พ.ต.อ.ส่งรถกระบะทับเด็กตาย 2 ศพให้ตำรวจแล้ว ญาติรอดูท่าทีการทำคดี

พันตำรวจเอกให้คนนำรถกระบะที่ขับทับเด็กสาวดับ 2 ศพ ส่งมอบพนักงานสอบสวนแล้ว ด้านฝ่ายผู้เสียหายเผยยังไม่เคยได้รับการติดต่อตรงจากคู่กรณี มีเพียงตำรวจประสานว่าจะนัดหมายขอขมาญาติและเจรจาเยียวยา

รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า หลังจากที่วานนี้ (18 ส.ค.) พันตำรวจสรโชติ บุญวิเศษ ผู้กำกับการสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรแม่ปิงอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในคดีรถกระบะขับทับเด็กผู้หญิง อายุ 17 ปี และ อายุ 12 ปี เสียชีวิต ก่อนจะหลบหนี เมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยเบื้องต้นพันตำรวจสรโชติ ให้การปฏิเสธและจะขอให้การในชั้นศาล

ล่าสุดในวันนี้ (19 ส.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรแม่ปิง พันตำรวจเอกสรโชติ ได้มอบหมายให้คนนำรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีดำ ซึ่งเป็นรถคันที่เกิดเหตุขับทับเด็กสาว 2 คนเสียชีวิต มาส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวนในคดีแล้ว โดยจากนี้จะมีการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการทำการตรวจสอบและเก็บร่องรอยทั่วทั้งคันรถอย่างละเอียด แล้วใช้หลักนิติวิทยาศาสตร์พิสูจน์หาคนขับในขณะเกิดเหตุและการชน คาดว่าน่าจะพร้อมทำการตรวจได้พรุ่งนี้

>> ลูกชายคนโตผกก.เข้าพบตำรวจ อ้างไม่รู้ใครขับรถกระบะพ่อทับเด็ก 2 ศพ

นายเจริญ สินลี้ ประธานสมาพันธ์ลีซูแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นตัวแทนฝ่ายผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ขณะนี้ทราบแล้ว ว่าคู่กรณีฝ่ายรถยนต์กระบะ ได้เดินทาง ไปที่สถานีตำรวจภูธรแม่ปิง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดยคาดว่าคนที่ขับรถกระบะ ตอนช่วงเวลาเกิดเหตุนั้น น่าจะเป็นตัวของนายตำรวจยศพันตำรวจเอกนั้นเอง

อย่างไรก็ตาม ทางคู่กรณียังไม่ได้มีการติดต่อพูดคุยโดยตรง จากทางฝ่ายผู้เสียหาย ทั้งนี้มีเพียงการติดต่อผ่านทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรแม่ปิงเท่านั้นว่าต้องการที่จะนัดหมาย เพื่อขอขมาญาติผู้เสียหาย และพูดคุยเจรจาเกี่ยวกับการเยียวยาชดเชยความสูญเสียที่เกิดขึ้น แต่ยังไม่ได้มีการนัดหมายเวลา และสถานที่ที่แน่ชัดแต่อย่างใด

>> เผยแล้ว! กระบะทับ 2 เด็กลีซอดับ เป็นรถของ "นายตำรวจระดับผู้กำกับการ"

ส่วนเรื่องที่ทางญาติผู้เสียหายจะเดินทาง เข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปร้องเรียนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น ขณะนี้จะขอรอดูท่าทีของทางคู่กรณีก่อน และดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดีว่าดำเนินการอย่างไรบ้าง ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการปรึกษากับ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม อย่างใกล้ชิด โดยเบื้องต้นยังคงเชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย แม้ว่าคู่กรณีจะเป็นตำรวจก็ตาม