จัดทัพขุมกำลัง “บิ๊กตู่” พากลับสู่อำนาจ!!!

จัดทัพขุมกำลัง “บิ๊กตู่” พากลับสู่อำนาจ!!!

จัดทัพขุมกำลัง “บิ๊กตู่” พากลับสู่อำนาจ!!!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังประมุขสูงสุดฝ่ายบริหาร หล่นวาจาว่าสนใจการเมือง จังหวะการย่างก้าวนี้ไปสอดคล้องกับถนนทุกสายที่ตัดปูลาดรองรับเส้นทางเดินของขุนทหารใหญ่ผู้นี้ โดยเฉพาะในเรื่องการจัดวางขุมกำลังไพร่พลต่างๆ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐ ข้าราชการฝ่ายความมั่นคง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ที่ถูกโยกย้าย สับเปลี่ยน ขับเคลื่อนอย่างรัดกุมที่สุด เพื่อหวังผลสัมฤทธิ์บั้นปลายคือให้ “ลุงตู่” อยู่ในอำนาจต่อไป

มาดูกันที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง 3 หน่วยหลัก คือ กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ นั้น มีการวางไลน์ไว้เรียบร้อยโรงเรียน “ลุงป้อม” ไปแล้ว โดย “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ นั่งเก้าอื้ใหญ่สุดของกองทัพบกในตำแหน่ง ผบ.ทบ.คนใหม่ ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ ส่วนอีก 4 เสือ ทบ. ได้วางตัวมือทำงานจอมเก๋าทั้งนั้น ส่วนระดับหัวในกองทัพต่างๆ นั้น เปลี่ยนยกแผง ทั้ง ทัพเรือ ทัพอากาศ และปลัดกลาโหม

ที่ผ่านมา กองทัพถูกดึง-ถูกโยงเข้าหาเรื่องการเมืองมาทุกยุคทุกสมัย แม้จะไม่มีใครกล้าพูดชัดๆ ว่ากองทัพเป็นฐานการเมืองที่สำคัญของคนที่มีอำนาจ แต่ดูเหมือนเป็นที่รู้กันดีว่าเป็นอย่างไร เพราะประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ต่อให้ประชาชนเรือนแสนเรือนล้านออกมาบนถนนมากเพียงใด แต่คนที่จะเข้าไปปลดอำนาจของผู้นำประเทศนั้น มีเพียงขุนทหารเท่านั้นที่สามารถกระทำได้

การได้ “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ มาคุมกำลังทหารทั่วประเทศ ในช่วงสถานการณ์นี้น่าจะเหมาะสมที่สุด เพราะปิดประตูเรื่องการปฏิวัติซ้ำซ้อนได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงการมองไกลไปถึงวันข้างหน้าที่ลุงตู่ได้เป็นผู้นำต่อ และมีกลุ่มก้อนการเมืองออกมาบนถนนอีกครั้ง ขุนทหารก็น่าจะจัดการได้

ส่วนในรั้วปทุมวันนั้น “แม่ทัพแป๊ะ" พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา พร้อม “ลุงป้อม” นั่งหัวโต๊ะพิจารณาแต่งตั้งโยกย้าย 134 ตำแหน่ง เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ที่ผ่านมา คัดเลือกคนเด่นคนดัง นั่งคุมกำลังหลัก ทั้งส่วนกลางและภูธร โดยเฉพาะผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1-9 และเน้นไปที่ภาค 3 ภาค 4 คุมกำลังภาคอีสาน ภาค 5 ภาค 6 ดูแลภาคเหนือ ซึ่งเมื่อดูรายชื่อแล้ว ไม่น่ามี “ตำรวจแตงโม” เล็ดรอดมาสร้างความกังวลใจให้ผู้มีอำนาจได้

ขณะเดียวกัน ในโหมดของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงมหาดไทย ที่เจ้ากระทรวง “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา พี่ชายที่รักของ “ลุงตู่” ได้จัดแถว วางหมาก ในการโยกย้ายพ่อเมืองมาแล้ว 2 ล็อตใหญ่ๆ โดยล็อตล่าสุดขยับ 24 ตำแหน่ง ผ่าน ครม.ฉลุย เน้นสายเหนือ อีสาน ฐานเสียงพรรคคู่แข่งเป็นหลัก

โดยเหล่าพ่อเมืองหน้าใหม่นั้น คนที่ถูกจับตาอย่างยิ่งคือ “สยาม ศิริมงคล” ที่ขึ้นเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ด้วยอายุเพียง 44 ปีเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้ เขาว่ากันว่า เจ้าตัวนั้นสนิทสนมกับทุกขั้ว แต่อาจจะพิเศษหน่อยกับ “คนโตบุรีรัมย์” และนี่อาจเป็นการวางมัดจำ สัญญาใจกับพรรคภูมิใจไทย ว่าอนาคตกาลข้างหน้า น่าจะเป็นกองหนุนลุงตู่อีกแรงหนึ่งนั่นเอง

เหล่านี้ คือการวางขุุมกำลังเพื่อเผชิญศึกใหญ่ เลือกตั้งปีหน้า ที่ต้องจับตาดูว่า “ขั้วอำนาจสายท็อปบู๊ต” ที่ใช้ทุกกลยุทธ์กุมความได้เปรียบเอาไว้แล้ว จะชนะในศึกนี้หรือไม่!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook