ชีวิตพลิกผัน! นักมวยดาวรุ่งป่วยทางจิต พ่อเชื่อตกเป็นเหยื่อด้านมืดวงการมวย

ชีวิตพลิกผัน! นักมวยดาวรุ่งป่วยทางจิต พ่อเชื่อตกเป็นเหยื่อด้านมืดวงการมวย

ชีวิตพลิกผัน! นักมวยดาวรุ่งป่วยทางจิต พ่อเชื่อตกเป็นเหยื่อด้านมืดวงการมวย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตี๋เล็ก ป.เรืองเดช อดีตดาวรุ่งแชมป์เวทีมวยดัง ชีวิตพลิกผัน จู่ๆ ก็ป่วยคล้ายมีอาการทางจิต พ่อเชื่อด้านมืดวงการมวยเป็นเหตุ หลังพบลูกเคยถูกวางยา

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ที่บ้านเลขที่ 165 หมู่ 7 ต.โพนทอง อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม เพื่อพบกับ นายรุ่งเรือง หรือ เรือง เชียงยืน อายุ 50 ปี พ่อของ นายพรราชัน ศรีอรียา หรือ ฉายาในวงการมวยไทย คือ ตี๋เล็ก ป.เรืองเดช ปัจจุบันอายุ 33 ปี อดีตแชมป์เวที 7 สีรุ่น 102 ปอนด์ ค่าตัวสูงสุด 35,000 บาท ซึ่งปัจจุบันตี๋เล็ก มีสภาพเหมือนคนสติไม่สมประกอบ

นายรุ่งเรือง เล่าว่า ตี๋เล็ก เริ่มฝึกและชกมวยมาตั้งแต่อายุ 8 ปี ชกมาแล้วกว่า 500 ไฟท์ เคยเป็นดาวรุ่งโชว์ฝีมือแม่ไม้มวยไทยเวทีใหญ่ทั้งเวทีมวยลุมพินี และเวทีราชดำเนิน และเคยได้แชมป์เวที 7 สี รุ่น 102 ปอนด์ โดยตี๋เล็กได้ชกมวยไฟท์สุดท้าย ที่เกาะสมุย จ.สุราษฏาธานี เมื่อต้นเดือนมิถุนายน 61 ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้ตี๋เล็กใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่ก็ได้มีการโทรศัพท์ติดต่อกับพ่อที่อยู่มหาสารคามอย่างสม่ำเสมอ จนล่าสุดเมื่อเดือน กรกฎาคม ที่ผ่านมา ตี๋เล็กอยากกลับมาหาพ่อที่มหาสารคาม แต่ว่าไม่มีเงิน จึงได้โทรศัพท์มาหาพ่อ และพ่อได้โอนเงินไปให้เป็นค่ารถจำนวน 1,500 บาท พร้อมบอกว่าจะกลับบ้านในวันที่ 23 กรกฎาคม 2561 แต่ปรากฏว่าตี๋เล็กได้หายตัวไป จนกระทั่งวันที่ 31 กรกฎาคม พ่อได้รับโทรศัพท์จากโรงพยาบาลสระบุรีว่า ลูกชายมีอาการเหมือนคนสติไม่สมประกอบ ถามอะไรก็ไม่รู้เรื่อง ตนเองจึงรีบไปรับตัวกลับมาอยู่ที่บ้าน สอบถามหมอที่โรงพยาบาลก็ทราบแต่เพียงว่า ตำรวจนำตัวตี๋เล็กมาส่งที่โรงพยาบาล เพราะอยู่ดีๆ ก็เดินเข้าไปที่บ้านคนอื่น

ตี๋เล็ก ป.เรืองเดช และ นายรุ่งเรือง ผู้เป็นพ่อ

เมื่อตนรับตี๋เล็กกลับมาอยู่บ้าน ช่วงแรกๆ ลูกชายมีอาการเหม่อลอย คอยบอกให้คนในบ้านไปอยู่ที่อื่น เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย ถามตอบอะไรก็ไม่รู้เรื่อง จำใครไม่ได้ ตนจึงพาลูกไปหาหมอที่โรงพยาบาลจิตเวชเพื่อรักษาตัว หวังให้ลูกกลับมาเป็นปกติ รวมถึงอาศัยความเชื่อเดินทางไปทำบุญและต้องพึ่งไสยศาสตร์ กระทั่งปัจจุบันเป็นเวลา 4 เดือนแล้ว แต่สภาพลูกชายก็ยังไม่ปกติแต่ก็พอใจขึ้น เพราะตี๋เล็กสามารถอยู่คนเดียวตามลำพังได้ และยังช่วยงานบ้านเป็นประจำทุกวัน เช่น ล้างจาน และทิ้งขยะ สามารถออกไปเดินเล่นพบปะผู้คน หรือไปซื้อของที่ร้านค้าในหมู่บ้านได้ ซึ่งหวังว่าในอนาคตตี๋เล็กจะกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง

ส่วนคำถามที่ว่าลูกชายต้องมาเป็นแบบนี้ เพราะเกิดจากการชกมวยตั้งแต่เด็กหรือไม่นั้น ตนคิดว่าก็มีส่วนบ้างแต่คงเป็นส่วนน้อย เพราะนักมวยดังๆ หลายคนก็ผ่านการชกมวยมาแล้วไม่ต่ำกว่า 500-600 ไฟท์ ส่วนอาการของลูกชาย คิดว่าเป็นเพราะหลายอย่างด้วยกัน ทั้งเรื่องการชกมวย รวมถึงเรื่องเคยถูกวางยาขณะกำลังจะขึ้นชกอีกด้วย

ทุกวันนี้ตนต้องเป็นเสาหลักให้กับครอบครัว และดูแลตี๋เล็กด้วย หากทราบข่าวว่ามีหมอที่ไหนดีตนเองก็ตระเวนพาไปรักษาเพื่อให้ลูกชายอาการดีขึ้น แต่ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายตามมาที่สูงพอสมควร โชคดีที่มีแฟนมวย และคนที่ชื่นชอบฝีมือการชกของตี๋เล็ก หลังจากทราบข่าวก็ยื่นมือมาช่วยเหลือ ตนก็ได้นำเงินที่ได้มาไปรักษาลูก เป็นค่าหมอ ค่ายา และค่าเดินทาง ซึ่งหากจะให้ลูกกลับไปชกมวยอีกครั้งก็คงเป็นไปไม่ได้แล้ว ก็คงต้องอยู่ต่อไปแบบนี้ต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook