เด็กแนวไม่ผิดหวัง เดอะ ไวเทสท์ บอย อะไลฟ์ โชว์มันส์สะใจ

เรียกว่าเป็นงานคอนเสิร์ตที่รวมเด็กแนว และคอเพลงอินดี้ทั่วเมืองไทยไว้มากที่สุดอีกงานหนึ่งกับคอนเสิร์ตสุดแนวจาก ศิลปินอินดี้ชื่อดัง The Whitest Boy Alive (เดอะ ไวเทสท์ บอย อะไลฟ์) ที่สไปร์ซซี่ ดิสก์ ทุ่มทุนชวนคนดูมามันส์กันอีกครั้ง หลังจากที่เคยสร้างความยิ่งใหญ่จากคอนเสิร์ตของวง Kings Of Convenience (คิงส์ ออฟ คอนวีเนียน) มาแล้วโดยงานนี้มีเหล่าดารา ศิลปินมากมาย พร้อมกับแฟนเพลงตัวจริง ตบเท้าเข้าชมคอนเสิร์ตสุดอินดี้ครั้งนี้กันแน่นขนัด ทำเอามูนสตาร์สตูดิโอที่ว่าใหญ่แคบลงไปถนัดตา เมื่อวันเสาร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา



เริ่มต้นคอนเสิร์ตครั้งนี้ด้วยเพลงจากวง Friday(ฟรายเดย์) ที่มาสตาร์ทเครื่อง เขย่าเพลงเพราะคุ้นหูมากมายมาให้ฟังกันก่อน พร้อมกับส่งต่อให้วงดนตรีสุดแนวอย่างวง Basement Tape(เบสเมนท์เทป) ที่มาส่งเพลงเปิดคอนเสิร์ตให้แฟนเพลงแนวๆ ได้ฟังเพลงแนวๆ เรียกน้ำย่อย และไฮไลท์สุดพิเศษของงานกับเจ้าของคอนเสิร์ต The Whitest Boy Alive (เดอะ ไวเทสท์ บอย อะไลฟ์) ที่เปิดเวทีมาแค่เพียงขึ้นอินโทรเพลงแรก Keep a secret(คีพ อะ ซีเคร็ท) ก็ได้รับเสียงกรี๊ดจากแฟนเพลงมากมาย พร้อมกับเสียงร้องตามจากแฟนเพลงดังกระหึ่ม ยิ่งทำให้วงเพิ่มพลังความสนุกกันแบบอัลลิมมิท



และก็เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น เมื่อกำลังเล่นพีคๆ ก็เกิดปัญหาขัดข้องจากคีย์บอร์ด แต่ The Whitest Boy Alive (เดอะ ไวเทสท์ บอย อะไลฟ์) ก็ ไม่ปล่อยให้แฟนเพลงรอเก้อ ส่งเพลงให้ฟังกันต่อรอให้ทีมงานจัดการ จนเมื่อกลับมาเล่นดนตรีได้เต็มวงอีกครั้ง พวกเขาก็ส่งเพลงมาให้ฟังกันต่ออีกเซ็ทใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเพลง High on the heels(ไฮท์ ออน ฮีลล์), Gravity, Infiation(กราวิที้ อินฟิเอชั่น), Intentions(อินเทนชั่น), Upside Down(อัพไซด์ ดาวน์), Courage(เคอร์เรจ) และปิดท้ายคอนเสิร์ตครั้งนี้ด้วยเพลงฮิตจากอัลบั้มล่าสุดของพวกเขาในเพลง 1517 เรียกว่าแฟนเพลงทุกคนทั้งเต้นตาม ร้องตามกันอย่างสนุกสนาน จนในตอนท้ายของเพลง Daniel Nentwig (เดเนียล เนนท์วิค) มือคีย์บอร์ดของวง มันส์จัดถึงกับลงมาสนุกกับแฟนเพลงด้านหน้าเวที เรียกเสียงกรี๊ดอีกระลอกใหญ่ ก่อนทั้ง 4 หนุ่ม The Whitest Boy Alive (เดอะ ไวเทสท์ บอย อะไลฟ์) จะขอลาเวทีลงคอนเสิร์ต

แต่หลังจากลงจากเวทีไปไม่นาน แฟนเพลงกว่าพันคนในสตูดิโอ พร้อมใจกันส่งเสียงเรียกร้องให้พวกเขาขึ้นมาเล่นดนตรีกันอีกครั้ง ซึ่งหลังจากผ่านไปกว่า 5 นาที เหล่าศิลปิน The Whitest Boy Alive (เดอะ ไวเทสท์ บอย อะไลฟ์) ก็กลับมาเซอร์ไพรส์แฟนเพลง!! ด้วยการส่งเพลงมันส์อย่าง Show me love(โชว์ มี เลิฟ) และ Fire work(ไฟร์ เวิร์ค) 2 เพลงปิดท้ายคอนเสิร์ต ที่มอบเป็นโบนัสพิเศษให้คอนเสิร์ตครั้งนี้ยิ่งมันส์กันเต็มอิ่มมากขึ้น ทำ เอาแฟนเพลงทั้งฮอลล์กรี๊ดดั่งสนั่นส่งท้ายคอนเสิร์ต เรียกว่าสร้างความประทับใจให้แฟนเพลงเด็กแนวได้ตื๊ด ได้มันส์เต็มที่ตลอดคอนเสิร์ตเลยจริงๆ