รีวิว Horse Girl ตัวคนเดียวจนใกล้บ้า

รีวิว Horse Girl ตัวคนเดียวจนใกล้บ้า

รีวิว Horse Girl ตัวคนเดียวจนใกล้บ้า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เหงาจนจะเป็นบ้าอาจจะดูไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป อย่างน้อยก็เกิดขึ้นกับตัวละครอย่างซาร่าห์ (อลิสัน บรี) ใน Horse Girl หนังทริลเลอร์-ดราม่า-ไซไฟ ของสตรีมมิ่ง Netflix

 

ซาร่าห์พนักงานสาวในร้านสะดวกซื้อ ผู้ถือเป็นคนหาเช้ากินค่ำ เธอมีงานอดิเรกเป็นงานเย็บปักถักร้อย และยามว่างเธอมักจะหวนระลึกถึงแม่ผู้จากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ ซาร่าห์มีความผูกพันกับม้าสุดที่รักซึ่งเธอเติบโตมากับมัน จึงถือได้ว่าม้านั้นเป็นสิ่งที่เชื่อมโยง “กาลเวลา” จากอดีตถึงปัจจุบัน

 

 

กระทั่งวันหนึ่งซาร่าห์เริ่มสัมผัสได้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เมื่อเธอหลับฝันและพบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องสีขาวเรืองแสงเปิดโล่งราวกับว่าตัวเองนอนอยู่ในยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาว เหตุการณ์ประหลาดเริ่มทวีความพิลึกพิลั่นขึ้นเรื่อยๆ เมื่อซาร่าห์เกิดอาการนอนละเมอและเดินออกจากห้องไปหยุดอยู่ตามตู้โทรศัพท์ อาการเหม่อลอยแบบไม่มีสาเหตุ ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังฝันถึงอดีตอันเลวร้ายที่เคยเกิดขึ้นกับแม่ของตัวเอง ระหว่างทางที่หนังได้นำเสนอปรากฏการณ์ต่างๆ ก็ชวนคนดูตั้งคำถามไปกับกับซาร่าห์ว่าตกลงแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวละครนั้นเป็นเรื่องจริง หรือเป็นอาการทางจิตกันแน่

วิธีการนำเสนอเรื่องราวทั้งหมดของ Horse Girl เรียกได้ว่าเต็มไปด้วยความคลุมเครือและไม่มีอะไรชี้ชัดอย่างตรงไปตรงมา บางเหตุการณ์มีเค้าลางของความเลื่อนลอยดูเป็นความฝัน ในขณะที่บางเหตุการณ์ก็ดูจริงจนน่าขนลุก ซึ่งหนังจะไม่มีคำตอบใดๆให้คนดูจนกระทั่งฉากสุดท้ายของเรื่อง (ย้ำว่า ฉากสุดท้ายไม่กี่วินาทีก่อนจบจริงๆ) ที่คนดูจะได้เข้าใจเสียทีว่าสิ่งที่เราดูมาทั้งหมดคืออะไรกันแน่

 

 

Horse Girl เป็นผลงานการแสดง เขียนบท และอำนวยการสร้างโดยนางเอกอลิสัน บรี โดยเธอเลือกผู้กำกับอย่างเจฟฟ์ เบนา มาช่วยขับเคลื่อนเรื่องราวทั้งหมด ซึ่งคงจะต้องบอกว่าตัวหนังก็มีกลิ่นของความเป็น “หนังส่วนตัว” ของผู้เล่าเยอะมากทีเดียว ซึ่งอลิสัน บรีเองก็คงอยากจะนำเสนอความคลุมเครือต่างๆในชีวิตมนุษย์ผ่านเหตุการณ์เหนือธรรมชาติ อาการทางจิตที่บางครั้งก็ไม่สามารถหาคำตอบได้ในสังคมปัจจุบัน

เมื่อเราเชื่อมโยงสิ่งที่ปรากฏอยู่ในหนังแล้ว เราจะพบว่าตัวเอกอย่างซาร่าห์เองคือตัวแทนของควคนเหงาในยุคปัจจุบันที่รู้สึกแปลกแยกแตกต่างออกจากสังคมที่เธอดำรงชีวิตอยู่ จนกระทั่งมีบางสิ่งให้เธอยึดเหนี่ยวจิตใจ (เรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติ) เธอก็พร้อมจะกระโจนเข้าหามันโดยไม่สนใจผลกระทบที่จะตามมาเลยสักนิดเดียว

นี่สินะอาจจะเป็นคำกล่าวที่ว่าเพราะความ “เหงา” ฆ่าเราให้ตายทั้งเป็นได้

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook