วิจารณ์หนัง EVEREST ยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว

วิจารณ์หนัง EVEREST ยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว

วิจารณ์หนัง EVEREST ยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ยิ่งสูงยิ่งหนาวหาใช่คำกล่าวอ้างที่เกินเลยความจริงแต่อย่างใด อันที่จริงมนุษย์เองก็ขึ้นชื่ออยู่แล้วในการชื่นชอบที่จะ “เอาชนะธรรมชาติ” อันโหดร้ายเพื่อประกาศว่าตัวเองเป็นคนเก่งหรือผู้พิชิตมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เช่นเดียวกับยอดเอเวอร์เรสต์อันเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกในปี 1996 

ตัวหนังเรื่องนี้ถูกดัดแปลงมาจากเหตุการณ์จริงจากประสบการณ์ที่เลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งในการปีนเขา เพราะมันได้สร้างความเสี่ยงภัยให้กับบรรดาผู้ปีนเขาและบริษัทแอดเวนเจอร์ คอนซัลแทนท์ เพราะมันได้รับการจดบันทึกว่ามันเป็นการปีนเขาที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของเอเวอร์เรสต์

อย่างไรก็ตามถ้าหากจะเล่าเรื่องราวโดยละเอียดนั้นต้องแนะนำให้ไปชมภาพยนตร์กันเองเนื่องจาก EVEREST เป็นหนังที่มีตัวละครเยอะและตัวหนังก็ไม่ค่อยได้ให้น้ำหนักใครเป็นพิเศษเท่าที่ควร แต่ตัวละครหนึ่งที่หนังน่าจะให้น้ำหนักเป็นพิเศษก็คือบทของร็อบ ฮอล(เจสัน คลาร์ก) ชาวนิวซีแลนด์ ผู้ค้นพบการปีนเขาระหว่างที่เขาเติบโตใกล้กับเซาเธิร์น แอลป์บนเซาธ์ ไอแลนด์ ในปี 1980 เขาปีนขึ้นสู่ยอดเขาของเทือกเขาหิมาลัย อามา ดาบลามที่สูง 6,856 เมตรในโซลา คุมบู ได้เป็นครั้งแรกเมื่ออายุได้ 19 ปี ในปี 1990

เขาปีนขึ้นสู่ยอดเขาเอเวอร์เรสต์พร้อมด้วยคู่หูในการปีนเขาของเขา แกรี บอลและปีเตอร์ ลูกชายของเซอร์เอ็ดมันด์ ฮิลลารี พวกเขาได้รับความสนใจจากคนทั่วประเทศเมื่อพวกเขาโทรศัพท์ดาวเทียมจากยอดเขา ซึ่งเป็นการพูดคุยกันออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ของนิวซีแลนด์

ฮอลและบอลใช้ทักษะความเป็นนักธุรกิจของพวกเขาในการระดมทุนสำหรับการเดินทางทั่วโลกเพื่อทำตามความท้าทาย “เจ็ดยอดเขา” ซึ่งคือการปีนยอดเขาที่สูงที่สุดในแต่ละทวีป ให้สำเร็จ พวกเขายกระดับความเสี่ยงขึ้นไปอีกด้วยการพยายามทำตามความท้าทายนี้ให้สำเร็จภายในเจ็ดเดือน ทั้งคู่ทำได้สำเร็จโดยเหลือเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงและกลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในนิวซีแลนด์ พวกเขาใช้เงินที่ได้จากการผจญภัยของพวกเขาลงทุนเปิดบริษัทนำทางบนภูเขาระดับโลกภายใต้ชื่อ แอดเวนเจอร์ คอนซัลแทนท์ ในปี 1992

ในตัวหนังเลือกจะเล่าช่วงเวลาที่ฮอลตัดสินใจจากภรรยาแจน อาร์โนลด์(เคียร่า ไนท์ลีย์) ที่กำลังท้องแก่ใกล้คลอดมาเพื่อนำทีมผู้จะพิชิตเทือกเขาเอเวอร์เรสต์ชุดใหม่ ท่ามกลางเสียงคัดค้านของเธอ แต่ท้ายที่สุดเขาก็ตัดสินใจเดินทางมา อันที่จริงแล้วเมื่อพิจารณาให้ดีเราจะพบว่ากลุ่มนักปีนเขานั้นจัดได้ว่าเป็นกลุ่มคนที่มีเงินในการ “จ่าย” ค่าผู้นำที่ชำนาญการเพื่อขึ้นสู่ยอดเขาเอเวอร์เรสต์ ทำให้บริษัทอย่างแอดเวนเจอร์ คอนซัลแทนท์กลายเป็นทีมที่ขึ้นชื่อว่าได้นำนักปีนเขา 39 คนขึ้นสู่ยอดเขาเอเวอร์เรสต์ได้สำเร็จ แม้ว่าราคาสำหรับการนำทางขึ้นสู่ยอดเขาจำนวนหลายหมื่นเหรียญจะเป็นจำนวนที่สูงกว่าบริษัทอื่นๆ ชื่อเสียงของฮอลในเรื่องความไว้วางใจได้และความปลอดภัยก็ดึงดูดลูกค้าจากทั่วโลก

สิ่งเหล่านี้ได้สะท้อนว่าการ “เสี่ยงตาย” เพื่อขึ้นไปพิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกนั้น ไม่ใช่กิจกรรมที่คน “กล้า” อย่างเดียวจะทำได้ แต่มันยังหมายถึงคนมีเงินประมาณหนึ่งในการพาตัวเองไปสู่เป้าหมายอันสูงลิบและยากเกินกว่าคนปกติจะทำ นั่นหมายความว่าเป้าหมายของกลุ่มคนที่ต้องการพิชิตเทือกเขานี้มีไว้สำหรับคนมีเงินและเป็นการจ่ายเงินที่แลกกับความเสี่ยงที่ไม่อาจจะประเมินค่าได้เช่นกัน! 

@พริตตี้ปลาสลิด

3 คะแนนจาก 5 คะแนน 

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ ของ วิจารณ์หนัง EVEREST ยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook