ผู้มีอิทธิพลขายยากับแอกชันแฟนตาซี ในซีรีส์ไตรภาค "จิตสังหาร"

ผู้มีอิทธิพลขายยากับแอกชันแฟนตาซี ในซีรีส์ไตรภาค "จิตสังหาร"

ผู้มีอิทธิพลขายยากับแอกชันแฟนตาซี ในซีรีส์ไตรภาค "จิตสังหาร"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แหม เรื่องผู้มีอำนาจ ผู้มีอิทธิพลค้ายาเนี่ย อย่าว่าแต่ในสนามการเมืองเลยค่ะที่ตัวร้ายเป็นผู้มีอิทธิพล ในละครเองก็มีการยกให้การค้ายาเสพติดเป็นตัวร้ายในละครบู๊แอ็กชันมาหลายเรื่องทีเดียวค่ะ หลายๆ คนคงจะคุ้นๆ เนื้อเรื่องประเภทนี้กันดี แต่ทว่าละครบู๊เรื่องนึงที่เทยคิดว่ามันแปลก แหวกแนว แถมขึ้นแท่นเป็นซีรีส์ที่มีความยาวเป็นไตรภาคได้ แถมเป็นการต่อสู้กับความเลวร้ายขององค์กรค้ายาเสพติด มันมีอยู่แค่เรื่องเดียว “จิตสังหาร

มาค่ะ เรามาบุกตะลุยความเกรียงไกรของละครเรื่องนี้กัน

“จิตสังหาร” เป็นละครโทรทัศน์ไทยแนว แอ็กชัน แฟนตาซี จากบทประพันธ์และบทโทรทัศน์โดย คฑาหัสต์ บุษปะเกศ ซึ่งเป็นเรื่องราวไตรภาค ประกอบไปด้วย “จิตสังหาร | The Sense”“เดือนเดือด | Dark Angel” และ “คมฅน | The Hero” ซึ่งทั้งสามภาคเคยถูกทำเป็นละครโทรทัศน์ไปแล้ว

ความน่าสนใจ ความเวอร์ความปัง ของซีรีส์ชุดนี้ที่ทำให้แตกต่างจากละครบู๊เรื่องอื่นคือมันไม่ใช่แค่บู๊อย่างเดียวค่ะคุณ แต่มันดันบวกความแฟนตาซีไปด้วย นับเป็นเรื่องแรกๆ ที่มีการใส่พลังวิเศษเข้าไปในตัวเอกของเรื่อง กองละครจึงสามารถใส่สเปเชียลเอฟเฟกต์ของให้ดูน่าสนใจตระการตา ดาวล้านดวงมากขึ้นไปอีก เป็นรสชาติใหม่ที่ไม่ค่อยได้ชมกันนัก

จิตสังหาร

“จิตสังหาร | The Sense” เปิดมาในภาคแรก เป็นเรื่องราวของ ดร.ทัศน์ไท ธนวันต์ นักธุรกิจหนุ่มที่ประสบอุบัติเหตุจากการถูกปองร้าย เขาตื่นขึ้นมาและค้นพบว่าตัวเองมีสามารถอ่านจิตใจของคนอื่นได้ เขาจึงใช้มันพยายามสืบเสาะหาตัวเบื้องหลังคนที่ทำร้ายเขา สาวไปสาวมา มันไปเจอขบวนการธุรกิจมืดที่ชอนไชลึกกว่าเดิม ฝังรากลงไปในระบบราชการและตำรวจ และทำให้เขารวมถึงคนรอบตัว ต้องลุกขึ้นมาต่อสู้ความอยุติธรรมนี้เอง ก่อนที่คนเหล่านั้นจะพยายามมาตามฆ่าเพื่อปิดปากเขาอีกรอบ

เนี่ย พล็อตซีรีส์สากลเวอร์ หลังจากที่ละครไทยวนเวียนกับการแย่งผู้ชายกันมานานอ่ะค่ะคุณ คิดดู

ในภาคแรกนี้ ตัวละครที่วางเอาไว้เป็นขั้วที่น่าสนใจคือตัว ดร.ทัศน์ไท ที่เป็นนักธุรกิจ ซึ่งโดนปกติแล้ว ละครไทยแต่ก่อนแต่ไร ก็มักจะวางให้พระเอกเป็นนักธุรกิจที่ดูว่างๆ วันวันนั่งเซ็นเอกสาร แล้วมีนางเอกคอยให้รักมาพิชิตใจไว้ได้ และนางร้ายวิ่งเข้ามาปี๊ดๆๆๆ แล้วจากไป พอจะคุ้นๆ กันใช่ไหมคะ แต่ทว่า ดร.ทัศน์ไท นั้นต่างออกไป เขาเป็นนักธุรกิจที่ฉลาด และเดินตรงตามเข็มนาฬิกามากๆ จนกระทั่งเขารู้ว่าโลกแห่งความจริงไม่มีอะไรสะอาดอย่างที่เขาคิด เนื้อเรื่องจึงผลักให้เขากลายเป็นฮีโร่ และใช้ช่องทางธุรกิจบวกกับพลังวิเศษของเขาในการต่อสู้ ประหนึ่ง บรูซ เวย์น แบทแมนเวอร์ชั่นไทยเลยค่ะคุณ

ป๋อ ณัฐวุฒิ รับบท ดร.ทัศน์ไท

ด้านตัวละครนางเอกเองก็น่าสนใจ คริมา วรนันท์ เองนางเป็นนักข่าว ซึ่งก็หายากเหมือนกันนะคะ ในละครไทยที่จะให้นางเอกเป็นนักข่าวแถมมีอุมการณ์เสียด้วย คริมา รายงานข่าวเพื่อเปิดโปงความจริง และนั่นทำให้ต้องต่อสู้กับภัยที่คุกคามสื่อร่วมไปกับ ดร. ทัศน์ไท อีกด้วย เป็นรูปแบบตัวละครหญิงแกร่งที่ไม่ปรากฎให้เห็นมากนักในละครไทยยุคนั้น เฟมินิสต์ต้องไหว้

และด้วยพล็อตที่แปลกแหวกแนว บวกความแฟนตาซีของการอ่านจิตใจคน พ่วงการบู๊ล้างผลาญ และการกระชากความเน่าเฟะของวงการธุรกิจออกมา ทำให้จิตสังหารเป็นที่นิยมมากๆ ในตอนนั้น และทำให้ภาคต่อมาได้ไฟเขียวการสร้าง โดยเป็นภาคมีเนื้อเรื่องที่เกี่ยวข้องกัน 

“เดือนเดือด | Dark Angel” เป็นเรื่องราวของ มนทกานติ นางเอกยอดนิยมที่มีความสามารถทุกบทบาท เป็นตัวท็อปในวงการบันเทิง แต่ในอีกด้านหนึ่งเธอคือ "ปกีรณัม" หญิงสาวที่มีดวงของสัมพันธ์กับรอบของดวงจันทร์ จะไม่มีอันตรายอะไรทำร้ายเธอได้ในคืนที่พระจันทร์มืดมิด เธอจึงใช้ความสามารถนี้ต่อสู้กับขบวนการค้ายาเสพติดที่กำลังเข้ามาคุกคามวงการบันเทิง และทำให้เธอสูญเสียผู้กำกับที่กำลังชอบพออยู่ โดยเธอจะได้รับคำสั่งจากผู้ใช้ชื่อว่า "ฮีโร่" ในอินเทอร์เน็ต ที่จะคอยส่งเบาะแสให้กับเธอ และเมื่อเธอออกปฏิบัติการ เธอก็จะใช้พลังวิเศษในการเอาตัวรอด แต่ก็ต้องควบคู่ไปกับการปกปิดตัวตนที่แท้จริง นำไปสู่การเลือกเส้นทางระหว่างโลกที่ต้องจริงจังกับการต่อสู้ หรือโลกแสงสีแห่งการวงการบันเทิง

เดือนเดือด

ความพิเศษของภาคนี้คือแอ็กชันแฟนตาซีที่เพิ่มมากขึ้น และเรื่องราวที่ขยับไปยังวงการการแสดง และแฉความเน่าเฟะของเหล่าดารา ซึ่งในช่วงเวลานั้นละครที่แฉความปลอมเปลือกของวงการมายาก็ใช่ว่าจะไม่มี แต่ทว่าความพิเศษคือความเน่าเฟะของวงการมันลงลึกไปถึงเรื่องการใช้ยาเสพติด และมันก็พัวพันต่อไปยัง ส.ส. ที่เป็นตัวร้ายอีกด้วย เป็นสองโลกที่มาบรรจบกันอย่างน่าสนใจ ก็คือวงการบันเทิงกับการเมือง ซึ่งในโลกความป็นจริง ก็เป็นแบบนั้นเสียด้วยค่ะ

รวมไปถึงตัวละครนางเอกที่กลายเป็นตัวหลักของเรื่อง แอ็กชันที่ใช้ผู้หญิงเป็นตัวนำรับบทนางโซโล่บู๊บุกตะลุยคนเดียวนั้น ไม่มีปรากฎมาก่อนในละครไทย เพราะมากสุดตัวละครหญิงหากจะบู๊ นางก็ต้องบู๊เป็นทีม ไม่ค่อยมีการยืนหนึ่งเท่าไหร่ แถมคาแรกเตอร์ของ มนทกานติ ยังเป็นดาราอีกด้วย ภาพจำของคนเสพย์คือความสวยงาม เนื้อเรื่องที่ควรเทไปยังการโลกมายา แต่อีกด้านของเธอกลับเป็นสายลับ เป็นนักสู้ ซึ่งเป็นอะไรที่ดูขัดแย้ง แต่เอามาผสมกันได้ลงตัว

สุวนันท์ คงยิ่ง รับบท มนทกานติ/ปกีรณัม

ด้านเนื้อเรื่องนั้น ก็ยังมีบางส่วนที่เชื่อมกับภาคแรก ตัวละครตำรวจนั้นยังคงเป็นกลุ่มเดิม และ ดร.ทัศน์ไท ก็เป็นคนค่อยให้ความช่วยเหลือปกีรณัมในการออกปฎิบัติการด้วย การสานต่อเนื้อเรื่องแบบภาคต่อแนวนี้นั้น ยิ่งทำให้คนดูละครรู้สึกตื่นเต้น รู้สึกมีความเกี่ยวเนื่องผูกพันกับตัวละครมากขึ้นไปอีก สร้างความเป็นจักรวาลมาก่อน Marvel เสียนะคะเนี่ย 

เอกลักษณ์อีกอย่างที่ทำให้ เดือนเดือด ได้รับความนิยม แม้ว่าจะยืนอยู่บนความเสี่ยงเรื่องของการใช้ตัวละครหญิงนำยืนหนึ่ง คงเป็นดีไซน์คาแรกเตอร์ของหญิงในชุดดำและใส่แว่นดำ กับชื่อที่ดูแปลกประหลาดอย่าง “ปกีรณัม” ซึ่งทำให้คนดูจดจำได้ง่ายในความแปลกแหวกแนว ที่ถึงแม้การดีไซน์ตัวละครจะดูคล้ายคลึงกับตัวละครจากภาพยนตร์เรื่อง The Matrix ที่กำลังได้รับความนิยมในช่วงนั้นเหมือนกันก็ตามที

ความนิยมของทั้ง จิตสังหาร และ เดือนเดือด นั้นถล่มทลาย และกลายเป็นภาพจำของการทำละครแอ็กชันที่บวกความแฟนตาซีเข้าไปเพิ่ม นั่นทำให้เรื่องราวสามารถเดินมาจนถึงภาคสาม “คมฅน | The Hero” ซึ่งเป็นไตรภาคสุดท้ายของซีรีส์นี้ โดยเรื่องราวหันไปโฟกัสที่กรมตำรวจมากขึ้น หลังจากสองภาคที่ผ่านมา คนอื่นๆ ต้องลุกขึ้นมาเป็นศาลเตี้ยเพื่อพิทักษ์ความยุติธรรมไปแล้ว คราวนี้คนในเครื่องแบบเองล่ะ ต้องทำอะไรกันบ้างกับเหตุการณ์สกปรกในบ้านเมือง

คมฅน

สายน้ำ น้องสาวของสายฟ้า เธอสูญเสียพี่ชายไปในเหตุการณ์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล น้องสาวผู้บอบบางเธอจึงต้องลุกขึ้นต่อสู้ผ่านการเข้าเรียนในโรงเรียนตำรวจ แม้ว่าเธอเองจะไม่ใช่คนเข้มแข็งเลยซักนิด แต่เวลาไหนก็ตามที่เธอมีภัย เธอจะมีพลังสายฟ้าเข้ามาประทับร่าง และทำให้เธอมีพลังเหนือมนุษย์ทันที เรื่องราวของเธอในรั้วโรงเรียนตำรวจไปจนถึงเมื่อเธอได้ใช้ชีวิตเป็นตำรวจจริงๆนั้น เธอค้นพบว่าในองค์กรไม่ได้ขาวสะอาดอย่างที่เธอคิด และคนที่ทำให้พี่ชายของเธอตายนั้น มันไม่ใช่คนนอกองค์กร แต่เป็นหนอนบ่อนไส้ในองค์เสียเอง และอาจจะเป็นคนใกล้ตัวถึงขั้นเป็นเพื่อนรักของเธอด้วย เธอจึงต้องตัดสินใจว่าจะต่อสู้ด้วยพลังสายฟ้าจากพี่ชายของเธอ หรือจะทำมันในฐานะคนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น

จบได้สวยเวอร์

ความพิเศษของภาคนี้ นอกจากจะจั่วหัวมาว่าเป็นไตรภาคสุดท้ายของ จิตสังหาร แล้ว การต่อสู้ของตัวละครในเรื่องนั้นเป็นเรื่องในรั้วตำรวจกับผู้มีอิทธิพลเพียวๆ ไม่มีสายอาชีพอื่นเข้ามาเจือปนใดใด แถมยังปรากฏตัวละครที่เป็นหนอนบ่อนไส้ในกรมตำรวจ ถือตราเครื่องแบบแต่ทว่าก็ยังรับเงินจากผู้มีอิทธิพลอีกทางหนึ่งด้วย การจะทำงานให้รอดปลอดภัยในขณะที่ข้างในองค์กรเน่าเฟะจึงเป็นเรื่องยาก ภาคนี้จึงมีการจุดกระแส “ผู้ก่อการดี” ทำให้คนดูละครรู้สึกมีส่วนร่วม ในการลุกขึ้นมาทำความดีต่อต้านเรื่องชั่วร้ายในสังคม ตามคอนเซปต์ของเรื่องที่ว่า ฮีโร่ จะเป็นใครก็ได้ และไม่จำเป็นต้องมีพลังวิเศษอีกต่อไป

แน่นอนว่าเนื้อเรื่องยังคงเชื่อมจากภาคก่อนๆ ตำรวจยังคงเป็นตัวละครเดิม ซึ่งก็คือ พ.ต.อ.เศรษฐพงศ์ และ พ.ต.ท. ภูมิ ซึ่งทั้งคู่เป็นเพื่อนกัน โดยภูมิเป็นพระเอกของภาคเดือนเดือด ส่วนเศรษฐพงศ์นั้น เป็นพระเอกของ คมฅน นั่นเอง โดยทั้งสองคนนั้นได้รับการสนับสนุนอย่างลับๆ จาก ดร.ทัศน์ไท อีกที ซึ่งเนื้อเรื่องทั้งสามภาคก็จบลงอย่างแฮปปี้เอนดิ้ง ตัวละครเทาๆ ทั้งหลายได้มีจุดจบที่เหมาะสม แต่ทว่าตัวละครบางตัวก็ต้องเสียสละเพื่อรักษาอุดมการณ์เอาไว้เช่นกัน รวมถึงตัวละครจากภาคก่อนๆ ก็ยังเคลื่อนไหวอยู่รายรอบ ทำให้ทั้งสามภาคยังคงเป็นเรื่องเดียวกันอยู่

สิ่งที่น่าเสียดายคือการใช้นักแสดงของทั้งสามเรื่องนั้น ไม่ได้เป็นยืนหนึ่งเป็นตัวของตัวเองกันอย่างชัดเจน มีการใช้นักแสดงซ้ำกันไปมาในตัวหลัก รวมถึงพระเอกที่เป็นนักแสดงคนเดิมถึงสองภาค จึงทำให้การสร้างจักรวาลของเรื่องไม่แข็งแรงแบบหนัง Marvel สมัยนี้เท่าไหร่ เพราะขาดความต่อเนื่องไป แต่ก็ต้องถือว่าไตรภาคจิตสังหาร เป็นละครเรื่องยาวเรื่องแรกของยุค ที่มีกลิ่นบู๊แบบแฟนตาซี ก่อนที่จะมีละครแนวนี้ออกมาอีกมากมายในช่วงหลังๆ จากเจ้าของบทประพันธ์และบทโทรทัศน์คนเดิม อย่างซีรีส์ “คมแฝก” หรือแม้แต่ “นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว” ก็ตามที

คมแฝก

ในด้านของตัวร้ายเองก็น่าสนใจ เพราะดูเหมือนจะมีลักษณะเหมือนกันทั้งสามภาคเลยค่ะ ก็คือ “แก๊งค้ายาเสพติด” ที่ต่างก็ฉาบหน้าไว้ด้วยองค์กรและภาพลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป ภาคแรกเป็นนักธุรกิจ ภาคสองเป็น ส.ส. และภาคสาม ดันเป็นตำรวจซะเอง ซึ่งถือเป็นการสะท้อนสังคมครั้งใหญ่เลยว่า การค้าขายยาเสพติดนั้น แม้แต่ในละครเองก็ยังพูดว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่สิ่งผิดกฎหมายนี้ จะไม่ผ่านมือของผู้มีอำนาจช่วยถือหางไว้ให้ และหลังจากไตรภาคจิตสังหารมา ละครบู๊ก็มักจะพูดประเด็นนี้ตามกันมาหมดด้วย

กลับกันฝ่ายประชาชน คนธรรมดาในสายอาชีพต่างๆ ต้องเริ่มลุกขึ้นมาต่อสู้เอาตัวรอดกันเอง แถมทุกภาค ถ้าจะรอดได้ ก็ต้องพึ่งอภินิหาร พลังเหนือธรรมชาติ ถึงจะเอาชนะได้ เพราะหลายๆ เหตุการณ์ในเรื่อง ถ้าตัวเองไม่มีพลังวิเศษล่ะก็ … แอ่ก ลาก่อนค่ะแน่นอน ไม้คมแฝกและพลังข้าวเหนียว ก็เดินตามนี้มาเช่นกัน รวมถึงเครื่องรางของขลังอื่นๆอีก

แต่ในปัจจุบัน การตั้งตัวขึ้นมาเป็น “ผู้ก่อการดี” นั้น ก็มีความสุ่มเสี่ยงกับการเป็นศาลเตี้ยอยู่เหมือนกันนะเธอ เพราะหลังการกระแสภาพยนตร์ The Dark Knight ในปี 2008 ที่ตัวละคร Joker ได้ปลุกกระแสการตั้งคำถามการมีอยู่ของ Hero ว่ามันผิดกฎหมายที่ตั้งไว้ร่วมกันหรือไม่อย่างไร ยิ่งพอเอามาทาบกับสังคมไทย จึงเป็นเรื่องที่กระอักกระอ่วนอยู่เหมือนกันกับการต่อต้านความเลว เพราะแต่ละคนย่อมมีเส้นศีลธรรมที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นเราก็ควรไว้ใจกระบวนการยุติธรรมมากกว่าลุกขึ้นมาทำอะไรด้วยตนเองไหม แต่ก็นะคะ ในขณะเดียวกัน กระบวนการยุติธรรมมันไว้ใจได้แค่ไหนกันล่ะ กลุ่มผู้ก่อการดี จากละครคมฅนจึงเป็นที่ตั้งคำถามอยู่มากเหมือนกัน 

The Dark Knight

จึงเป็นที่น่าคิดเหมือนกันนะคะว่า หากซีรีส์เรื่องนี้กำลังสะท้อนอำนาจของสังคม ภาคประชาชนหรือองค์กรที่ต้องต่อสู้กับยาเสพติด ก็เป็นการยากเหมือนกันที่จะเอาชนะได้โดยไม่มีอำนาจพิเศษในมือ เพราะเหมือนกับว่าขบวนการเหล่านี้ มันไม่ใช่แค่พ่อค้าในมุมมืด แต่ธุรกิจมันดำเนินฉาบหน้าอยู่บนของอาชีพอื่นๆ ที่มีอำนาจเสียด้วย 

น่ากลัวเหมือนกันนะคะเนี่ย ความสวยนอกเน่าในเนี่ย แหม….

ในปัจจุบันไตรภาค จิตสังหาร มีการนำมาสร้างเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ยังไม่มีการนำมารีเมคแต่อย่างใด แต่ก็ต้องยอมรับว่าซีรีส์เรื่องนี้ เป็นหมุดหมายที่น่าสนใจของละครไทย ทั้งในด้านความแปลกแหวกแนวและสะท้อนสังคมเลยนะคะคุณขา 

กะเทยปลายๆ 90’s ต้นๆ 2000’s แทบทุกนางก็ล้วนอยากเคยรับบท "ปกีรณัม" ด้วยกันทั้งนั้นแหละค่ะ เพราะงั้น เทยขอตัวแปลงร่างออกไปปฎิบัติการปราบพวกค้ายาในคราบผู้มีอำนาจก่อนละกันนะคะ

แหม… ก็แค่อินละครค่ะ อย่าคิดมาก

 

เหยี่ยวเทย รายงาน

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ

อัลบั้มภาพ 9 ภาพ ของ ผู้มีอิทธิพลขายยากับแอกชันแฟนตาซี ในซีรีส์ไตรภาค "จิตสังหาร"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook