พ่อหวังปาฏิหาริย์ ขอยื้อชีวิตสามเณร 9 ขวบ ไม่ถอดเครื่องช่วยหายใจ

พ่อหวังปาฏิหาริย์ ขอยื้อชีวิตสามเณร 9 ขวบ ไม่ถอดเครื่องช่วยหายใจ

พ่อหวังปาฏิหาริย์ ขอยื้อชีวิตสามเณร 9 ขวบ ไม่ถอดเครื่องช่วยหายใจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ความคืบหน้ากรณี สามเณรดิว อายุ 9 ขวบ ที่บวชจำพรรษาอยู่ที่วัดดอนขมิ้น ต.ลูกแก อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ถูกทำร้ายร่างกาย อาการสาหัส ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา อ.เมืองกาญจนบุรี อาการยังโคม่า เป็นตายเท่ากัน โดยหลังจากเกิดเหตุ อดีตหลวงตาศุภชัย หรือ นายสุภชัย อายุ 64 ปี อดีตพระลูกวัดดอนขมิ้น ยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุดังกล่าว

>> ตร.บุกวัดคุมตัวหลวงตา สารภาพคว้าไม้ฟาดสามเณร 9 ขวบ อาการทรุดหนัก

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (20 ส.ค.) เมื่อเวลา 08.00 น. ที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี นางสุกัญญา อายุ 33 ปี และ นายวัฒนา อายุ 36 ปี มารดาและบิดา รวมทั้งญาติๆ ของสามเณรดิว ยังคงเฝ้าติดตามอาการสามเณรดิว ที่หน้าห้องไอซียูอย่างใกล้ชิด ด้วยความเป็นห่วง

โดย นางสุกัญญา เปิดเผยว่า ล่าสุดแพทย์ได้แจ้งอาการของ สามเณรดิว ลูกชาย ว่า ความดันลดลง หายใจเองไม่ได้ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอด ซึ่งตนก็ได้แต่หวังว่าจะมีปาฏิหาริย์ ช่วยให้ลูกฟื้นขึ้นมา ถึงแม้จะฟื้นขึ้นมาแล้วจะเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตและอยู่กับตนได้ไม่นานนักตาม แต่ตนคงไม่ตัดสินใจถอดเครื่องช่วยหายใจออก เพราะไม่สามารถทำใจได้ ที่จะทำเช่นนั้น

สำหรับเรื่องคดีความก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินการกับผู้กระทำผิด ซึ่ง อดีตหลวงตาศุภชัย ก็ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือทำร้ายลูกของตนจริง ซึ่งตอนนี้ตนก็จะขอทำหน้าที่ของแม่ให้ดีที่สุดในช่วงวาระสุดท้ายของลูกที่ลูกจะได้อยู่กับเรา

ทั้งนี้ ครอบครัวมีฐานะยากจน เป็นคนหาเช้ากินค่ำ สามเณรดิว ลูกชาย จึงอาสาที่จะบวชเรียนภาคฤดูร้อน เพื่อให้ครอบครัวสบายขึ้น แต่ไม่คิดว่าเหตุการณ์จะเป็นเช่นนี้ ตนพยายามที่จะทำใจ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นกะทันหันมาก จึงรับไม่ได้ที่ลูกจะไม่ได้อยู่กับเราตลอดชีวิตแล้ว

สำหรับ สามเณรดิว ลูกชาย มีนิสัยซุกซนตามประสาเด็ก ซึ่งตนก็ได้แจ้งอดีตหลวงตาศุภชัยไปแล้ว ว่าสามเณรลูกชายชอบเล่นไฟ ซึ่งที่ผ่านมาอดีตหลวงตาศุภชัยก็มักจะลงโทษด้วยการตี จนทำให้มีบาดแผลบ้าง แต่ในครั้งนี้ถือว่าทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ ซึ่งตนจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

ขณะที่ นายวัฒนา เปิดเผยว่า ตนและแม่ของสามเณรดิว แยกทางกันมานานกว่า 1 ปี แล้ว มีบุตรชายด้วยกัน 2 คน คือ สามเณรดิว และ สามเณร วัย 5 ขวบ ที่บวชเรียนพร้อมกันอีกหนึ่งคน

ตนเสียใจ และทำใจไม่ได้ที่ สามเณรดิว ลูกชายถูกกระทำเช่นนี้ แต่ก็คงไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แล้ว ยอมรับว่า ตนไม่ค่อยมีเวลามาดูแลลูก แต่ตนก็พยายามที่จะหาเวลามาหาลูกให้บ่อยที่สุด ซึ่งคงต้องโทษตัวเอง เพราะการที่พ่อแม่แยกทางกัน อาจเป็นสาเหตุให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น

ตนคงไม่อโหสิกรรมให้ อดีตหลวงตาศุภชัย ซึ่งแท้ที่จริงหาก อดีตหลวงตาศุภชัย ไม่สามารถดูแลลูกของตนได้ก็น่าจะบอกให้ตนทราบ และไม่น่าจะลงมือทำร้ายลูกตนขนาดนี้

ซึ่งเมื่อครั้งที่ตนไปเยี่ยมหา สามเณรดิว ลูกชาย ก็มักจะพบว่า มีอาการซึมเศร้า และร้องอยากลับบ้านตลอดเวลา ตนก็ได้สอบถามลูกว่าเป็นอะไร ซึ่งลูกก็ตอบว่า ถูก อดีตหลวงตาศุภชัย ตี แต่ตนก็คิดว่าเป็นเรื่องปกติ ในเมื่อลูกทำผิดก็จะต้องถูกทำโทษเป็นเรื่องธรรมดา

ทั้งนี้ ตนคงไม่ตัดสินใจถอดเครื่องช่วยหายใจออกในตอนนี้ เพราะยังทำใจไม่ได้ อยากรอดูอาการอีกสักระยะ แต่หากไม่ไหวจริงๆ ถึงที่สุดแล้วก็คงจะต้องยอมทำใจ เพราะหากยื้อต่อไปอาจไม่มีประโยชน์กับลูก

การที่ตนนำลูกไปบวชเรียน ก็เพราะเชื่อว่าศาสนาจะสามารถเป็นที่พึ่งพาได้ดีที่สุด ในระหว่างที่ตนต้องทำมาหากินเพื่อสร้างเนื้อสร้างตัว จึงนำไปฝากให้ อดีตหลวงตาศุภชัย เป็นผู้ดูแลลูกของตน

ครั้งนี้ อดีตหลวงตาศุภชัย ทำรุนแรงเกินกว่าเหตุไปมาก เหมือนจะฆ่ากันให้ตาย ทั้งๆ ที่ลูกของตนเป็นเด็กตัวแค่นี้ ซึ่งหากมีการไกล่เกลี่ย ตนจะไม่ยอมความโดยเด็ดขาด และจะเดินหน้าเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

อย่างไรก็ตามตน ฝากไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจขอให้ดำเนินการในเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด และขอความเป็นธรรมให้กับครอบครัวตนด้วย โดยขอให้ อดีตหลวงตาศุภชัย ได้รับกรรมที่เขาได้ก่อไว้ในครั้งนี้

ด้าน ร.ต.อ.อำนาจ จันทร์บุตร รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ลูกแก จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ซึ่งจะได้รวบรวมพยานหลักฐาน ประกอบการวินิจฉัยของแพทย์ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหากับผู้กระทำผิดเพิ่มเติมต่อไป

เวลาต่อมา นายแพทย์กิตติ อินทราสุขพร  รอง ผอ.ฝ่ายการแพทย์ รพ.พหลพลพยุหเสนา นายแพทย์วสุ ศรีวสุธา ศัลยแพทย์ระบบประสาทและสมอง รพ.พหลพลพยุหเสนา และเจ้าหน้าที่จากพัฒนาสังคม จ.กาญจนบุรี ร่วมกันแถลงข่าว 

โดย นายแพทย์กิตติ อินทราสุขพร รอง ผอ.ฝ่ายการแพทย์ รพ.พหลพลพยุหเสนา กล่าวว่า รับการส่งต่อ สามเณรดิว อายุ 9 ขวบ จากวัดดอนขมิ้น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี จาก รพ.มะการักษ์  โดยพระพี่เลี้ยงแจ้งว่าชักทั้งตัว ไม่รู้ตัว ตาลอย ใบหน้าและแขนขามีรอยช้ำ แผลฉีกขาดที่คาง ข้อมือขวาผิดรูป ไม่รู้สึกตัว ไม่หายใจ ใส่ท่อช่วยหายใจ

แรกรับที่ห้องฉุกเฉิน เมื่อวันที่ 18 ส.ค. เวลา 22.15 น. หลังจากการตรวจร่างกาย ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางและรายงานเอกซเรย์สมองจาก รพ.มะการักษ์ พบว่ามีเลือดออกที่สมอง

แพทย์ให้การรักษาตามอาการและแก้ไขภาวะผิดปกติ รับเข้ารับการรักษาที่หอผู้ป่วยไอซียูศัลยกรรม ชั้น 3 ตึกญสส. ที่ไอซียูศัลยกรรม โดยให้ใส่เครื่องช่วยหายใจ และให้การดูแลตามแผนการรักษาของแพทย์ ปรึกษาแพทย์แผนกกุมารร่วมดูแล  

ปัจจุบัน คนไข้ไม่รู้สึกตัว ใส่เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา มีการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์เพิ่มเติม พบว่ามีความผิดปกติที่สมองเพิ่มมากขึ้น แต่ไม่สามารถทำการผ่าตัดได้ เนื่องจากอาการไม่เหมาะสม มีโอกาสเสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูง จึงให้การรักษาเป็นแบบประคับประคอง และแจ้งให้ผู้ปกครองทราบเป็นระยะๆ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook