อัยการ ชี้ “โชกุน”ส่อโดนโทษหนักหลายวาระ แนะฟ้องเรียกเงินคืนได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธนกฤต วรธนัชชากุล อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวชี้แจงถึงข้อกฎหมายในการลงโทษกรณีของ น.ส.พสิษฐ์ อริญชญ์ลาภิศ หรือ “โชกุน” ผู้บริหารบริษัทเวลท์ เอฟเวอร์ เวิร์ล จำกัด ที่หลอกลวงผู้เสียหายเป็นจำนวนมากว่า การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายฐานฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท ซึ่งความผิดดังกล่าวเป็นความผิดอันยอมความไม่ได้ และหากประชาชนที่ตกเป็นผู้เสียหายถูกหลอกลวงคนละวัน-คนละเวลา-จำนวนเงินที่ถูกหลอกลวงแตกต่างกัน จึงเป็นการกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน หากเทียบเคียงกับคดี “เสี่ยอู๊ด” ซึ่งกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ในการจัดสร้างพระเครื่อง ที่ศาลฎีกาลงโทษความผิดหลายกรรมต่างกันรวมทั้งสิ้น 921 กระทง
สำหรับคดีนี้หากมีการสรุปสำนวนส่งมาให้อัยการแล้ว ผู้เสียหายมีสิทธิที่จะยื่นคำร้องขอเป็นโจทก์ร่วมในคดีอาญาเพื่อเรียกค่าสินไหมทดแทนได้ เช่น ค่าเสียหายจากเงินค่าทัวร์ไปประเทศญี่ปุ่น ค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาสนามบิน และดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นในระหว่างผิดนัด
หรือผู้เสียหายอาจรวมกลุ่มไปยื่นฟ้องดำเนินคดีทางแพ่ง เพื่อเรียกค่าสินไหมทดแทนเป็นคดีใหม่ ซึ่งข้อดีของการดำเนินคดีแบบกลุ่มเป็นการลดภาระค่าใช้จ่าย และยังเป็นการเยียวยาความเสียหาย ให้กับผู้ที่ได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อยที่ไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายในการฟ้องร้องคดีต่อศาล ให้ได้รับการเยียวยาอย่างเป็นธรรม