกิ รุ่น ER6N 600 ซีซี สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ของนายวินัยผู้เสียหาย ที่ก่อเหตุมาขับขี่ผ่านไว้ได้

นายวินัย เล่าว่า รถจักรยานยนต์คันที่ถูกก่อเหตุไปนั้นเป็นรถจักรยานยนต์มือ 2 ที่ออกมาได้ปีกว่าแล้ว แต่ยังผ่อนไม่หมดและยังต้องผ่อนต่ออีก 20 งวด งวดละเกือบ 4 พันบาท โดยคืนเกิดเหตุนั้นได้จอดรถไว้หน้าบ้าน

เนื่องจากก่อนหน้านี้ตนเองได้ถอดล้อหน้าและล้อหลังออกมาและส่งไปทำสีใหม่ให้สวย และคืนที่ถูกก่อเหตุนั้นได้ทำการประกอบล้อหน้าหลังใส่ไว้แล้ว แต่เบรกหน้าและเบรกหลังยังไม่ทันได้ใส่ เพราะยังรออะไหล่ที่สั่งไปมาใส่เสริมอยู่ 

คืนเกิดเหตุนั้นก็ยังจอดรถคอล็อกไว้หน้าบ้านบริเวณหน้าห้องแม่ ก็เพื่อต้องการให้รถกระบะบังไว้ด้วย แต่ก็ยังไม่วายถูกคนร้ายอาศัยช่วงฝนตกเข้ามาก่อเหตุไปจนได้ทั้งที่รถไม่มีเบรก จนกระทั่งตื่นขึ้นมาตอนเช้าจึงทราบว่ารถของตนเองที่จอดไว้หายไปแล้ว

จึงได้โทรไปหาน้องและคิดว่าน้องเอาไป แต่ก็ไม่น่าใช่เพราะรถยังทำไม่เสร็จ แถมน้องจะขี่ไปได้ยังไง 2 คัน และน้องก็บอกว่าไม่ได้ขี่มาจึงแน่ใจว่ารถหาย น้องชายจึงลางานกลับบ้านมาเพื่อช่วยตามหา

แถมคนร้ายยังแสบอีกโดยใช้เชือกที่เตรียมมามัดสายยูล็อก สำหรับไว้ล็อกกุญแจประตูหน้าห้องไว้อย่างแน่นหนาอีกด้วย เพื่ออาจกันคนในห้องตื่นขึ้นมาแล้วได้ยินจะได้ออกมาทันช่วงที่กำลังก่อเหตุกัน แต่ห้องที่คนร้ายมัดไม่ใช่ห้องของตนเองแต่เป็นห้องของแม่ ส่วนตนเองอยู่อีกห้องข้างๆ กัน

หลังจากเกิดเหตุตนและน้องชายที่รีบลางานกลับมาจึงไปขอดูกล้องวงจรปิดโรงงานใกล้เคียงบ้าน ซึ่งจับภาพคนร้ายกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์ของตนเองหลบหนีไป

ตนเองและน้องชายจึงพากันออกไปตามหาในป่าใกล้เคียงเส้นทางที่กล้องจับภาพได้ ซึ่งคาดว่าคนร้ายจะนำรถจักรยานยนต์ของตนเองไปซุกไว้ก่อนเพื่อรอการขนย้ายแต่ไม่เจอ จึงได้นำหลักฐานเข้าไว้ความไว้ที่สถานีตำรวจภูธรบ่อวิน เพื่อหวังให้ทางเจ้าหน้าที่ช่วยติดตามรถของตนเองที่ยังผ่อนไม่หมดและรักกลับคืนมาให้ได้โดยเร็ว