สคบ.เชิญ "บอนคาเฟ่" แจงปมค่าคุยงานชม.ละพัน นักธุรกิจโคราช รับเป็นผู้แชร์ปมเก็บค่านั่งคุย

สคบ.เชิญ "บอนคาเฟ่" แจงปมค่าคุยงานชม.ละพัน นักธุรกิจโคราช รับเป็นผู้แชร์ปมเก็บค่านั่งคุย

สคบ.เชิญ "บอนคาเฟ่" แจงปมค่าคุยงานชม.ละพัน นักธุรกิจโคราช รับเป็นผู้แชร์ปมเก็บค่านั่งคุย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(10 ก.ค.58) จากกรณีที่มีการเผยแพร่ในโลกโซเชี่ยลมีเดีย ถึงกรณี ร้านกาแฟบอนคาเฟ่รีนิว สาขาไทยประกันชีวิต ถนนรัชดาภิเษก ซึ่งมีการเก็บค่า Open food ชั่วโมงละ 1,000 บาท และมีการเผยแพร่โพสต์ข้อความกันอย่างกว้างขวาง และแสดงความคิดเห็นในหลายแนวทาง

ต่อมาทางบอนคาเฟ่ ได้โพสต์เฟซบุ๊กออกมาชี้แจง ว่ามีการทำป้ายข้อความดังกล่าว พร้อมยอมรับว่าสื่อสารคลาดเคลื่อนนั้น

ล่าสุด สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้มีหนังสือถึงเจ้าของร้านบอนคาเฟ่ ลงวันที่ 10 กรกฎาคม โดยเนื้อหาระบุว่า

"จากการตรวจสอบทางสื่อออนไลน์พบว่ามีผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อนเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2558 ได้ใช้บริการนั่งดื่มที่ร้าน boncafe ตั้งอยู่ 252/189-191 ชั้น 1 อาคารเมืองไทยพลาซ่า อาคาร 1 ถนนรัชดาภิเษก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร จำนวน 6 แก้ว

ปรากฎว่าร้านฯเรียกเก็บเงินเพิ่มจากค่าเครื่องดื่ม จำนวน 2,000 บาท โดยแจ้งว่าเป็นค่านั่งคุยงานแต่ในใบเสร็จระบุว่าค่า Open food จึงขอความเป็นธรรม

สคบ.พิจารณาแล้ว เห็นว่าเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่คู่กรณีทั้งสองฝ่าย จึงขอเชิญท่านหรือผู้แทนซึ่งได้รับมอบอำนาจเป็นหนังสือไปพบกับพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงกับเรื่องดังกล่าวพร้อมแสดงเอกสารต่างๆ ได้แก่ สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนหนังสือมอบอำนาจโดยระบุข้อความให้มีอำนาจในการให้ข้อเท็จจริงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ และเอกสารอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ในวันที่ 17 กรกฎาคม 2558 ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อาคารรัฐประศาสนภักดี ชั้น 5 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานครด้วย จะขอบคุณยิ่ง"

นอกจากนี้มีเนื้อหาแนบตามหนังสือระบุว่า

ตามที่ สคบ. ได้ตรวจพบทางสื่อออนไลน์ว่ามีผู้บริโภคได้ไปใช้บริการที่ร้าน เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมาปรากฎว่าเมื่อเรียกเก็บเงิน พนักงานแสดงใบเสร็จค่าเครื่องดื่มเป็นเงิน 2,260 บาทและปรากฎรายการ Open Food 2,000 ซึ่งมิใช่เครื่องดื่มที่สั่ง พนักงานแจ้งว่าขอเรียกเก็บค่าคุยธุระชั่วโมงละ 1,000 บาท รวม 2 ชั่วโมง คิดค่านั่งเป็น 2,000 บาท นอกจากเครื่องดื่ม

สคบ.ได้โทรศัพท์เพื่อติดต่อสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวไปยังร้าน boncafe แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้มีหนังสือให้เจ้าของร้าน boncafe มาพบกับพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง ณ สคบ. ในวันดังกล่าว

ในกรณีการเรียกเก็บค่าบริการนั่งคุยธุระของร้าน boncafe ในเรื่องราคาสินค้า ค่าบริการ จะมีหน่วยงานที่กำกับดูแลโดยตรงคือ กรมการค้าภายใน ซึ่งจะมีประกาศเรื่อง การแสดงราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2555 หากเรียกเก็บค่าใช้จ่ายอื่นนอกเหนือจากราคาหรือค่าบริการที่แสดงได้ ต้องแสดงค่าใช้จ่ายนั้นให้ชัดเจนและครบถ้วน ให้แสดงควบคู่กับราคาจำหน่ายสินค้าหรือค่าบริการหากไม่ปฏิบัติตามประกาศจะมีโทษตามกฎหมาย

แต่หากมีผู้บริโภคร้องเรียน แจ้งข้อมูลหรือเบาะแส สคบ. จะดำเนินการให้ผู้ประกอบการชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อความให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ประกอบการ ถ้าพิจารณาแล้วเห็นมีประเด็นใดที่กระทำการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 สคบ. ก็จะดำเนินการตามกฎหมาย

อย่างไรก็ดี หากมีผู้บริโภครายใด ไม่ได้รับความเป็นธรรมไม่ว่าเป็นสินค้า บริการ สามารถส่งเรื่องร้องเรียนมายัง สคบ.ได้ แม้จะไม่ใช่เรื่องที่อยู่นอกเหนืออำนาจหน้าที่โดยตรง สคบ. ยินดีดำเนินการให้มีการชี้แจงข้อเท็จจริง ประสานผู้เกี่ยวข้องให้แก้ไขปัญหาแก่ผู้บริโภคได้ในเบื้องต้น

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายสหพล (ขอสงวนนามสกุล) นักธุรกิจชาวจังหวัดนครราชสีมา ให้สัมภาษณ์ว่า ยอมรับว่าเป็นผู้ที่แชร์ภาพและข้อความในสังคมออนไลน์ เรื่องร้านกาแฟ BONCAFE เก็บค่าบริการนั่งคุยธุรกิจชั่วโมงละ 1 พันบาท ระบุในใบเสร็จเป็นค่า Open Food

โดยเจตนาต้องการให้เพื่อนๆ ได้รู้เท่าทัน ไม่ตกเป็นเหยื่อกับผู้ประกอบการที่ฉกฉวยโอกาสเรียกเก็บค่านั่งคุยธุรกิจ ซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้นในสังคมไทย

นายสหพลกล่าวต่อว่า ลำดับเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็น ของวันที่ 8 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ได้นัดพบปะเพื่อนๆ รวม 4 คน ที่ร้านกาแฟดังกล่าว โดยก่อนหน้าที่ตนและนายตุ้ย จะเดินทางมาถึงเพื่อน 2 คน ได้มานั่งรอก่อนร่วม 2 ชั่วโมง นานๆ ครั้งที่ได้พบปะกัน เนื่องจากแต่ละคนอยู่ต่างสถานที่ บรรยากาศการพูดคุยจึงค่อนข้างนาน

หลังจากเรียกพนักงานสาวสวยมาเก็บค่ากาแฟ ปรากฏคิดค่า Open Food ชั่วโมงละ 1 พันบาท รวมทั้งสิ้น ซึ่งมีกาแฟ 4 แก้ว เป็นเงิน 2,260 บาท

ตนและเพื่อนๆ เห็นว่าร้านได้เรียกเก็บเกินความเป็นจริง ข้ออ้างมีป้ายแจ้งเตือนบนโต๊ะ ก็ค่อนข้างเล็กมาก ต้องสังเกตหรือตั้งใจอ่านจึงจะรู้ พวกเราจึงจ่ายเฉพาะค่าเครื่องดื่ม 260 บาท ทำให้พนักงานไม่พอใจ ตนจึงบอกว่าหากต้องการส่วนต่าง 2 พันบาท ซึ่งไม่เป็นธรรมกับลูกค้า ยินดีให้ไปแจ้งความร้องทุกข์ กล่าวโทษได้

จากนั้นได้พากันแยกย้ายเดินทางกลับ และได้แชร์เรื่องราวในไลน์ กลุ่มเพื่อนๆอัสสัมชัญนครราชสีมา และ นิด้า จนเกิดบานปลายในโลกออนไลน์ในที่สุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook