ชื่นมื่น "กระต่าย แม็กซิม" ควงหวานใจนักธุรกิจ วิวาห์สุดโรแมนติก

หลังจากที่เพิ่งถูกหวานใจหนุ่มคุกเข่าเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ล่าสุดช่วงเช้าของวันนี้ (10 เม.ย.) สาวเซ็กซี่ “กระต่าย ทรรศิกา ยุติมิตร” ได้ฤกษ์ดีควงทายาทนักธุรกิจสิ่งทอ “คม ณเสฏฐ์ อัศวฤกษ์วิสูตร” เข้าพิธีหมั้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

และในช่วงเย็นของวันเดียวกันนั้น ได้มีพิธีฉลองมงคลสมรส ณ ห้องแกรนด์ ฮอลล์ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก งานนี้ กระต่าย และ เจ้าบ่าวสุดหล่อได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนให้ฟังถึงเส้นทางความรักก่อนจะมีวันนี้ 

วันนี้ความรู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง ?
กระต่าย : "ตื่นเต้นมากค่ะ ช่วงเช้ามีพิธีหมั้น ตอนแรกไม่รู้ว่าอาการแบบนี้เรียกว่าตื่นเต้นหรือเปล่า ก็บอกกับพี่คม คือไม่ได้ตื่นเต้นนะ แต่นอนไม่หลับ (หัวเราะแล้วหันไปถามเจ้าบ่าว) พี่คมเป็นไหม"

คม : “หลับสบายมาก เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น”

กระต่าย : “มีกระต่ายตื่นเต้นอยู่คนเดียว”

คม : “เมื่อเช้าบอกจะเป็นลม”

กระต่าย : “เมื่อเช้าบรรยากาศคึกครื้น เจ้าบ่าวโดนเพื่อนเจ้าสาวแกล้ง แต่กระต่ายเก็บตัวอยู่เลยไม่ค่อยได้เห็นเท่าไหร่”

คม : “โดนวิดพื้น ลอดห่วง ลอดเชือก กางเกงเกือบแตก ก็นิดหน่อยครับตามประเพณี ส่วนใหญ่งานเช้าจะมีครอบครัว ญาติ เพื่อนๆ ที่สนิท เป็นบรรยากาศที่อบอุ่นจากญาติๆ และเพื่อนๆ”

มีน้ำตาไหม ?
คม : “ผมคิดว่าทุกงานต้องมีนะ ต้องมีบ้าง(หัวเราะ)”

กระต่าย : “โดยเฉพาะคุณแม่ คุณแม่อวยพรเสร็จก็น้ำตาไหล กระต่ายก็ซึ้งไปด้วย”

คม : “อย่าว่าแต่คุณแม่เลย เจ้าบ่าวเองก็แอบมีน้ำตา”
กระต่าย : “เมื่อเช้าพี่คมร้องไห้ก่อนกระต่ายอีก”

บ้านเจ้าสาวได้ฝากฝังอะไรบ้าง ?
คม : “แน่นอนว่าบ้านเจ้าสาวฝากฝังเราให้ดูแลชีวิตของลูกสาวเขา ให้ผมดูแลแทนแม่ เขาเป็นลูกคนสุดท้องด้วยเลยฝากฝังเยอะหน่อย ส่วนผมเองเป็นลูกชายคนเล็ก ทั้งสองบ้านต่างฝากฝังกันพอสมควร”

ให้มีทายาทเร็วๆ ด้วยหรือเปล่า
คม : “แน่นอนครับ แทบจะเป็นประโยคแรกๆ เลย”

พร้อมมีทายาทไหม ?
กระต่าย : “พร้อมนะ มาถึงขนาดนี้แล้ว มีแพลนไว้หลังแต่งนี่แหละ รอให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ”

ถามถึงเรื่องสินสอดทองหมั้น ?
คม : “พอสมควรครับ เป็นเรื่องที่ทางผู้ใหญ่เขาจัดการกัน เราคงไปพูดหรือเรียกร้องอะไรคงเป็นไปไม่ได้ เอาเป็นว่าผู้ใหญ่สองฝ่ายเห็นสมควรแล้วเราก็เห็นสมควร เราเป็นเด็กก็ปล่อยให้เขาจัดการไป แหวนหมั้นไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไร ประมาณ 2 กะรัต ใหญ่ไปเดี๋ยวหนักนิ้ว เอาแบบใส่ได้จริง ซึ่งคุณแม่ผมเป็นคนออกแบบแหวนให้ แม่ผมเขาจะมาหลอกถามกระต่ายก่อนว่าชอบแบบไหน แล้วไปเดินดูถึงค่อยทำ”

กระต่าย : “สินสอดเราก็ไม่ได้รู้รายละเอียดว่าอะไรยังไง เพราะยังไม่ได้ดูของเลย”

ตั้งแต่คบกันมาจนถึงตอนนี้ มองความรักเป็นอย่างไรบ้าง ?
กระต่าย : “ก่อนหน้านี้กระต่ายเป็นคนที่ไว้ใจคนยากมาก แต่พี่คมเป็นผู้ชายที่ไม่เหมือนคนอื่นตรงที่ จุดเริ่มต้นเขาเคยเป็นยังไง ผ่านมาตอนนี้เข้าสู่ปีที่ 4 เขายังเหมือนเดิม เสมอต้นเสมอปลาย สิ่งที่สัมผัสได้คือเขาเหมือนเดิม เสมอต้นเสมอปลาย เขาแสดงความรักและความจริงใจให้เราได้เห็นจริงๆ ว่าเขาจริงใจกับเรา ไม่เหมือนที่ผ่านมา เขาเป็นคนที่พิเศษไม่เหมือนคนอื่น เขาเป็นคนที่ดูแลเราได้ดี เข้ากับที่บ้าน เข้ากับเพื่อนๆ เข้ากับทุกๆ คนได้ดี คุยกันรู้เรื่องที่สุด พี่คมเป็นคนที่เข้าใจกระต่ายมากที่สุด”

ประทับใจอะไรในตัวเจ้าสาวจนถึงอยากจะร่วมชีวิตกับผู้หญิงคนนี้ ?
คม : “กระต่ายเป็นคนที่ใจเย็นมากๆ ผมเป็นลูกคนจีน ซึ่งจะมีบุคลิกพูดจาโฉ่งฉ่าง เสียงดัง เราจะเป็นแบบนั้นตามประสาคนจีน ซึ่งกระต่ายเข้าใจตลอดเวลา แม้เขาจะไม่เข้าใจก็ตาม แต่สุดท้ายเขาพยายามเข้าใจว่าเราเป็นแบบนี้ และหลายๆ ครั้งมันทำให้ผมรู้สึกว่าเขาเป็นแบบนี้ แต่เขายอม แล้วบางอย่างที่เป็นเรื่องร้ายๆ เรื่องแย่ๆ เขาทำให้เรารู้สึกมองว่าเป็นเรื่องชิวๆ สบายๆ เขาทำให้ทุกอย่างมันง่ายไปหมดในชีวิต ผมเลยรู้สึกว่าเวลามีเรื่องแย่ๆ ร้ายๆ เมื่อเจ้าหน้าเขามันทำให้รู้สึกว่าทุกอย่างนั้นมันหายไป”

วางแผนอนาคตครอบครัวไว้อย่างไรบ้าง ?
คม : “ตอนนี้เราก็คงจะได้แต่วางแผนอนาคตแต่สุดท้ายแล้วเราก็ต้องทำวันนี้ วันพรุ่งนี้ให้ดีที่สุดก่อน เพื่ออนาคตมันจะได้ดีกว่าวันนี้”

งานในวงการของกระต่ายวางไว้ยังไงหลังจากแต่งงานไปแล้ว ?
กระต่าย : “ตัวพี่คมอนุญาตให้รับงานได้เหมือนเดิม แต่เรามีครอบครัวแล้วก็ต้องดูงานนิดนึงว่ามันเหมาะสมมั้ย คงต้องถามเขาก่อนว่าเขาจะโอเคมั้ย รับได้ไหม”

คม : “ก็เซ็กซี่ได้ครับในระดับที่ไม่อนาจาร(หัวเราะ) คงไม่ห้าม ไม่สั่งลดครับ เขามีตัวตนขึ้นมาก็เพราะอยู่ในจุดนี้ เราคงไม่ไปโค่นเขาล้มเพียงเพราะว่าเราแต่งงานกันแค่นั้น”

ไปรู้จักกันได้ยังไง ?
คม : “เรารู้จักกันในงานอีเวนต์นึง ผมเห็นเขาสวยคม ดุ วันนั้นเขามาในชุดเดรสดำ รวบผมตึง ทาปากแดง พอดีเพื่อนเขาเห็นเลยแซวว่าชอบเพื่อนเราเหรอ เราก็บอกสวยดีนะ เขาก็บอกไม่จีบล่ะ เราก็บอกไม่เอาไม่กล้า(หัวเราะ) เขาดูดุมาก เพื่อนเขาเห็นว่าเราสนใจก็เลยช่วยเป็นสะพานให้ พอได้ลองรู้จักได้พูดคุยกันถึงได้ลองศึกษากันอย่างจริงจัง ก็ใช้เวลาเหมือนกันเพราะเขาเป็นคนที่ไว้ใจคนยาก แรกๆ เขาก็จะค่อนข้างไว้ระยะกับเรา ก็เข้าถึงเขายาก แต่เขาก็ไม่ได้ปิดกั้นนะครับ เขาพร้อมที่จะศึกษาแต่ในระยะที่เขารู้สึกโอเค”

กระต่าย : “คือเจอกันงานวันนั้นพี่คมยังไม่ได้มาจีบ แต่มีเข้ามากดไลค์ในไอจี มากดเรื่อยๆ หลายๆ รูป ผ่านไป 2-3 เดือนถึงจะได้เริ่มคุยไลน์กัน เกือบปีเลยกว่าจะได้เป็นแฟนกัน ที่ยอมใจอ่อนเพราะเขาเข้ามาแบบไม่ได้ชวนเที่ยว กินข้าวกันอย่างเดียว เขาถามถึงเรื่องการงานที่เราเซ็กซี่ เขาเป็นห่วงเรา คุยกันเรื่องงานได้ทุกเรื่อง ปรึกษาเรื่องงานได้ทุกเรื่องเลยรู้สึกว่ามันมีอะไรมากกว่าการชวนไปกินข้าว รู้สึกว่าเขาเป็นห่วงเป็นใย แล้วเขาก็พยายามที่จะรู้จักครอบครัวเราด้วย มันมีอะไรหลายอย่างที่ทำให้เรารู้สึกว่าเขาจิงใจกับเรา”

คม : “แต่ช่วงแรกที่ทำให้สนิทกันได้เพราะพี่สาวเป็นคนบิ้วให้จนกระต่ายใจอ่อน ยอมคุยด้วย ช่วงแรกๆ เขาไม่ยอมคุยด้วยเลย”

เห็นว่าขอแต่งงานในวันเกิดกระต่าย ?
กระต่าย : “เป็นอะไรที่ตกใจมาก พี่คมเขาชวนไปเที่ยวปกติของวันเกิดที่เขาจะพาเราและเพื่อนๆ ไปเที่ยวกัน แล้วเขาทำเซอร์ไพรส์ใส่ชุดมาสคอทกระต่ายมาเซอร์ไพรส์ ก็เซอร์ไพรส์ค่ะ ไม่คิดว่าพี่คมจะมีมุมแบบนี้ ไม่ได้เป็นคนทำงานทำการอย่างเดียว ยังมีโมเม้นต์หวานๆ ให้ผู้หญิงได้กระชุ่มกระชวยหัวใจ ก็รู้สึกดีนะ”

คม : “เราเองก็อายุเยอะแล้ว คบกันมาในเวลาที่พอสมควร แล้วช่วงนั้นเป็นช่วงใกล้วันเกิด ก็คิดว่าทำอะไรดี ก็เลยลองดู ความรู้สึกตอนนั้นมันเกินคำว่าตื่นเต้น มันเป็นสิ่งแปลกใหม่ทุกอย่างเลย เป็นสิ่งที่เราไม่เคยทำ”

กระต่าย : “หลังจากนี้ทำอีกนะคะ (หัวเราะ)”

เรือนหอเตรียมไว้หรือยัง ?
คม : “ตอนนี้เตรียมไว้ใกล้เสร็จแล้ว ไม่ปีนี้ก็ปีหน้าแล้วเสร็จและได้เข้าไปอยู่ ตอนแรกเราไม่คิดว่ามันเนิ่นนานขนาดนี้ แต่พอเอาเข้าจริงๆ มันก็ใช้เวลาเหมือนกัน”

ฮันนีมูนล่ะ ?
คม : “จริงๆ เราไปมาก่อนแล้วนะ เป็นพรีฮันนีมูน ไปมา 1 เดือน ตั้งใจว่าไปถ่ายรูป เก็บบรรยากาศสวยๆ มาใช้ในงานแต่งงาน”

กระต่าย : “ไปอเมริกามาค่ะ เสร็จงานก็ว่าจะไปญี่ปุ่นกันต่อ”

คำมั่นสัญญาที่ให้ต่อกัน ?
กระต่าย : “สิ่งที่พี่คมประทับใจในตัวกระต่าย กระต่ายก็จะพยายามรักษาเอาไว้ พี่คมชอบพูดกับกระต่ายว่าชอบที่กระต่ายเป็นแบบนี้ เขาบอกว่าทุกครั้งที่เขามีปัญหาไม่สบายใจ แค่กระต่ายยิ้มมันก็ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น”

คม : “ด้วยความที่กระต่ายเขาเป็นตัวเขาเองแบบนี้มั้งมันเลยเหมือนว่าเขาทำออกมาตามธรรมชาติของเขา”

กระต่าย : “ไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไรกระต่ายก็อยู่ข้างๆ พี่คม กระต่ายก็เป็นกระต่ายคนเดิมที่ให้กำลังใจพี่คม ยิ้มให้พี่คมเสมอ”

คม : “ต้องบอกว่าผมเปลี่ยนค่อนข้างเยอะแต่เปลี่ยนไปในทิศทางที่เราเต็มใจที่จะเปลี่ยน เพราะถ้าเรายังเป็นตัวเองในแบบที่เรายังโสด มันก็คงจะทำให้ชีวิตมีปัญหา เพราะผมเป็นพวกบางครั้งคิดเร็วทำเร็ว บางครั้งก็ช้า จนกระต่ายต้องคอยเตือนให้เบาลงบ้าง เลยทำให้ชีวิตผมค่อยๆ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ 3 ปีที่คบกันมากระต่ายเขาคอยๆ ขัดเกลาให้ผมเป็นคนที่โอเคขึ้น เลยคิดว่าสิ่งนี้มันเป็นสิ่งที่ดีและมันจะอยู่กับผมตลอดไปเพราะกระต่าย”