ไม่ใช่ฉี่! สพป.ขก.เขต 3 เผยผลสอบครูประถม ยันแค่ให้ดื่มน้ำสมุนไพร

ไม่ใช่ฉี่! สพป.ขก.เขต 3 เผยผลสอบครูประถม ยันแค่ให้ดื่มน้ำสมุนไพร

ไม่ใช่ฉี่! สพป.ขก.เขต 3 เผยผลสอบครูประถม ยันแค่ให้ดื่มน้ำสมุนไพร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม จากกรณีที่โลกออนไลน์ให้ความสนใจประเด็นที่ครูประถมฯท่านหนึ่งจากขอนแก่น โพสต์ว่า เอาน้ำปัสสาวะให้เด็กนักเรียนดื่ม โดยเชื่อว่าเป็นยาวิเศษ และหลอกเด็กๆว่าเป็นน้ำมนต์ ล่าสุด  ดร.สนอง สุดสะอาด ผอ.สพป.ขก.เขต 3 ได้ออกมาชี้แจงว่า ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยโรงเรียนที่เกิดเหตุเป็นโรงเรียนในสังกัด สพป.ขก.เขต 3 และได้เรียก นายกวี วรรณศรี ผู้อำนวยการโรงเรียนโจดหนองแก หนองสิม ตำบลโจดหนองแก อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น และคุณครูที่ตกเป็นข่าว มาพบทันทีเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

>> อึ้ง ครูประถมโวกลั่นฉี่ผสมสมุนไพรให้เด็กนักเรียนป่วยกิน เห็นผลภายใน 30 นาที

ขณะเดียวกัน ก็ได้ให้เจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมการจัดการศึกษา ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการส่งเสริมสวัสดิการสวัสดิภาพเด็ก มาร่วมนั่งฟังด้วย นอกจากนี้ ยังมีนิติกรร่วมนั่งฟังด้วย โดยจากการสอบถามทราบว่า ครูท่านนี้เป็นครูสายธรรมะ ฝึกปฏิบัติธรรม และกินเจอยู่เป็นประจำ โดยได้ศึกษาเกี่ยวกับสมุนไพรต่างๆ และเข้าไปศึกษาพระไตรปิฏก  ซึ่งในพระไตรปิฎกบอกว่าโบราณที่ผ่านมาการใช้น้ำมูตรรักษาโรคได้ ซึ่งน้ำมูตรก็คือน้ำปัสสาวะ ครูท่านนี้ยังบอกอีกว่า มีงานวิจัยที่เกี่ยวกับเรื่องน้ำปัสสาวะมากมาย ซึ่งตัวครูเองก็อยู่ในกลุ่มเฟซบุ๊กและกลุ่มไลน์ ของแพทย์วิถีธรรมแห่งประเทศไทยด้วย

เมื่อถามว่า ได้ทำน้ำสมุนไพรใส่ปัสสาวะให้เด็กนักเรียนกินจริงหรือไม่ ครูท่านนี้ ปฏิเสธ  โดยบอกว่าตนเองศึกษาวิจัยด้วยการเอาน้ำใบเตย น้ำย่านาง น้ำใบเบญจรงค์ ซึ่งเป็นกลุ่มสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็น เมื่อเด็กกระหายก็นำน้ำสมุนไพรเหล่านี้มาให้เด็ก ๆ ดื่ม ยืนยันว่า มีเด็ก 10 กว่าคนที่ดื่มน้ำสมุนไพรของครู แล้วบอกว่าสดชื่นดี ไม่มีปัญหาอะไร และครูก็ยืนยันว่า ไม่ได้ใส่ปัสสาวะให้เด็กดื่ม

ดร.สนอง ยังได้สอบถามครูรายนี้อีกว่า เหตุใดจึงไปเขียนข้อความดังที่ปรากฎในไลน์และเฟซบุ๊ก ครูตอบว่า ตนอยู่ในกลุ่มไลน์และมีการพูดคุยกันอยู่ในกลุ่ม ทางกลุ่มก็กำลังทำการวิจัย การส่งข้อความไปเช่นนั้นก็เพื่อทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ

ส่วนของทางโรงเรียน ผอ. โรงเรียนเปิดเผยว่า ด้านสาธารณสุขของโรงเรียนไม่มีปัญหาอะไร เมื่อมีเด็กคนใดป่วย ก็จะได้รับการดูแลอย่างดี มีห้องพยาบาล พร้อมยาสามัญครบ หากป่วยหนักเกินกว่าที่ห้องพยาบาลจะรักษาได้ ก็จะพาเด็กไปที่สาธารณสุขตำบล ที่อยู่ห่างจากโรงเรียนเพียง 300 เมตร

อย่างไรก็ตาม ดร.สนองได้มอบหมายให้นิติกรลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดอีกด้าน  ซึ่งจะมีการสอบถามรายละเอียดจากเด็ก ๆ โดยตอนนี้ ตนได้สั่งให้ทางโรงเรียนหยุดการแจกจ่ายน้ำสมุนไพรดังกล่าวไปก่อน เพราะอาหารหรือน้ำดื่มที่ไม่ได้ผ่าน อ.ย. จะไม่ให้แจกเด็ก ๆ เด็ดขาด

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook