อดีตนักมวย “หลับสนิท ศิษย์หามลง” โวยโรงพยาบาลปฏิเสธรักษา ทั้งที่แผลเต็มตัว

อดีตนักมวย “หลับสนิท ศิษย์หามลง” โวยโรงพยาบาลปฏิเสธรักษา ทั้งที่แผลเต็มตัว

อดีตนักมวย “หลับสนิท ศิษย์หามลง” โวยโรงพยาบาลปฏิเสธรักษา ทั้งที่แผลเต็มตัว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธนวัฒน์ อายุ 43 ปี พนักงานบริษัทรักษาความปลอดภัยแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ และเป็นอดีตนักมวยไทยสมัครเล่น ฉายา “หลับสนิท ศิษย์หามลง” ซึ่งประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกับรถยนต์ จนใบหน้าเต็มไปด้วยบาดแผล หัวโน คิ้วแตก ปากแตก หลังมือถลอกจนจนเลือดไหลซึมออกมา ยื่นถือเอกสารร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวอยู่ด้านหน้าโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ใน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ หลังถูกปฏิเสธการรักษาจากโรงพยาบาลดังกล่าว

นายธนวัฒน์ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (18 ม.ค.) ขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งลูกสาวเรียนหนังสือที่โรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ ถนนบุญเรืองฤทธิ์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อมาถึงถนนมหิดล บริเวณหน้าหมู่บ้านเชียงใหม่แลนด์ เกิดเฉี่ยวชนกับรถยนต์คันหนึ่ง จนรถตัวเองแฉลบล้มลง ขณะที่รถคู่กรณีขับหลบหนีไปทันที ตนเองนอนสะลึมสะลืออยู่พักหนึ่ง ก็มีพลเมืองดีมาช่วยเหลือ เมื่อได้สติจึงรีบเข้าไปดูลูกสาว โชคดีที่ลูกไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรแต่อยู่ในอาการตกใจ ส่วนตนเองมีแผลถลอกตามร่างกายและมีเลือดไหลออกมา จึงรีบพาลูกสาวไปส่งที่โรงเรียน จากนั้นก็ขี่รถจักรยานยนต์มาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กับที่ทำงาน เพราะเป็นคนไข้ประจำของที่นี่อยู่แล้ว

หลังเดินทางมาถึงได้หยิบเอกสาร พ.ร.บ.ของบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉิน เพื่อแสดงสิทธิ์และเข้ารักษาตัว แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ได้บอกให้นั่งรอ เพราะต้องติดต่อกับหัวหน้าก่อน หลังรออยู่นานเกือบ 20 นาทีจนทนไม่ไหว จึงลุกขึ้นไปสอบถามก็ไม่ได้รับคำตอบ ด้วยความโมโหจึงโวยวายเพื่อถามถึงเหตุผลที่โรงพยาบาลไม่สนใจรับรักษาตนเอง จนมีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลคนหนึ่งเข้ามาจับคอเสื้อ

ต่อมาตนได้ประสานร้องเรียนไปยังผู้สื่อข่าว เพราะเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการที่โรงพยาบาลปฎิเสธการรักษาโดยไม่มีเหตุผล ทั้งที่ตนเองได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ และ ใช้สิทธิ์ตาม พ.ร.บ.ผู้ประสบภัยจากรถ ซึ่งสามารถเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลใดก็ได้ ขณะที่โรงพยาบาลไม่มีคำอธิบายหรือการชี้แจงใดๆ ปล่อยให้ตนเองหอบร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลออกจากห้องฉุกเฉินไปโดยไม่สนใจจะทำแผลให้

นายธนวัฒน์ กล่าวอีกว่า ยอมรับว่าได้ส่งเสียงดังโวยวายอยู่หน้าห้องฉุกเฉินจริง แต่ทำไปด้วยอารมณ์โกรธและโมโห เพราะโรงพยาบาลปฎิเสธการรักษาทั้งที่ตนเองบาดเจ็บมีแผลเต็มตัว โดยขณะที่นั่งรออยู่ไม่ได้มีเคสฉุกเฉินหรือผู้บาดเจ็บรายอื่นใช้บริการอยู่ก่อนแต่อย่างใด นายธนวัฒน์ ยังยืนยันว่า เพิ่งไปทำ พ.รบ.และต่อภาษีมา โดย พ.ร.บ. เริ่มมีผลวันที่ 9 มกราคม 2562 สิ้นสุดวันที่ 4 เมษายน 2563 

นอกจากนี้ นายธนวัฒน์ยังได้ควักเงินออกมาให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมบอกว่า ตนมาโรงพยาบาลเอกชนก็รู้อยู่แล้วต้องเสียเงิน ตนพกเงินที 4-5 พัน ไม่ใช่กระจอก ก็บอกมาว่าค่ารักษาทำแผลเท่าไหร่ จะให้ไปเบิกเองที่พ.ร.บ. อย่างไรก็บอกมา ไม่ใช่มาปฏิเสธกันเช่นนี้

หลังร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวแล้ว นายธนวัฒน์ ได้หอบร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลขี่จักรยานยนต์ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งก่อนไปนายธนวัฒน์ได้หยิบหมกกันน็อกออกมาให้ผู้สื่อข่าวดู ซึ่งบนหมวกมีร่องรอยถลอกทั่วทั้งใบ เจ้าตัวเผยว่าหากไม่มีหมวกกันน็อกใบนี้หัวคงฟาดกับถนนไปแล้ว จึงอยากบอกประชาชนทุกคนว่า เวลาขับขี่จักรยานยนต์ควรสวมหมวกกันน็อกเพื่อความปลอดภัย

ขณะที่ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลเพื่อประสานขอทราบข้อเท็จจริงจากผู้บริหาร แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ขณะที่เจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ระบุว่า ต้องสอบถามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่เวรดึก เนื่องจากมีการเปลี่ยนเวรไปแล้ว

เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของโรงพยาบาล ระบุว่า รู้จักผู้บาดเจ็บรายนี้ดี และมีกล้องหน้าห้องฉุกเฉินบันทึกเหตุการณ์ไว้ทั้งหมดแล้ว หากมีการลงข่าวที่สร้างความเสียหายให้กับโรงพยาบาลจะดำเนินคดีทันที

ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์เพื่อสัมภาษณ์ ร้อยเอก ภูรีวรรธน์ โชคเกิด สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ถึงกรณีที่เกิดขึ้น ซึ่งร้อยเอก ภูรีวรรธน์ กล่าวว่า ขอตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นอีกครั้ง พร้อมประสานให้นายธนวัฒน์ผู้เสียหายนำเอกสารหลักฐานต่างๆ มายื่นที่งานประกัน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อจะให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลกรณีโรงพยาบาลปฎิเสธการรักษาผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ

ร้อยเอก ภูรีวรรธน์ กล่าวอีกว่า ตามสิทธิ์ผู้ได้รับบาดเจ็บที่เป็นผู้ประสบภัยจากการใช้รถ ตาม พ.ร.บ.สามารถเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลใดก็ได้ โดยค่ารักษาเบื้องต้นไม่เกิน 3 หมื่นบาท

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook