เจ้าของบ้านน้ำหมัก ยอมให้นำถุงบางส่วนออก

เจ้าของบ้านที่แขวน "น้ำหมักชีวภาพ" หน้าบ้านตัวเองในชุมชนพงษ์เพชร ซอยแจ้งวัฒนะ 14 โดยอ้างว่าเพื่อป้องกันการกลั่นแกล้งและป้องกันโจร ยอมให้ ผอ.เขตหลักสี่ นำถุงบางส่วนออกพร้อมตัดแต่งต้นไม้ ดูแลความสะอาดบริเวณบ้าน

เวลา 13.00 น. วันที่ 6 มิถุนายน ผู้อำนวยการสำนักงานเขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหาร นำเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดหน้าบ้านนายไพโรจน์ และ นางณัฐดาร์ เจ้าของบ้านในชุมชนพงษ์เพชร แจ้งวัฒนะ 14 หลังมีผู้ร้องเรียนในโลกออนไลน์ โดยอ้างว่าแขวนถุงอุจจาระสุนัขไว้หน้าบ้านส่งกลิ่นเหม็น สร้างความเดือดร้อนให้บริเวณข้างเคียง แต่นายไพโรจน์และภรรยาปฏิเสธว่าไม่ใช่ถุงอุจจาระสุนัข แต่เป็นถุงน้ำหมักจุลินทรีย์เพื่อป้องกันการถูกกลั่นแกล้งและโจรขึ้นบ้าน

เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึง นายณรงค์ จงแจ่มฟ้า ผู้อำนวยการเขตหลักสี่ เข้าเจรจาและปรับความเข้าใจกับเจ้าของบ้าน นายไพโรจน์ และนางณัฐดาร์ ยอมให้เจ้าหน้าที่ตัดต้นไม้ขนาดใหญ่ในบ้านเพื่อป้องกันกิ่งไม้หักล้มทับทรัพย์สินบ้านหลังอื่น หากเกิดลมพัดแรง นอกจากนี้ เจ้าของบ้านยอมให้เจ้าหน้าที่นำถุงบรรจุน้ำหมักชีวภาพ ซึ่งแขวนอยู่หน้าบ้านออกเป็นบางส่วน โดยอ้างว่ายังต้องแขวนไว้เพื่อป้องกันทรัพย์สินอยู่

นายณรงค์ เปิดเผยว่า การดำเนินการทำความสะอาดบริเวณบ้านจะใช้เวลา 2-3 วัน และจะลงมาตรวจตราพื้นที่สัปดาห์ละ 1 วัน โดยเจ้าหน้าที่เห็นใจเจ้าของบ้านที่ต้องรับมือเหตุการณ์ไม่ลงรอยกับผู้อื่น หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่จะค่อยๆมาเจรจากับเจ้าของบ้านให้ทยอยนำถุงน้ำหมักชีวภาพออก และจะประสานกับกรมสุขภาพจิตให้จัดเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์มาช่วยพูดคุย และปรับสภาพจิตใจเจ้าของบ้านให้ดีขึ้น

ด้าน นายไพโรจน์ ยืนยันว่าแขวนน้ำหมักชีวภาพเพื่อป้องกันโดนกลั่นแกล้ง หลังจากถูกข่มขู่เมื่อตัวเองไม่ยอมขายบ้านให้เพื่อนบ้านที่เสนอซื้อ โดยที่ผ่านมาเจอเหตุการณ์ทั้งต้นไม้ที่แขวนหน้าบ้านเสียหาย หาย หรือตาย, สุนัขที่เลี้ยงไว้ถูกยาเบื่อ และหลังคาบ้านเสียหายจากกรณีต่างๆ ซึ่งตนเองพยายามทำทุกวิธีเพื่อแก้และป้องกันปัญหาแต่ไม่ได้ผล

เมื่อสอบถามถึงใบแจ้งความ นายไพโรจน์ ระบุว่า มีทั้งสูญหายและเสียหายไปในช่วงน้ำท่วม จนสุดท้ายต้องนำน้ำหมักมาแขวนที่หน้าบ้าน แต่หลัง ผอ.เขตหลักสี่ เข้ามาเจรจาด้วยความละมุนละม่อม ตนเองยินยอมให้เจ้าหน้าที่นำถุงออกเป็นบางส่วน

ขณะที่เพื่อนบ้านและกรรมการชุมชนพงษ์เพชรต่างขอบคุณผอ.เขตและเจ้าหน้าที่ที่เจรจาได้ผลลัพธ์น่าพอใจเป็นครั้งแรก โดยเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กับบ้านของนายไพโรจน์ ระบุว่า มีความหวังว่าสถานการณ์หลังจากนี้จะดีขึ้น