ปปง.เตรียมยึดทรัพย์นายทุนดอกเบี้ยโหด พร้อมเอาผิดคดีฟอกเงิน เรียกชาวบ้านล็อตแรกรับโฉนดคืนแล้ว

ปปง.เตรียมยึดทรัพย์นายทุนดอกเบี้ยโหด พร้อมเอาผิดคดีฟอกเงิน เรียกชาวบ้านล็อตแรกรับโฉนดคืนแล้ว

ปปง.เตรียมยึดทรัพย์นายทุนดอกเบี้ยโหด พร้อมเอาผิดคดีฟอกเงิน เรียกชาวบ้านล็อตแรกรับโฉนดคืนแล้ว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 5 ก.ค. 61 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ท.สุรชัย ควรเตชะคุปต์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ร่วมกันส่งมอบเอกสารโฉนดที่ดินคืนให้กับชาวบ้านที่นำไปจำนองกับนายทุนเงินกู้ โดยมีการทำสัญญาที่ไม่เป็นธรรมล็อตแรกจำนวน 20 ราย ซึ่งมีทั้งชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นและกาฬสินธุ์เดินทางมารับมอบโฉนดคืน

ซึ่งการส่งคืนโฉนดที่ดินครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากการเปิดยุทธการขุดรากถอนโคนอาชญากรรม ทำบ้านเมืองน่าอยู่ โดยมีการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 4 ราย เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.61 ที่ผ่านมา

นางบัวบาน อายุ 65 ปี ชาวบ้านดอนช้าง อ.เมืองขอนแก่น หนึ่งในชาวบ้านที่เดินทางมารับโฉนดที่ดินคืน กล่าวว่า เมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว ตนได้นำโฉนดที่ดินไปค้ำประกันเพื่อขอกู้ยืมเงินจากนายทุนในพื้นที่ขอนแก่น

เพื่อนำเงินมาเป็นค่าเทอมให้หลาน โดยขอกู้เงินไปจำนวน 15,000 บาท ซึ่งครั้งนั้นตนก็ได้เงินมาครบตามจำนวนที่ขอกู้ กระทั้งเมื่อ 2 ปีให้หลังตนได้นำเงินจำนวน 30,000 บาท ไปไถ่ถอนโฉนดคืน

ปรากฏว่านายทุนรายนี้กลับไม่ยอมรับเงินและบ่ายเบี่ยงที่จะคืนโฉนดที่ดินคืนให้ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาดำเนินการ จึงได้โฉนดที่ดินกลับคืนมาในวันนี้ ซึ่งตนรู้สึกดีใจ และคิดว่าจะไม่นำโฉนดที่ดินกลับไปจำนองหรือค้ำประกันเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกแล้ว

นายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ ผู้อำนวยการกองคดี 1 รองโฆษกประจำสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. กล่าวว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่ามีการกระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงอันเป็นปกติธุระ และการปลอมเอกสารสิทธิ์อันเป็นปกติธุระ

ซึ่งหลังจากนี้การดำเนินการจะแยกออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกคือการดำเนินคดีอาญาก็จะเป็นอยู่ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนที่สองคือการคืนโฉนดที่ดินให้กับชาวบ้านจะอยู่ในการดูแลของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น และสำนักงานยุติธรรมจังหวัดขอนแก่น

และส่วนที่สามหลังจากที่มีการดำเนินคดีอาญาแล้ว จะเป็นการดำเนินการเกี่ยวกับมาตรการทางทรัพย์สิน ซึ่งอยู่ในความดูแลของปปง. ซึ่งจะมีการตรวจสอบว่าทรัพย์สินมีอะไรบาง อยู่ที่ไหนหรือกับใคร จะมีการตรวจยึดทั้งหมด โดยอาศัยกฎหมายของ ปปง. และนอกจากการตรวจยึดทรัพย์แล้ว จะมีการดำเนินคดีเกี่ยวกับการฟอกเงินด้วย

นายพีระพัฒน์ กล่าวอีกว่า อยากเตือนไปยังผู้ที่กำลังกระทำความผิดในลักษณะนี้ อย่าคิดว่าถ้าทำแล้วจะเหลือเงินหรือทรัพย์สินตกไปอยู่กับลูกหลาน เพราะปปง.จะตามยึดทรัพย์กลับคืนมาให้ตกเป็นของแผ่นดิน

และหากเป็นกรณีที่มีผู้เสียหาย ก็จะเฉลี่ยทรัพย์ดำเนินการคุ้มครองสิทธิ์ตามกฎหมายปปง. เพราะฉะนั้นอยากให้ผู้ที่กำลังกระทำความผิดได้กลับตัวกลับใจ อย่าให้มีพฤติกรรมเช่นนี้อีก ไม่เช่นนั้นก็จะถูกดำเนินคดี

ส่วนประชาชนที่ถูกหลอกลวงหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมให้แจ้งไปที่ตำรวจภูธรภาค 4 ซึ่งขณะนี้มีการตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนไว้แล้ว โดยจะมีการทำงานควบคู่ไปกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook