รู้จัก "เช็ค" ใช้จ่ายแทนเงินสด กับข้อดี-ข้อควรระวังที่ควรรู้ก่อนใช้ทุกครั้ง

รู้จัก "เช็ค" ใช้จ่ายแทนเงินสด กับข้อดี-ข้อควรระวังที่ควรรู้ก่อนใช้ทุกครั้ง

รู้จัก "เช็ค" ใช้จ่ายแทนเงินสด กับข้อดี-ข้อควรระวังที่ควรรู้ก่อนใช้ทุกครั้ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เช็ค เป็นเครื่องมือทางการเงินที่เข้ามาทดแทนการจ่ายเงินสดแบบเดิมๆ เหมือนในอดีต เหตุผลก็มาจากเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก (เว้นแต่ในภาพยนตร์เท่านั้นที่เราจะเห็นฉากนักธุรกิจขนเงินเป็นล้านๆ ใส่กระเป๋าเดินทาง) แต่การใช้เช็คนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีรายละเอียดทั้งในส่วนของผู้สั่งจ่าย รวมถึงผู้รับเช็คอีกด้วย ถ้าอยากรู้ว่ามีอะไรบ้าง Sanook Money มีข้อมูลดีๆ มาฝากกัน

ข้อมูลจากศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้อธิบายถึงรายละเอียดของคำว่า "เช็ค" คือเอกสารในรูปแบบของตราสารซึ่งบุคคลหนึ่งเรียกว่า "ผู้สั่งจ่าย" สั่ง ธนาคารให้ใช้เงินจำนวนหนึ่งเมื่อทวงถามให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่งหรือให้ใช้ตามคำสั่งของบุคคลอีกคนหนึ่งซึ่งเรียกว่า "ผู้รับเงิน"

โดยผู้ที่เกี่ยวข้องกับเช็คประกอบไปด้วย 4 ส่วนได้แก่

756512

1. ผู้สั่งจ่ายเช็ค คือ ผู้ที่เปิดบัญชีกระแสรายวันกับธนาคาร และเซ็นสั่งจ่ายเช็คเพื่อชำระเงินแก่ผู้รับเงิน

2. ผู้รับเงิน (หรือผู้ทรงเช็ค) ​​​​​คือ ผู้ที่ได้รับเช็คจากผู้สั่งจ่าย และนำเช็คที่ได้ไปฝากเรียกเก็บเงินที่ธนาคาร เพื่อเบิกเป็นเงินสด หรือนำเข้าบัญชีธนาคารตนเอง

3. ธนาคารผู้ส่งเรียกเก็บ (Sending Bank) เป็นธนาคารที่ผู้รับเงินได้เปิดบัญชีไว้ เมื่อผู้รับเงินนำเช็คไปฝากเรียกเก็บเงิน หากเป็นเช็คของธนาคารอื่น ธนาคารก็จะส่งข้อมูลและภาพเช็คไปเรียกเก็บเงินกับธนาคารผู้จ่าย และเมื่อทราบผลการเรียกเก็บเงินแล้ว จึงจะนำเงินเข้าบัญชีของผู้รับเงิน

4. ธนาคารผู้จ่าย (Paying Bank) เป็นธนาคารที่ผู้สั่งจ่ายเช็คได้เปิดบัญชีไว้ และธนาคารจะทำหน้าที่ตรวจสอบลายเซ็น เงื่อนไขการสั่งจ่ายตามที่ผู้สั่งจ่ายได้ทำข้อตกลงไว้ และหักเงินจากบัญชีของผู้สั่งจ่ายเพื่อจ่ายเงินให้แก่ธนาคารของผู้รับเงิน (หรือธนาคารผู้ส่งเรียกเก็บ)

fcc_img2

ประเภทของเช็ค

เช็ค​บุคคลธรรมดา คือ เช็คที่บุคคลธรรมดาเป็นผู้สั่งจ่ายเงินตามเช็ค

เช็คนิติบุคคล คือ เช็คที่องค์กร/บริษัทเป็นผู้สั่งจ่ายเงินตามเช็ค

แคชเชียร์เช็ค คือ เช็คที่ธนาคารเป็นผู้สั่งจ่ายเงินตามเช็ค และระบุชื่อผู้รับเงินอย่างชัดเจน ลูกค้าจะเสียค่าธรรมเนียมการซื้อแคชเชียร์เช็คฉบับละ 20 บาท ส่วนใหญ่ผู้รับเงินนิยมนำไปขึ้นเงินภายในจังหวัดเดียวกัน เนื่องจากไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการเรียกเก็บ แต่หากนำไปขึ้นเงินในจังหวัดอื่นที่ไม่ใช่จังหวัดเดียวกับสาขาธนาคารที่ออกเช็คอาจจะต้องเสียค่าธรรมเนียมการเรียกเก็บเช็ค เช่น หมื่นละ 10 บาทของจำนวนเงินตามเช็ค

เช็คของขวัญ จะมีลักษณะเช่นเดียวกับแคชเชียร์เช็ค ส่วนใหญ่นิยมมอบให้แก่ผู้รับในโอกาสพิเศษ

ดราฟต์ จะมีข้อแตกต่างจากแคชเชียร์เช็คและเช็คของขวัญ กล่าวคือ ผู้ซื้อดราฟต์ต้องเสียค่าธรรมเนียมการซื้อตามราคาบนหน้าดราฟต์ เช่น หมื่นแรก 10 บาท หมื่นต่อไป หมื่นละ 5 บาท (ขั้นต่ำ 10 - 20 บาท สูงสุด 1,000 บาท) แต่ผู้รับเงินไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเมื่อนำไปขึ้นเงินในจังหวัดที่ไม่ใช่จังหวัดเดียวกับสาขาที่ออกดราฟต์

742615

เช็คขีดคร่อม คือ เช็คที่ผู้รับเงินต้องนำฝากเช็คเข้าบัญชีก่อนที่จะเบิกเป็นเงินสดเท่านั้น โดยเช็คขีดคร่อมแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ เช็คขีดคร่อมทั่วไป กับเช็คขีดคร่อมเฉพาะ​ ​​เช็คขีดคร่อมทั่วไป ผู้รับเงินต้องนำเช็คฝากเข้าบัญชีเท่านั้น โดยสามารถนำฝากเข้าบัญชีของธนาคารใดก็ได้ เช่น 

แบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ

co 

  • หากเป็​นเช็คระบุ “หรือผู้ถือ” ผู้ทรงเช็คหรือผู้รับเงินสามารถนำฝากเช็คนั้นเข้าบัญชีที่ธนาคารใดก็ได้
  • หากเป็นเช็คระบุ “หรือตามคำสั่ง” ต้องนำฝากเช็คเข้าบัญชีผู้รับเงินที่ระบุในเช็ค หรือ หากนำเข้าบัญชีผู้อื่นต้องมีการเซ็นโอนสลักหลังเช็คนั้นด้วย

ac

 

  • เป็นเช็คที่ต้องนำฝากเข้าบัญชีตามชื่อที่ระบุหน้าเช็คเท่านั้น และไม่สามารถโอนได้

​​​เช็คขี​ดคร่อมเฉพาะ เป็นเช็คที่ระบุชื่อธนาคารไว้ภายในเส้นขนาน และผู้รับเงินจะต้องนำเช็คฝากเข้าบัญชีธนาคารตามที่ระบุไว้เท่านั้น​

ข้อดีของการใช้เช็ค​​​

  • มีกำหนดเวลาในการบริหารเงินสด  เพื่อให้กิจการมีสภาพคล่องในการหมุนเวียน สามารถจัดสรรเงินสดที่มีอยู่ เพื่อนำไปใช้ในส่วนที่จำเป็นก่อน
  • มีความปลอดภัยมากกว่าการนำเงินสดไปจ่ายชำระ 
  • สามารถตรวจสอบรายการย้อนหลังได้ง่ายกว่าการทำรายการเงินสด  เพราะมีหลักฐานการทำธุรกรรมกับทางธนาคาร

ข้อควรระวังในการใช้เช็ค

  • ข้อควรระวังในการใช้เช็ค
  • เช็คมีอายุไม่เกิน 6 เดือน นับแต่วันที่สั่งจ่ายบนหน้าเช็ค
  • ต้องมีลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายบนหน้าเช็ค 
  • จำนวนเงินตัวหนังสือและตัวเลขถูก​ต้องตรงกัน
ผู้สั่งจ่าย ผู้รับเช็ค
  • การเขียนเช็คควรใช้ปากกาหมึกสีดำหรือสีน้ำเงินเข้ม และไม่ควรใช้ปากกาหมึกสีสะท้อนแสง ปากกาหมึกซึม หรือดินสอ
  • การกรอกจำนวนเงินที่เป็นตัวเลขนั้น ควรเขียนให้ชิดกับสัญลักษณ์ "฿" หรือเขียนครื่องหมาย "=" ข้างหน้าตัวเลข เพื่อป้องกันการเติมตัวเลขด้านหน้า
  • การแก้ไขข้อความบนตัวเช็ค ควรหลีกเลี่ยงการแก้ไขข้อมูลบนหน้าเช็คเพื่อป้องกันการทุจริต ในกรณีที่จำเป็น ผู้สั่งจ่ายควรใช้วิธีขีดฆ่าข้อความที่ต้องการแก้ไขทั้งหมด พร้อมลงลายมือชื่อกำกับการแก้ไข โดยไม่ควรใช้น้ำยาลบคำผิด
  • ผู้สั่งจ่ายควรติดต่อธนาคารเพื่อขอยกเลิกเงื่อนไขการสั่งจ่ายที่ใช้ตราประทับ/ตรานูน/ตราสี เนื่องจากต้องมีขั้นตอนการตรวจสอบเพิ่มเติม ซึ่งอาจทำให้การจ่ายเงินตามเช็คล่าช้ากว่าทั่วไป
  • ผู้สั่งจ่ายต้องเตรียมเงินในบัญชีให้เพียงพอสำหรับการชำระเงินตามวันที่ระบุในหน้าเช็ค เนื่องจากการเรียกเก็บเงินตามเช็คทั่วประเทศทำได้ภายใน 1 วันทำการ  (ระบบ ICAS)​
  • เมื่อทำเช็คหาย ควรรีบแจ้งให้ผู้สั่งจ่ายเช็คทราบโดยเร็ว พร้อมทั้งขอให้ผู้สั่งจ่ายสั่งระงับการจ่ายเงินตามเช็คฉบับนั้นทันที หลังจากนั้นให้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และนำสำเนาดังกล่าวมอบให้แก่ผู้สั่งจ่าย เพื่อใช้เป็นหลักฐานยื่นต่อธนาคารประกอบการระงับการจ่ายเงินตามเช็คฉบับนั้น และออกเช็คฉบับใหม่ให้แทน
  • เมื่อได้รับเช็คที่มีเงินในบัญชีไม่พอจ่าย (หรือที่เรียกว่า เช็คเด้ง) ควรรีบติดต่อผู้สั่งจ่ายเพื่อตรวจสอบเงินในบัญชีก่อนนำเช็คฝากเรียกเก็บใหม่  ทั้งนี้ ผู้สั่งจ่ายต้องเสียค่าปรับเช็คคืนให้กับธนาคารผู้จ่ายด้วย
  • การดูแลรักษาเช็ค ควรหลีกเลี่ยงการพิมพ์ เขียน ขูด ลบ หรือประทับตราบริเวณแถบว่างส่วนล่างสุดของเช็ค รวมทั้งหลีกเลี่ยงการเจาะหรือทำให้เช็คเป็นรู การพับเช็ค หรือการทำให้เช็คเปียกชื้นทั้งด้านหน้าและด้านหลัง​
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook