รวบ "หนุ่มระยอง" รวยผิดสังเกต เปิดร้านบังหน้า ที่แท้เป็น "พ่อค้ายาเสพติด"

รวบ "หนุ่มระยอง" รวยผิดสังเกต เปิดร้านบังหน้า ที่แท้เป็น "พ่อค้ายาเสพติด"

รวบ "หนุ่มระยอง" รวยผิดสังเกต เปิดร้านบังหน้า ที่แท้เป็น "พ่อค้ายาเสพติด"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันที่ 11 สิงหาคม 2561 เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ สภ.นิตมพัฒนา จ.ระยอง เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดระยอง ได้นำของกลางของขบวนการค้ายาเสพติด รายใหญ่ในพื้นที่อำเภอนิคมพัฒนา อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง

ประกอบด้วย กระบะยี่ห้อเชฟโรเลต รุ่นแคป สีบรอนซ์ ทะเบียน ผฉ68 ระยอง, รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ ตอนเดียว สีบรอนซ์ ทะเบียนป้ายแดง ก8888 กทม., รถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นนิวส์ปาเจโร่นิวส์ สีดำ ทะเบียนป้ายแดง ช.9999 กทม.,

รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นนิวส์ฟอร์จูนเน่อร์ สีดำ ทะเบียนป้ายแดง กร68 ระยอง, รถยนต์กระบะฟอร์ด 4 ประตู สีดำ ทะเบียน กน67 ระยอง, จยย.ฮอนด้า รุ่น pcx ทะเบีบนป้ายแดง ฏ0208 สภ.ปลวกแดง และโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง พร้อมยาบ้าจำนวน 178,000 เม็ด

เตรียมแถลงข่าวการจับกุม นายประสิทธิ์ หรือมืด อายุ 35 ปี และนายวัชรพงษ์ หรือโจ้ อายุ 25 ปี ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต

พ.ต.อ.เฉลิมเดช เฉลิมวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.ระยอง เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากชุดสืบสวนภูธรจังหวัดระยองได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมของผู้ต้องหาทั้ง 2 คือนายมืด และนายโจ้

ที่สายลับได้รายงานว่าจะมียาบ้าล็อตใหญ่จำนวนเป็นแสนเม็ดเข้ามาพักในพื้นที่อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง เพื่อเตรียมจำหน่ายให้กับนักค้ายารายย่อยและนักเสพ ในพื้นที่จังหวัดระยอง และบางส่วนก็เตรียมส่งออกไปยังพื้นที่ใกล้เคียงและภาคอีสาน

พ.ต.อ.เฉลิมเดชฯ เผยอีกว่าหลังสืบทราบได้ให้สายลับทำการล่อซื้อยาบ้าจำนวนหนึ่งมัดใหญ่ โดยมีนายวัชรพงษ์ หรือโจ้ นำยาบ้ามาส่งตามที่นัดหมายไว้ที่บริเวณป้ายทางแยกใกล้บริษัทบางกอกมาสเตอร์วู๊ด จำกัด

และในขณะที่นายโจ้กำลังจะวางยาบ้าไว้บริเวณโคนเสาของป้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวและเข้าทำการจับกุมนายโจ้พร้อมของกลาง จากนั้นได้ขยายผลไปยังนายประสิทธิ์ หรือ มืด ที่เปิดร้านจำหน่ายแบตเตอรี่ และกระจกรถยนต์ ที่บริเวณตลาดสะพาน 4

ซึ่งนายมืด รับสารภาพว่ามียาบ้าอีกกว่าแสนเม็ดอยู่ท้ายรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการจับกุม 2 พร้อมของกลางและยาบ้าจำนวน 89 มัด รวมเป็นจำนวน 178,000 เม็ด ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

อย่างไรก็ตามจากการเปิดเผยของชุดจับกุมได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 จะแบ่งหน้าที่กันทำงาน โดยจะเปิดร้านแบตเตอรี่และร้านกระจกรถยนต์บังหน้า

จะมีลูกค้าแวะเวียนไปใช้บริการจำนวนมาก และหากมีลูกค้าสั่งยาเสพติดก็จะให้โอนเงินเข้าบัญชีก่อนจากนั้นนายโจ้จะนำยาบ้าไปส่งตามจุดนัดหมายต่างๆ ที่นัดไว้

นอกจากนี้ผู้ต้องหาทั้ง 2 ยังมีพฤติกรรมชอบซื้อรถยนต์รุ่นใหม่ๆ พร้อมกับรับสารภาพว่ารายได้ที่มาจากการค้ายาจะนำไปซื้อรถยนต์รุ่นใหม่ และสาเหตุที่ต้องซื้อรถยนต์รุ่นใหม่

เพราะเวลาตำรวจตั้งด่าน มักจะไม่ค่อยตรวจค้นรถยนต์ รุ่นใหม่สักเท่าไร ซึ่งเมื่อชุดจับกุมได้ฟังและทราบถึงสาเหตุถึงกับ "อึ้ง" กันไปเลยทีเดียว ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook