ธ.ก.ส. ขยายเวลารับทำประกันภัยข้าวนาปี 64 ถึง 31 พ.ค. นี้ ใน 42 จังหวัด

ธ.ก.ส. ขยายเวลารับทำประกันภัยข้าวนาปี 64 ถึง 31 พ.ค. นี้ ใน 42 จังหวัด

ธ.ก.ส. ขยายเวลารับทำประกันภัยข้าวนาปี 64 ถึง 31 พ.ค. นี้ ใน 42 จังหวัด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ตามที่ ธ.ก.ส. ได้เปิดโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2564 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในการสร้างภูมิคุ้มกันและบริหารจัดการความเสี่ยงด้านการผลิต โดยใช้การประกันภัย เป็นเครื่องมือในการบรรเทาความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นนั้น เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ซึ่งกระจายตัวอย่างรวดเร็ว ธ.ก.ส. สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และสมาคมประกันวินาศภัยไทย ได้หารือร่วมกัน และเห็นชอบในการขยายระยะเวลาในการขายกรมธรรม์โครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2564 จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 30 เม.ย. 64 เป็นสิ้นสุดวันที่ 31 พ.ค. 64 ในกลุ่มที่ 1 พื้นที่ 42 จังหวัด ได้แก่ กําแพงเพชร, นครสวรรค์, พิจิตร, พิษณุโลก, เพชรบูรณ์, สุโขทัย, อุทัยธานี, นครพนม, มหาสารคาม, ร้อยเอ็ด, สกลนคร, หนองคาย, อุดรธานี, นครราชสีมา, บุรีรัมย์, ยโสธร, ศรีสะเกษ, สุรินทร์, อุบลราชธานี, อํานาจเจริญ, ชัยนาท, นนทบุรี, ปทุมธานี, พระนครศรีอยุธยา, ลพบุรี, สระบุรี, สิงห์บุรี, อ่างทอง, ชลบุรี, ฉะเชิงเทรา, ระยอง, สระแก้ว, จันทบุรี, ปราจีนบุรี, ตราด, นครนายก, สมุทรปราการ, นครปฐม, สมุทรสงคราม, สมุทรสาคร, สุพรรณบุรี และกรุงเทพมหานคร

s__2449577นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)

สำหรับจังหวัดอื่นๆ ยังคงสิ้นสุดตามระยะเวลาเดิม ได้แก่ กลุ่มที่ 2 สิ้นสุดวันที่ 31 พ.ค. 64 ได้แก่ จังหวัดเชียงราย, เชียงใหม่, น่าน, แพร่, พะเยา, แม่ฮ่องสอน, ลําปาง, ลําพูน, อุตรดิตถ์, กาฬสินธุ์, ขอนแก่น, บึงกาฬ, มุกดาหาร, เลย, หนองบัวลําภู และชัยภูมิ กลุ่มที่ 3 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. 64 ได้แก่ จังหวัดตาก, กาญจนบุรี, ราชบุรี, เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ และกลุ่มที่ 4 พื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ได้แก่ กระบี่, ชุมพร, พังงา, ภูเก็ต, ระนอง, สุราษฎร์ธานี, ตรัง, นครศรีธรรมราช, นราธิวาส, ปัตตานี, พัทลุง, ยะลา, สงขลา และสตูล

กรมธรรม์การประกันภัยข้าวนาปีในส่วนของการประกันภัยขั้นพื้นฐาน (Tier 1) อัตราค่าเบี้ยประกันภัยตั้งแต่ 55-230 บาทต่อไร่ ขึ้นอยู่กับพื้นที่ความเสี่ยง โดยรัฐบาลอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัยให้ 58 บาทต่อไร่

  • กรณีเป็นเกษตรกรลูกค้าที่ใช้บริการสินเชื่อ ธ.ก.ส. ธนาคารจะจ่ายสมทบส่วนที่เหลือให้เต็มจำนวน ซึ่งจะทำให้ลูกค้าได้รับประกันภัยฟรี โดยให้ความคุ้มครองในกรณีเกิดภัยธรรมชาติ 7 ภัย ได้แก่ ภัยน้ำท่วม ,ฝนตกหนัก ,ภัยแล้ง ,ฝนแล้ง ,ฝนทิ้งช่วง ,ลมพายุ ,พายุไต้ฝุ่น ,ภัยอากาศหนาว ,น้ำค้างแข็ง , ลูกเห็บ ,ไฟไหม้ และช้างป่า วงเงินคุ้มครองจำนวน 1,260 บาทต่อไร่
  • ในกรณีเกิดภัยศัตรูพืช, โรคระบาด วงเงินคุ้มครอง 630 บาทต่อไร่ เป้าหมายการทำประกันภัยบนพื้นที่ปลูกข้าวทั่วประเทศ 46 ล้านไร่

กรณีทำประกันภัยส่วนเพิ่ม (Tier 2) ค่าเบี้ยประกันภัยตั้งแต่ 24-101 บาทต่อไร่ ขึ้นอยู่กับพื้นที่ความเสี่ยง เมื่อเกิดภัยธรรมชาติจะได้รับวงเงินเพิ่มอีก 240 บาทต่อไร่ รวมเงินประกันภัยที่ได้รับ 1,500 บาทต่อไร่

  • กรณีเกิดภัยศัตรูพืช โรคระบาด ได้รับวงเงินคุ้มครองเพิ่ม 120 บาทต่อไร่ รวมเงินประกันภัยที่ได้รับ 750 บาทต่อไร่

เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับเกษตรกรลูกค้าที่ใช้บริการสินเชื่อ ธ.ก.ส. และเกษตรกรทั่วไปในพื้นที่เสี่ยงต่ำ จะได้รับสิทธิ์ประกันภัยฟรี ไม่ต้องมาติดต่อธนาคาร โดย ธ.ก.ส. จะดำเนินการให้ทั้งหมด ส่วนเกษตรกรทั่วไปที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงปานกลางและสูง สามารถซื้อประกันภัย ผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน “BAAC INSURE” โดยเป็นการซื้อประกันภัยด้วยตนเองผ่านสมาร์ทโฟน ได้อย่างสะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งใช้ได้ทั้งระบบปฏิบัติ IOS และ Android หรือขอทำประกันภัยได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ เพียงนำบัตรประชาชนไปติดต่อก็สามารถทำประกันภัยได้ทันที

สำหรับขั้นตอนการลงทะเบียนใช้งานบนแอปพลิเคชั่น BAAC INSURE มีดังนี้

s__2449580

  • เมื่อเข้าใช้งานครั้งแรก ระบบจะแสดงหน้าจอแจ้งให้ลงทะเบียนกด "ลงทะเบียนใช้งาน"
  • อ่านรายละเอียดข้อตกลงและเงื่อนไขการซื้อประกันภัยและกด "ตกลง"
  • ใส่หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ 10 หลัก และกด "ตกลง"
  • ใส่รหัส OTP 6 หลัก ที่ได้รับจากข้อความ (SMS)
  • กรอกข้อมูลส่วนตัวและกดปุ่ม "ตรวจสอบข้อมูลบัตรประชาชน" หากข้อมูลถูกต้องให้ดำเนินการขั้นตอนต่อไป หากข้อมูลไม่ถูกต้องให้แก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง
  • ตั้งรหัสผ่าน (Mobile PIN) เป็นตัวเลข 6 หลัก
  • ยืนยันรหัสผ่าน (Mobile PIN) อีก 1 ครั้ง
  • เลือกคำถามและใส่คำตอบ สำหรับใช้ในกรณีลืมรหัสผ่าน (Mobile PIN)
  • หน้าจอแสดง "ลงทะเบียนสำเร็จ" กด "กลับหน้าหลัก"
  • เมื่อลงทะเบียนสำเร็จหน้าจอหลักจะแสดงข้อมูลพื้นที่เพาะปลูกที่ขึ้นทะเบียนไว้ และความคุ้มครองรวมถึงสิทธิที่ได้รับอุดหนุน

วิธีดูประวัติการซื้อประกันภัย

s__2449581

  • เลือกเมนูรายการสั่งซื้อคลิก "ประวัติการขอเอาประกันภัย"
  • หน้าจอแสดงประวัติการขอเอาประกันภัย

การชำระเงินด้วย QR Code ผ่านระบบ ธ.ก.ส. A-mobile หรือ Mobile Banking ต่างธนาคาร

  • เข้าแอปพลิเคชั่น A-Mobile เลือกเมนูสแกนจ่าย
  • กดเลือกภาพในคลังรูปภาพ เลือกภาพ QR Code ที่บันทึกไว้
  • ตรวจสอบจำนวนเงินที่ต้องการชำระกดปุ่ม "ต่อไป" ตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งกดปุ่ม "ยืนยัน" ใส่รหัสผ่านยืนยันการทำรายการ ระบบแสดงทำรายการสำเร็จ
  • หากชำระเงินสำเร็จ ข้อมูลในแอปพลิเคชั่น BAAC INSURE สถานะจะเปลี่ยนเป็นคุ้มครองแล้ว

การเข้าดูข้อมูล และเลือกซื้อประกันภัย

s__2449582

  • หน้าจอหลักจะแสดงข้อมูลพื้นที่เพาะปลูกที่ขึ้นทะเบียนไว้ และความคุ้มครองรวมถึงสิทธิอุดหนุนจาก ธ.ก.ส. และรัฐบาล
  • เลือกเมนูพื้นที่เพาะปลูกโดยสามารถเลือกชนิดพืชจากแถบเมนูด้านบน เลื่อนซ้าย-ขวา เพื่อดูข้อมูลแปลงเพาะปลูกอื่นๆ สำหรับแปลงที่ยังไม่มีความคุ้มครอง หรือคุ้มครองไม่เต็มแปลง จะมีปุ่มให้เลือกซื้อเพื่อเพิ่มความคุ้มครอง
  • เมื่อกด "เลือกซื้อเพื่อเพิ่มความคุ้มครอง" ข้อมูลจะแสดงไว้ในเมนูรายการสั่งซื้อ เพื่อรอยืนยันคำสั่งซื้ออีกครั้ง *โดยสามารถเลือกซื้อหลายแปลงก่อนยืนยันคำสั่งซื้อ

การยืนยันคำสั่งซื้อ

  • หลังจากที่ได้เลือกซื้อแปลงที่ต้องการครบถ้วนแล้วในเมนูรายการสั่งซื้อระบบจะปรากฎแปลงที่สั่งซื้อ และจำนวนเงินค่าเบี้ยประกันภัยทั้งหมด ตรวจสอบความถูกต้องก่อนกด "ยืนยันคำสั่งซื้อ"
  • เลือกบัญชีเงินฝากที่ได้รับค่าสินไหม จากนั้นกดปุ่มเรียบร้อย
  • หน้าจอจะแสดง QR Code เพื่อนำไปชำระเงิน โดยระบบจะบันทึก QR Code ในคลังรูปภาพอัตโนมัติสามารถใช้ชำระเงินผ่าน ธ.ก.ส. A-Mobile หรือ Mobile Banking ต่างธนาคารภายใน 72 ชั่วโมง
  • รายการสั่งซื้อจะสมบูรณ์ต่อเมื่อชำระเงินเรียบร้อย

ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 02 555 0555 หรือดูรายละเอียดได้ที่ www.baac.or.th

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook