เบสท์ ทิฏฐินันท์ ผู้ไม่เคยยอมแพ้! ลุกขึ้นสู้ใหม่จนคว้าแชมป์ The Voice | Sanook Music

เบสท์ ทิฏฐินันท์ ผู้ไม่เคยยอมแพ้! ลุกขึ้นสู้ใหม่จนคว้าแชมป์ The Voice

เบสท์ ทิฏฐินันท์ ผู้ไม่เคยยอมแพ้! ลุกขึ้นสู้ใหม่จนคว้าแชมป์ The Voice
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นอกจากจะเป็นพื้นที่ให้ศิลปิน ได้แสดงความสามารถแล้ว เวทีประกวดร้องเพลงนั้นก็สามารถเปลี่ยนคนธรรมดาที่มีฝัน ให้กลายเป็นศิลปินที่มีคนจับตามองภายในช่วงข้ามคืนด้วย และในวันนี้ Sanook! Music เองก็มีโอกาสได้พูดคุยกับ เบสท์ ทิฏฐินันท์ แชมป์เวทีเดอะวอยซ์ซีซั่น 4 เรื่องเส้นทางการประกวดร้องเพลงของเขา รวมถึงผลงานเพลงใหม่ แค่ไหนแค่นั้น ที่พึ่งถูกปล่อยออกมาด้วย

 

 

ความชื่นชอบในการร้องเพลงของคุณเบสท์ เริ่มขึ้นเมื่อไหร่

เบสท์ : ตอนแรกผมเล่นดนตรีและเล่นกีต้าร์  แต่ผมไม่เคยร้องเพลง ก็ได้แต่ฟังและร้องตามบ้าง  ตอนนั้นมีคนชมว่า ผมเสียงเพราะ ทำไมไม่มาร้องเพลง ก็เลยพลิกตัวจากนักดนตรีมาจับไมค์ ก็เลยรู้ว่าตัวเองชอบครับ

 

ตอนออดิชั่น คุณเบสท์ บอกว่าชอบเพลงโฟล์ค และ Acoustic ทำไมถึงชอบเพลงแนวนี้

เบสท์ : ผมชอบแนว Acoustic ตอนนั้นผมทำงานก็ร้องเพลง ดีดกีต้าร์ตามร้าน  เลยเอาเพลง Acoustic ที่ซอฟท์ๆ  หรือเพลงโฟล์คมาประกวด

 

คุณเบสท์มีศิลปิน คนไหนที่ชื่นชอบหรือเป็นไอดอล

เบสท์ : ผมชอบพี่ป๊อด Moderndog และ Silly Fools ครับ ผมว่าศิลปินแนวร็อกอย่างพวกเขาอยู่กับวัยรุ่นทุกสมัย ตอนผมเป็นวัยรุ่นศิลปินเหล่านี้ก็กำลังดัง

 

อะไรคือเหตุผล ที่ทำให้คุณเบสท์เข้าประกวดรายการเดอะวอยซ์ ซีซั่น 4

เบสท์ : มันไม่น่าเชื่อเลยครับ คือผมเคยไปออดิชั่น The star ซีซั่น 5 แต่ไม่เข้ารอบ คือไปแล้วกลับบ้านเลย แต่ผ่านมาสามสี่ ป ตอนนั้นเพื่อนในคณะก็ชวนไปแข่งเดอะวอยซ์ คือซีซั่นแรกๆเขาไปกัน แต่ผมไม่ไป คือเล่นดนตรีไปเรื่อยๆ เพื่อมาส่งตัวเองเรียนตอนเช้า ก็วนไปเรื่อยๆ ไม่คิดจะเข้าประกวดด้วย แต่วันนั้นมีอยู่วูบหนึ่ง ที่อย่ากลองสักครั้ง และเพื่อนก็ผลักดัน เราเลยตัดสินใจลองไปดู  ไปครั้งแรกก็ติดเลย

 

 

ตอนรอบ Blind Audition คุณเบสท์ต้องเลือกระหว่าง โค้ชโจอี้ บอย กับโค้ช เจนนิเฟอร์ คิ้ม ทำไมคุณถึงเลือกอยู่ทีมโค้ช โจอี้ บอย

เบสท์ : ผมชอบทั้งสองคนครับ และก็อยากร่วมงานกับทั้งโค้ชโจอี้ บอย และโค้ช เจนนิเฟอร์ คิ้ม แต่ด้วยดวงคือทั้งสองคนก็หันมาด้วยกัน  ผมเลยคิดว่าถ้าเราเป็น Bossanova เราจะเก่งด้านนี้ไหม  ผมก็ไม่มั่นใจ เลยเลือกไปทางโค้ชโจอี้บอย เพราะเขาครอบคลุมดีครับ

 

การร่วมงานกับโค้ชโจอี้บอย เป็นอย่างไรบ้าง

เบสท์ :  โค้ชโจอี้ ก็เหมือนผู้ใหญ่คนหนึ่งครับ คือในกลุ่มจะเรียกพ่อ จะเรียกลุง เป็นคนอบอุ่นและคุยได้ทุกเรื่อง สอนทุกอย่างเท่าที่แกรู้ คือเขายอมรับว่าร้องเพลงไม่เก่ง  แต่เขารู้ว่าคนฟังเพลง ต้องการอะไรจากเพลง อย่างเช่นความสนุก ส่วนผมที่ชอบเพลงที่ใช้อารมณ์ เขาก็เอาส่วนนี้ของผมมาถ่ายทอดให้ทุกคนรู้

 

หลังจากที่แข่งขันเสร็จ คุณเบสท์ก็ได้เป็นแชมป์เดอะวอยซ์ซีซั่น 5  คุณรู้สึกอย่างไรเมื่อทราบว่าตัวเองชนะการแข่งขัน

เบสท์ : ไม่เชื่อตัวเองเลยครับ คือแข่งทุกรอบ ผมก็จะนึกคำพูดเพื่อขอบคุณโค้ช เพราะผมพูดน้อย บางทีก็น้ำตาไหล ถ้ามันเศร้าๆ ผมก็ลิสต์ไว้เลยว่าแข่งรอบนี้จะพูดอย่างไร อธิบายแบบไหน ก็เก็บไว้ไม่ได้ใช้  คือพอมาถึงรอบสุดท้ายก็ไม่เชื่อตัวเอง และพูดไม่ออก มันตื่นเต้นและตื้นตันมาก

 

ตอนแรกคุณเบสท์ คาดหวังมากไหมกับการแข่งขัน

เบสท์ :  ตอนแรกคิดว่าให้ผ่านรอบ Blind แค่โค้ชหันมาแล้วเราได้อยู่ในทีวีและอยู่ใน YouTube ครับ

 

หลังจากที่คุณเบสท์ได้ชนะการแข่งขัน ชีวิตคุณได้เปลี่ยนไปมากไหม

เบสท์ : เปลี่ยนไปเยอะมากครับ ตอนแรกผมอยู่เชียงใหม่ก็มีกลุ่มเพื่อนเป็นนักศึกษากลุ่มเล็กๆ  คือชนะเราก็ต้องมาอยู่กรุงเทพการทำงานก็ไม่ง่าย มีทั้งผู้ใหญ่และโปรดิวเซอร์มาคุยงาน บางอย่างก็ตัดสินใจได้ แต่บางอย่างต้องมีผู้ใหญ่และหลายๆคน มาช่วยในการคิด

 

 

พอเราเป็นที่รู้จักแล้ว เวลาคุณเบสท์จะทำอะไรก็จะมีแฟนๆและคนติดตาม คุณรู้สึกเกร็งบ้างไหม

เบสท์ : ไม่เลยครับ ผมก็ยังใส่กางเกงขาสั้น เล่นกับสุนัขข้างทาง  ก็ไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นการวางตัวไม่ดี คือคนที่ชอบเราก็จะติดตามเรามาเรื่อยๆ เวลาออกงานออกสื่อก็จะมีแต่งตัวบ้าง  แต่เวลาปกติก็ไม่มีอะไรครับ

 

ล่าสุดตอนนี้คุณเบสท์ ก็มีซิงเกิ้ลเพลงแรกในชีวิต “แค่ไหนแค่นั้น” เพลงนี้มีเนื้อหาพูดถึงอะไร

เบสท์ : ช่วงที่ผ่านมาก็มีผลงานเพลง  เพราะซิงเกิ้ลนี้ใช้เวลานาน เพราะมีเหตุการณ์เยอะ ตอนนี้เอ็มวีก็ออกมาเมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา ก็มีพี่ โซ่ ETC และพี่ แม็ค ศรัณย์ มาช่วยแต่งเนื้อ คือสองคนนี้เหมือนพี่ชาย เพราะผมเองก็ไม่ค่อยรู้ศัพท์ทางดนตรี เขาก็ถามว่าชอบเพลงรักแนวไหน พอได้คุยกัน เขาก็เห็นว่าเป็นคนพูดน้อย  เป็นคนโรแมนติกดูอบอุ่น ก็ได้คุยกันแล้วออกมาเป็นเพลง  แค่ไหนแค่นั้น  มันพูดถึงการแอบรักคนคนหนึ่ง ที่อาจจะมีแฟน หรือไม่มีแฟน แล้วเราก็สารภาพไป คือเขาอาจจะรักหรือไม่รักเรา แต่เราก็มีความสุขที่ได้บอก ก็แค่ไหนแค่นั้น

 

คุณเบสท์ มีส่วนร่วมกับซิงเกิ้ลนี้อย่างไรบ้าง

เบสท์ : มีส่วนร่วมแต่ไม่เป็นชิ้นเป็นอันครับ เพราะพี่แม็คเขียนเนื้อมาให้ก็ไปร้องในห้องน้ำ ร้องอยู่สามวัน เวลาอัดจริงก็หลับตาร้องเพื่อให้ได้ฟีลลิ่ง  พี่เขาให้ขับความรู้สึกออกมาจากข้างใน ที่นี้ร้องผิด แต่ความหมายเหมือนเดิม แต่เพี้ยนแล้วดีขึ้น  พี่เขาเลยมองว่าคำนี้ก็ได้นะ มันเข้าปากเบสท์ดีเลยใช้คำนี้แทน ก็เหมือนได้ช่วยปรับเนื้อและเรียบเรียง

 

เพลงนี้คุณเบสท์ ใช้เวลาบันทึกเสียงนานไหม

เบสท์ : ตอนอัดก็ไม่นานครับ เพราะมันนานตอนปรับเนื้อปรับท่อน ก็ส่งไปส่งมา พอได้เป็นเพลงออกมาก็อัดจนเสร็จเลย   

 

มิวสิควีดีโอเพลง แค่ไหนแค่นั้น มีความพิเศษตรงที่มีสองเวอร์ชั่น  ทำไมคุณเบสท์และทีมงานถึงตัดสินใจทำเอ็มวีนี้ให้มีตอนจบสองแบบ

เบสท์ : ต้องขอบคุณทางค่ายครับ ที่มีไอเดียแปลกๆ คือคนดูที่เคยเจอเหตุการณ์แบบในเรื่อง สามารถเลือกตอนจบได้ เพราะมีทั้งแบบสารภาพรัก และเป็นแฟนกัน กับตอนจบที่ยอมเก็บความรู้สึกไว้ ก็เป็นอีกแนวที่ไม่เชิงว่าเป็นแฟน หรือสมหวัง แต่ก็แอบยิ้มในใจที่ได้บอก

 

หลังจากที่เพลงและมิวสิควีดีโอนี้ออกมา กระแสตอบรับเป็นอย่างไร เป็นตามที่เราคาดหวังหรือเปล่า

เบสท์ :  ดีครับ หลายคนบอกว่าเพลงฟังง่าย ร้องตามง่าย ผมคาดหวังให้คนร้องตามเพลงแรกได้ ให้คนรู้จักเรา และจำเราได้ ก็อยากให้คนร้องตามได้

ในฐานะที่คุณเบสท์เคยประกวดร้องเพลงนานมาแล้ว รู้สึกอย่างไร กับการประกวดร้องเพลงในยุคนี้

เบสท์ : ผมว่ามันอยู่ที่จังหวะครับ คนที่ชอบร้องเพลงเล่นดนตรี มีความฝันอยู่แล้ว ถ้าไขว่คว้ามากก็ต้องลงประกวดหลายๆที มันอาจจะไม่ได้หรือไม่สมหวัง  มันอยู่ที่จังหวะชีวิต ถ้ามันถูกจังหวะ คุณจะประสบความสำเร็จไม่ยาก

 

เป้าหมายสูงสุดของคุณเบสท์ในการเป็นศิลปิน คืออะไร

เบสท์ : ผมว่าตอนนี้มันสูงสุดแล้ว คือมีเพลงของตัวเอง แต่เราอยู่ตรงนี้มันก็ไม่พอ   มันต้องแต่งเพลงและทำเบื้องหลังและผมเองก็ไม่ได้เรียนมา ก็อยากเรียนรู้เพิ่มด้วยตัวเองและเพื่อนร่วมงานเพื่อจะเพิ่มตรงนี้ครับ

 

ในฐานะที่เราประสบความสำเร็จจากเวทีเดอะวอยซ์ คุณเบสท์มีอะไรที่อยากฝากให้กับคนที่อยากเข้ามาประกวดร้องเพลงไหม

เบสท์ : สู้ๆครับ ถ้าคุณมีความสามารถมันมาได้อยู่แล้ว อยากให้พยายามและสู้ต่อไป

 

คุณเบสท์เองเคยพลาดหวังจากเวทีอื่นมาก่อน อะไรคือสิ่งที่ทำให้คุณลุกขึ้นสู้และก้าวต่อไป จนมาประกวดเดอะวอยซ์

เบสท์ : โอกาสครับ ถ้าเราตั้งใจและฝันไว้ เราอย่าทิ้งมัน  เราล้มครั้งเดียว เราจะไม่ไปต่อเลยเหรอ ก็ต้องเอาให้สุดครับ สักครั้งหนึ่ง

คลิกฟังเพลง แค่ไหนแค่นั้น -  เบสท์ ทิฏฐินันท์

 

เรียกได้ว่านอกจากจะมีความสามารถแล้ว คุณเบสท์ ทิฏฐินันท์ ก็เป็นศิลปินที่ไม่เคยยอมแพ้กับความฝันของตัวเองด้วย และความพยายามของเขาก็ทำให้ความฝันของเขานั้นเป็นจริงในที่สุด ซึ่งเรื่องราวความสำเร็จของเขานั้นจะเป็นแรงบันดาลใจให้หลายๆคนในการทำความฝันให้เป็นจริงแน่นอน 

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ ของ เบสท์ ทิฏฐินันท์ ผู้ไม่เคยยอมแพ้! ลุกขึ้นสู้ใหม่จนคว้าแชมป์ The Voice

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook