ความว้าวุ่นของวัยรุ่นในบทเพลงของ CIX และ TXT โดย คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง | Sanook Music

ความว้าวุ่นของวัยรุ่นในบทเพลงของ CIX และ TXT โดย คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง

ความว้าวุ่นของวัยรุ่นในบทเพลงของ CIX และ TXT โดย คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม้จะมีภาพจำจากทำนองเพลงนุ้งนิ้งติดหูหรือมิวสิควิดีโอสีสันสดใส แต่ใช่ว่าเพลงเคป็อปทุกเพลงจะว่าด้วยเรื่องรักๆ ใคร่ๆ แบบ “โอ้ โอปป้าขา หนูใจสั่นเวลาเห็นหน้าพี่” หรือ “เธอจ๋า เธอนั้นคือหนึ่งเดียวในใจฉัน” หลายเพลงมีเนื้อหาที่ก้าวพ้นไปจากรักแบบ puppy love หรือพูดถึงประเด็นจริงจังร่วมสมัยอย่างสุขภาพจิต (mental health) ถ้าให้นึกตัวอย่างเร็วๆ ก็เช่น "Borderline" ของ ซอนมี, "Zombie" ของ DAY6 หรือ "Paranoia" โดย คังแดเนียล

"WAVE" ซิงเกิ้ลล่าสุดของ CIX ก็ดูเข้าข่ายนี้เช่นกัน ในความเห็นของผู้เขียน เพลงของบอยแบนด์จากค่าย C9 Entertainment วงนี้มีมาตรฐานที่ดีมาตลอดและน่าสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยสามซิงเกิ้ลแรกของ CIX จะเน้นทำนองอิเล็กทรอนิกหนักๆ ตามพิมพ์นิยมของเคป็อป แต่พอปี 2021 โทนเพลงของวงจะออกไปทางสว่างและสนุกสนานมากขึ้น อย่างเพลง Cinema ที่ออกมาต้นปีและกลายเป็นเพลงเยียวยาใจช่วง WFH

            

ส่วนเพลง "WAVE" แม้ว่าตัวเพลง เอ็มวี และภาพโปรโมตที่เป็นหนุ่มๆ CIX ในชุดกะลาสีเรือจะทำให้คอนเซ็ปต์โดยรวมดูสดใสซาบซ่าไปเสียหมด แต่พออ่านเนื้อเพลงดีๆ เราจะได้ทราบว่า "WAVE" กำลังพูดถึงการก้าวผ่านช่วงอารมณ์ดิ่งเศร้าหมอง โดยเปรียบเทียบภาวะเช่นนั้นกับ ‘คลื่น’ นั่นเอง

CIXCIX

เพลงนี้ทำให้ผู้เขียนถึงสมัยเรียนวิชาจิตวิทยาในมหาวิทยาลัย อาจารย์เปรียบเปรยว่าห้วงอารมณ์/ความรู้สึกที่ติดลบบางทีก็เหมือนคลื่น แต่ละช่วงชีวิตเราจะเจอคลื่นหลายแบบ ทั้งคลื่นลูกเล็กที่มาเป็นระลอก หรือคลื่นระดับสึนามิที่ซัดตู้มจนชีวิตเราเสียศูนย์ แต่ที่น่ากลัวที่สุดคือคลื่นใต้น้ำ หมายถึงการสะสมความเครียดหรือซึมเศร้าแบบไม่รู้ตัว

CIXCIX

ถึงกระนั้นสิ่งสำคัญคือการที่เราสามารถรับรู้คลื่นของตัวเองได้ เช่น การตรวจสอบสภาวะจิตใจของตัวเอง หรือแยกแยะได้ว่าที่เราเศร้าตอนนี้เป็นอาการจิตจก ภาวะซึมเศร้า หรือโรคซึมเศร้า (ซึ่งอาจต้องอาศัยความช่วยเหลือจากจิตแพทย์) ท่อนที่ดีมากของเพลง "WAVE" คือการบอกว่าเราจะผ่านคลื่นทั้งหลายไปด้วย ‘จังหวะการก้าวเดิน’ (pace) ของตัวเอง เพราะแต่ละคนมีคลื่นและวิธีการรับมือกับคลื่นที่ต่างกันไป

ฉากสุดท้ายของเอ็มวีเพลง "WAVE" อาจสร้างความฉงนกับผู้ชม ร่าเริงมาทั้งเพลงทำไมอยู่ดีๆ จบด้วยภาพเมมเบอร์นอนจมกองเลือดและรายล้อมด้วยเพื่อน สารภาพว่าผู้เขียนก็งง จนมีแฟนคลับหลังไมค์มาอธิบายว่ามันเป็นเนื้อหาต่อเนื่องจากหนังสั้นที่ใช้โปรโมตเพลง "Numb" (2019) ดังนั้นแม้ "WAVE" จะเป็นเพลงจากอัลบั้มชื่อ 'OK' Prologue : Be OK ที่ฟังดูเหมือนอะไรๆ จะดีขึ้นแล้ว แต่นี่อาจเป็นเพียงแค่บทนำ (prologue) ที่มีเรื่องราวตามมาอีกก็ได้

ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน TXT (ชื่อเต็ม Tomorrow X Together) ห้าหนุ่มจากค่าย BIGHIT MUSIC ก็ปล่อยเพลง "LO$ER=LO♡ER" ผู้เขียนค่อนข้างเซอร์ไพรส์กับเพลงนี้ เพราะแต่เดิมจำได้ว่าเพลงวงนี้จะน่ารักๆ (แบบเพลงเปิดตัวอย่าง "Crown") กับเป็นวงที่ชื่อเพลงยากๆ ยาวๆ ทั้งชื่อภาษาอังกฤษอย่าง 9 and Three Quarters (Run Away) หรือชื่อภาษาเกาหลี อาทิ ‘รอคอยเธอที่ชานชาลา 9 ¾’ หรือ ‘เธอกับฉันพบกันในท้องฟ้ายาม 17.53’

ทว่าซิงเกิ้ลของ TXT ในปี 2021 อย่าง "0X1=LOVESONG (I Know I Love You)" (ชื่อยากอีกแล้ว) มีโทนออกไปทางร็อคมากขึ้น ผสมผสานดนตรีสดและสังเคราะห์ได้เป็นอย่างดี และแนวทางที่ว่าก็ปรากฏใน LO$ER=LO♡ER เช่นกัน แถมเนื้อหาของทั้งเพลงและมิวสิกวิดีโอยังน่าสนใจ ดูเผินๆ อาจเป็นเรื่องของเหล่าเด็กหนุ่มหัวร้อน แต่เพลงนี้กำลังเล่นคำระหว่าง ‘คนขี้แพ้’ (loser) และ ‘คนรัก’ (lover) ได้อย่างชาญฉลาด

เพลงนี้ว่าด้วยชายที่อยากเป็นแฟนหนุ่มที่ดี เขามีมุมมองว่าคนรักที่ร่ำรวยแต่เงินนั้นช่างไม่เท่เอาเสียเลย แต่ในอีกแง่หนึ่งดูเหมือนเขาก็จะเข้าใจดีกว่าโลกใบนี้ถูกขับเคลื่อนด้วยระบบทุนนิยม และเขาไม่สามารถปฏิเสธระบบที่ว่าได้ แม้ท่อนฮุคจะร้องซ้ำๆ ว่าให้วิ่งหนีราวกับคนบ้าเสียสติ แต่ใครเล่าจะหนีจากกลไกของโลกได้อย่างแท้จริง

"LO$ER=LO♡ER" ทำให้ผู้เขียนนึกถึงละครเวทีชื่อดัง "Love and Money (2006)" ของ Dennis Kelly มันว่าด้วยความสัมพันธ์ของเดวิดและเจสส์ที่ค่อยๆ ล่มสลายเพราะหนี้สิน มีฉากน่าจดจำคือตอนที่เจสส์สติแตกจากการไปเจอคนถูกทำร้ายร่างกาย ตอนแรกเดวิดก็ปลอบโยนเธอ แต่พอรู้ว่าเธอออกไปช็อปปิ้งเขาก็ด่ากราดเธอทันที หรืออีกฉากสำคัญที่ตัวะครทุ่มเถียงกันเรื่องการสร้างป้ายหลุมศพ มันเป็นละครที่สะท้อนให้เห็นว่าเรื่องของเงินตราแทรกซึมอยู่แทบทุกอณูของชีวิตเรา

อย่างไรก็ดี สิ่งที่บีบรัดตัวละครในเอ็มวี "LO$ER=LO♡ER" ไม่ใช่แค่เรื่องเงินเท่านั้น ยังมีการถูกกดขี่จากเจ้านาย หรือผู้ปกครองที่ไม่เข้าใจในความชอบของลูก แต่หากมองในภาพใหญ่แล้ว ทุกสถานการณ์ในเอ็มวีนี้ล้วนมีต้นตอจากชีวิตที่ขับเคลื่อนไปตามกระแสทุนนิยมทั้งสิ้น สุดท้ายแล้วเด็กหนุ่มในเรื่องจึงตัดสินใจหนีจากมันด้วยการขับรถพุ่งใส่หน้าผา

 ใครที่เป็นสายชอบดูหนังน่าจะเก็ทฉากจบของ "LO$ER=LO♡ER" ทันที มันได้แรงบันดาลใจมาจากหนังเรื่อง Thelma & Louise (1991) เล่าถึงหญิงสาวสองคนที่ฆ่าชายผู้พยายามลวนลามพวกเธอ ทั้งสองจึงขับรถหนีตำรวจไปเรื่อยๆ และฉากจบขับรถลงผาก็เหมือนจะสื่อว่าวิธีเดียวที่จะหนีจากสังคมชายเป็นใหญ่ได้คือการหายไปจากโลกนี้

ส่วนบทสรุปของ "LO$ER=LO♡ER" ก็เปิดช่องว่างให้เราตีความ เราไม่อาจแน่ใจว่าเด็กหนุ่มในเอ็มวีจะหนีจากโลกอันโหดร้ายได้หรือไม่ แต่จากการตัดจบแบบดื้อๆ และชื่ออัลบั้ม The Chaos Chapter: Fight or Escape (สู้หรือหนี) ผู้เขียนคิดว่าเป็นการสื่อความถึงภาวะก้ำกึ่ง และดูเหมือนอาการ ‘มีชีวิตแบบจะจมน้ำตาย แต่ยังดันหายใจต่อไปได้’ เช่นนี้จะเป็นสิ่งที่วัยรุ่นทุกยุคสมัยต้องเผชิญ 

 

____________________

kanchat

ผู้เขียน - คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง

(Kanchat Rangseekansong)

เปิดโลกดนตรีและไอดอลกับคันฉัตร

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ ของ ความว้าวุ่นของวัยรุ่นในบทเพลงของ CIX และ TXT โดย คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook