สร้างคอนโดดังทำ 'โบราณสถาน' กลางกรุงเสียหาย อุทาหรณ์สุดท้ายหรือไฟไหม้ฟาง?

สร้างคอนโดดังทำ 'โบราณสถาน' กลางกรุงเสียหาย อุทาหรณ์สุดท้ายหรือไฟไหม้ฟาง?

สร้างคอนโดดังทำ 'โบราณสถาน' กลางกรุงเสียหาย อุทาหรณ์สุดท้ายหรือไฟไหม้ฟาง?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เชื่อว่าคุณผู้อ่านคงเคยได้เห็น ได้ยิน หรือนึกออกว่าบ้านเรามีกรณีการสร้างอาคารพักอาศัยหรือคอนโดมิเนียม แล้วสร้างความเดือดร้อน รวมไปถึงอาจก่อให้เกิดความเสียหายกับบ้านใกล้เรือนเคียงจากอุบัติเหตุระหว่างการก่อสร้าง

กรณีที่ Sanook! News จะนำเสนอนี้ก็ไม่ต่างกัน หากแต่ว่าบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างคอนโดมิเนียมยักษ์ใหญ่กลางเมืองหลังนี้นั้น เป็นมรดกตกทอดทางวัฒนธรรม มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้

'บ้านอนุมานราชธน' ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2560 โดยเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง ขึ้นทะเบียนและกำหนดเขตที่ดินโบราณสถาน อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ.2504 กรมศิลปากรจึงประกาศขึ้นทะเบียนและกําหนดเขตที่ดิน โบราณสถานบ้านพระยาอนุมานราชธน เลขที่ 73 ซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 2 ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ ให้มีพื้นที่ 2 งาน 79 ตารางวา ลงนามโดยนายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร

ภัทรสุดา อนุมานราชธน ทายาทรุ่นหลานของพระยาอนุมานราชธน โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวโดยระบุว่า เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 15.00 น. เกิดเหตุเหล็กกล่องยาว 4 เมตร ตกลงมาจากโครงการคอนโดมิเนียมหลังบ้านที่กำลังสร้างอยู่ ทะลุหลังคา แฉลบออกผนังบ้านชั้นสอง ออกไปปักหลังคาห้องชั้นล่าง เพดานพังลงมาตกใส่เตียงของน้องชายพอดี โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ แต่กระจกแตก ผนังทะลุ ทำให้ตนต้องย้ายออกไปพักที่โรงแรม โดยทางโครงการจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่โรงแรมทั้งหมด ส่วนค่าเสียหายที่เกิดขึ้น กรมศิลปากรจะส่งเจ้าหน้าที่มาประเมินราคา เนื่องจากได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน ขณะที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีการลงบันทึกประจำวันไว้เรียบร้อยแล้ว

"บัว" ภัทรสุดา เล่าให้ฟังเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณ 6 ปีก่อน เคยมีกรณีพิพาทกับโครงการคอนโดมิเนียมอีกโครงการที่มาก่อสร้างใกล้เคียงบริเวณบ้านพักมาก่อนแล้ว โดยเกิดอุบัติเหตุจากการก่อสร้างทำให้บ้านเสียหายมาแล้ว ซึ่งศาลชั้นต้นเพิ่งตัดสินไปเมื่อไม่กี่วันก่อนให้เจ้าของโครงการชดใช้ค่าเสียหายให้จำนวนหนึ่ง

เมื่อถามว่ามีเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาเสนอซื้อบ้านหลังนี้บ้างหรือไม่ คำตอบก็คือ ถึงแม้จะได้รับการเสนอเงินจำนวนมหาศาลก็ตาม แต่เธอกลับมองว่าคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของบ้านหลังนี้ที่เป็นมรดกตกทอดของพระยาอนุมานราชธน ซึ่งนอกจากจะขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานไปแล้วนั้น ควรจะมีคนจำนวนหนึ่งที่เห็นคุณค่าของสิ่งที่มีมูลค่าทางจิตใจมากกว่าจะคิดถึงแต่เรื่องเงินทองและความร่ำรวย

Sanook! News ลองตรวจสอบราคาประเมินล่าสุด พบว่าย่านสีลมมีราคาอยู่ที่ตารางวาละ 1 ล้านบาท เมื่อพิจารณาจากขนาดเนื้อที่ของบ้านอนุมานราชธนที่มีอยู่ 2 งาน 79 ตารางวา หรือ 279 ตาราวา เท่ากับว่าที่ดินผืนดังกล่าวจะมีราคาไม่ต่ำกว่า 279 ล้านบาทเป็นอย่างน้อย

"เราอยากให้กรณีของเราเป็นการเรียกร้องมาตรฐานการทำงานของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพราะเราคิดว่าการทำงานเพียงเพื่อให้ผ่านมาตรฐานที่กำหนดไว้หรือเพื่อให้ได้ใบอนุญาตในการก่อสร้างมา ท้ายที่สุดแล้วมันสะท้อนให้เห็นว่าการปกป้องคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหายในบ้านเรายังทำได้ไม่ดีพอ" ภัทรสุดาย้ำให้เห็นถึงความจำเป็นในการเปิดประเด็นเรียกร้องความเป็นธรรมจากกรณีที่เกิดขึ้น

ปฏิเสธไม่ได้ว่าพัฒนาการทางเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปจากอดีต นอกจากจะมีแง่มุมเชิงบวกที่ส่งผลต่อความก้าวหน้า ความมั่งคั่ง หรือแม้แต่ความเจริญ แต่อีกด้านหนึ่งควรร่วมกันค้นหาคำตอบหรือไม่ว่าการดำรงคงอยู่ของมรดกทางวัฒนธรรม ไม่เพียงกรณีโบราณสถานอย่างเช่นบ้านอนุมานราชธนหลังนี้เท่านั้น หากแต่หมายความรวมถึงคุณค่าเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่มีอยู่อย่างมากมายในประเทศไทย พวกเราจะมีแนวทางบริหารจัดการอย่างไร แน่นอนว่าคำตอบคงไม่ใช่แนวทางที่นายทุนในระบอบทุนนิยมมักเลือกใช้ ด้วยการกว้านซื้อ รื้อทิ้ง แล้วสร้างใหม่

"จะให้เราย้ายไปไหน ในเมื่อเราอยู่ของเรามาก่อน อยู่มาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ สมัยบรรพบุรุษของเรา อย่าลืมว่าบางคนเขาก็ไม่ได้อยากจะได้เงินร้อยล้าน-พันล้าน แล้วก็ยอมย้ายออกไป คุณค่ามันมีมากกว่านั้น" ทายาทพระยาอนุมานราชธนกล่าวทิ้งท้าย

อัลบั้มภาพ 24 ภาพ

อัลบั้มภาพ 24 ภาพ ของ สร้างคอนโดดังทำ 'โบราณสถาน' กลางกรุงเสียหาย อุทาหรณ์สุดท้ายหรือไฟไหม้ฟาง?

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook