6 เรื่องเดือด เมื่อเฉินหลงท้าต่อยกับเพียร์ซ บรอสแนน ใน The Foreigner

 

การโคจรมาเจอกันระหว่างซุปเปอร์สตาร์หนังแอ็คชั่นยุค 90 จากโลกตะวันออกและโลกตะวันตก โดยเขาทั้งสองคนนั้นก็คือ เฉินหลง นักแสดงจีนฝีมือฉกาจเรื่องการต่อสู้แบบมือเปล่า ส่วนอีกคนคืออดีตนักแสดงสายลับ 007 อย่าง เพียร์ซ บรอสแนน โดยทั้งสองต้องมารับบทหักเหลี่ยมเฉือนคม ในหนังแอ็คชั่นเรื่องใหม่อย่าง The Foreigner

 

 

แค้นที่ต้องชำระ

ควน (เฉินหลง) เจ้าของร้านอาหารจีนในไชน่าทาวน์ลอนดอน ที่ลูกสาวเขาถูกลูกหลงจากการก่อการร้ายจนเสียชีวิต ทำให้เขาต้องการทวงความยุติธรรมให้ลูกสาว ทว่าทางการกลับไม่ให้ความช่วยเหลือใดๆ ด้วยหัวใจที่แหลกสลายและความแค้นทำให้เขาตัดสินใจลงมือจัดการกลุ่มผู้ก่อการร้าย IRA ด้วยวิธีสุดระห่ำ ขณะเดียวกับที่ เลียม เฮนเนสซี (เพียร์ซ บรอสแนน) เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล ที่เคยมีประวัติพัวพันกับกลุ่ม IRA อาจจะเป็นคนที่กุมความลับของเหตุการณ์ทั้งหมด

 

 

จากนวนิยายขายดีสู่บทภาพยนตร์ดัดแปลง  

ถึงพล็อตเรื่องอาจจะดูเหมือนหนังล้างแค้นธรรมดาดาษดื่นที่เราเคยดูมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ความน่าสนใจของ The Foreigner สร้างมาจากนิยายขื่อ เรื่อง The Chinaman ที่วางจำหน่ายเมื่อปี 1992 จากปลายปากกาของ สตีเฟ่น เลเธอร์ นักเขียนแนวเขย่าขวัญอาชญากรรมชื่อดัง ซึ่งบทภาพยนตร์จะถูกดัดแปลงให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบันมากขึ้นผ่านการเขียนบทของ เดวิด มาร์โคนี่ (Enemy of the State, Live Free or Die Hard) ซึ่งฉากหลังในนิยายนั้นเกิดขึ้นในยุคสมัย 90 ช่วงที่เกิดความตึงเครียดระหว่างไอร์แลนด์เหนือและสหราชอาณาจักร

เมื่อประเด็นถูกเปลี่ยนแปลงไป บทหนังเรื่องจึงต้องพยายามปรับอุปกรณ์เกี่ยวกับเทคโนโลยีให้เข้ากับยุคสมัย รวมไปถึงการออกแบบตัวละครไม่ให้เป็นขาวจัดและดำจัด ตัวละครที่ดีในยุคปัจจุบันนี้ควรเป็นสีเท่า เนื่องด้วยเพราะโลกของเรามันเป็นแบบนั้น เราต้องพยายามเข้าถึงจิตใจของตัวละคร รวมทั้งตัวร้ายด้วยเหมือนกัน      

 

 

การพลิกบทบาทครั้งสำคัญของเฉินหลง

เรามักจะคุ้นชินบทบาทของเฉินหลง (หรือ แจ็คกี้ ชาน) ในลักษณะของนักแสดงแอ็คชั่น เน้นการต่อสู้แบบตัวต่อตัว แต่ในหนังเรื่องนี้เขาจะต้องรับบทเป็น ควน ชายเก็บกดผู้แสนเงียบขรึม ซึ่งปกติแล้วในหนังที่มีเฉินหลงแสดงมักจะเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ขัน แต่ด้วยวัยที่มากขั้นเฉินหลงเองก็ไม่อยากจะแสดงบทเดิมซ้ำซาก อาทิ Chinese Zodiac เป็นหนังสไตล์อินเดียน่า โจนส์ Shinjuku เป็นหนังซีเรียส Skiptrace เป็นหนังตลก          

โดยตัวละคร ควน นั้นเขารับบทเป็นคุณพ่อผู้แสนน่ารัก ชีวิตของเขาทุ่มเทเพื่อปกป้องและมอบความรักให้กับลูกสาว แต่เมื่อเธอถูกฆ่า ทำให้เขาไม่เหลืออะไรยึดเหนี่ยวอีกต่อไป เขาต้องการล้างแค้นไม่ใช่แค่เพื่อลูกสาว แต่เพื่อผู้บริสุทธิ์ทุกคนที่ต้องตกเป็นเหยื่อที่ไม่ได้รับความยุติธรรม แต่ตัวละครนี้ก็มีอดีตมาเช่นกัน เมื่อควนนั้นเคยอยู่ในหน่วยรบพิเศษต่อสู้ในสงครามเวียดนาม เขาทำงานให้ทหารอเมริกัน เป็นคนฝึกเทคนิคการต่อสู้แบบกองโจรมาก่อนทำให้การล้างแค้นครั้งนี้เขาต้องดึงทักษะทหารในอดีตกลับคืนมา

 

 

เพียร์ซ บรอสแนนกับการพลิกคาแรกเตอร์อีกครั้ง

ในยุคหนึ่งเพียร์ซ โด่งดังเป็นอย่างมากกับการรับบทเป็นสายลับ เจมส์ บอนด์ ว่ากันว่าเค้าคือบอนด์ที่ทรงเสน่ห์คนหนึ่งไม่แพ้ โรเจอร์ มัวร์เลยก็ว่าได้ (แม้ตัวหนังบอนด์ในยุคของเพียร์ซจะมีความโอเว่อร์ราวกับการ์ตูนก็ตาม) แต่ในยุคหลังจากที่เขาได้วางมือและส่งไม้ต่อให้กับแดเนียล เคร๊ก ในหนังหลายเรื่อง เพียร์ซเคยรับบทเป็นวายร้ายอาทิ หนังอย่าง Survivor มือวางระเบิดหรือ Urge ที่เขารับบทเป็นพ่อค้ายาเป็นต้น

ในหนังเรื่องนี้เพียร์ซ สวมบทเป็นเลียม เฮนเนสซี อดีตผู้นำกลุ่มกบฏไอริชที่ผันตัวมาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลอังกฤษ โดยในตอนแรกเขาไม่สนใจการกระทำของควนนัก จนเมื่อควนได้แสดงให้เขาเห็นว่าเขาเอาจริง แต่ในขณะเดียวกันนั้นเลียมก็ต้องรับมือกับการสร้างฐานอำนาจที่แผนเริ่มไม่เป็นไปอย่างที่หวัง เขาต้องรับมือกับ แม็คกราธ (อดีตสมาชิกกลุ่มกบฏไอริช) และคนแปรพักต์ในหน่วยของเขา

 

 

ศึกในจอ มิตรนอกจอ

ถึงในจอเฉินหลงจะต้องปะทะกับเพียร์ซแบบไม่มีใครยอมใคร แต่นักแสดงทั้งสองกลับเป็นมิตรกันอย่างมากนอกกองถ่าย เฉินหลงพูดถึงเพียร์ซว่า “ผมดีใจที่ได้ร่วมงานกับเขาหนึ่ง เขาเป็นคนที่ทำงานด้วยแล้วสบายใจ เขาช่วยผมเยอะเลยหน้ากอง ไม่ใช่แค่ด้านการแสดงแต่ยังเรื่องภาษาอังกฤษของผมด้วย ผมเสียเวลาไปเยอะเพราะภาษาอังกฤษผมไม่ค่อยดี แถมในเรื่องผมยังต้องเล่นเป็นคนที่อาศัยอยู่ในอังกฤษมานาน เขาช่วยผมเยอะจริงๆ เขาอดทนกับผมพอสมควร แล้วพอเราถ่ายกันเสร็จเขามอบภาพเขียนที่เขาเป็นคนวาดเองให้ผม เขาคือศิลปินตัวจริง”

ส่วนเพียร์ซ ก็เอ่ยปากชมเฉินหลงเช่นกันว่า “นี่เป็นบทที่เหมาะกับการวัดฝีมือ แจ็คกี้ มากเขาทำงานหนักมาก ไม่ใช่แค่ทางกายภาพแต่ในด้านความคิดและสภาพอารมณ์ด้วย ผมคิดว่าเขาสร้างตัวละครที่สุดยอดออกมา ผมว่าหลายคนจะชื่นชมบทนี้ของเขาเช่นเดียวกับตัวหนังเอง”

 

 

ฉากเปิดเรื่องที่ไม่ควรพลาด

ถ้าคุณคิดจะเข้าโรงหนังช้า อาจจะเป็นความคิดที่ผิดพลาด เพราหนังมีฉากระเบิดเปิดเรื่องที่บริเวณไนท์บริดจ์ พาวเวลล์ อันเป็นฉากที่ลูกสาวของควนจะต้องตาย และเป็นความยากในการถ่ายทำเพราะทีมงานต้องรับมือกับเวลาในการถ่ายทำที่สั้น ทีมงานนับร้อย ตัวประกอบฉาก และยังไม่รวมถึงคิวในการถ่ายทำนั้นตรงกับวันหยุดพอดีทำให้ฝูงชนพลุกพล่าน ยังไม่รวมไปถึงฉากระเบิดที่สะพานแลมเบทซึ่งทีมงานต้องประสานงานกับกระทรวงคมนาคมลอนดอนและกรมตำรวจ เพื่ออำนวยความสะดวกในการถ่ายทำ และให้งานภาพที่ได้ออกมานั้นมีความสมจริงที่สุด