โพลเผย “เฟสบุ๊ก” รั้งบ๊วยความน่าเชื่อถือด้านการปกป้องข้อมูลผู้ใช้งาน

โพลเผย “เฟสบุ๊ก” รั้งบ๊วยความน่าเชื่อถือด้านการปกป้องข้อมูลผู้ใช้งาน

โพลเผย “เฟสบุ๊ก” รั้งบ๊วยความน่าเชื่อถือด้านการปกป้องข้อมูลผู้ใช้งาน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Fortune ร่วมกับ Harris Poll ทำการสำรวจความเห็นชาวอเมริกันจำนวน 2,000 คน จนถึงช่วงกลางเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา ถึงความเห็นที่มีต่อบริษัทไอทียักษ์ใหญ่ ในประเด็นความน่าเชื่อถือเรื่องความปลอดภัยของการรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

ผลปรากฏว่า Amazon เป็นอันดับ 1 โดยได้รับคะแนนไปถึง 49% ตามด้วย Google 41%, Microsoft 40%, Apple 39% ขณะที่ Facebook กลับได้รับไปเพียง 22% ซึ่งถือว่าห่างจากกลุ่มบริษัทระดับเดียวกันอย่างเห็นได้ชัด

จอห์น เกอร์เซม่า ซีอีโอ Harris Poll กล่าวว่า “วิกฤตของพวกเขายังคงดำเนินต่อไป”

โพลล่าสุดนี้นับเป็นอีกหลักฐานที่ชี้ให้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบริษัทโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ รวมไปถึงชื่อเสียงของตัวซัคเกอร์เบิร์กเอง ซึ่งนอกจากประเด็นความปลอดภัยแล้ว บรรดาผู้ลงเสียงโหวตยังร่วมกันจัดอันดับให้พวกเขารั้งท้ายทั้งในแง่ความเป็นผู้นำ, จรรยาบรรณ, ความไว้วางใจ และภาพลักษณ์ อีกด้วย

บริษัทปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโพลชิ้นนี้ และเลือกจะชี้ไปยังการที่ ซัคเกอร์เบิร์ก เคยเผยเมื่อไม่นานนี้ว่าได้มีการลงทุนในการรักษาความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มระดับการปกป้องข้อมูลขึ้นแล้ว

ในแบบสำรวจเดียวกันยังมีการตั้งคำถามว่า ผู้ตอบได้มองบริษัทไอทีเหล่านี้ว่ามีการปรับเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้นหรือแย่ลงในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ซึ่ง 48% ระบุว่าโซเชียลมีเดียเบอร์หนึ่ง กำลังเดินไปในทิศทางที่แย่ลง ขณะที่มีเพียง 17% เท่านั้นที่มองว่าดีขึ้น

สถานการณ์ของ Facebook นั้น สวนทางกับ Microsoft โดยมีเพียง 7% เท่านั้น ที่มองว่ายักษ์ใหญ่ด้านซอฟต์แวร์ แย่ลงในช่วง 6 เดือนล่าสุด ขณะที่ Amazon ก็มีผลโหวตแง่ลบนี้ ที่ 10% ส่วน Apple 14% และ Google 16%

ส่วนในหัวข้อ “คุณมีความเชื่อมั่นในตัวผู้นำองค์กรเหล่านี้ขนาดไหน ในเรื่องการใช้ข้อมูลส่วนตัวตามหลักจริยธรรม” ซัคเกอร์เบิร์ก ก็ยังรั้งท้ายเช่นเคย โดยได้รับไป 59%

ส่วนอันดับ 1 เป็น เจฟฟ์ เบโซส แห่ง Amazon 77% ตามด้วย ทิม คุก ของ Apple 72%, สัตยา นาเดลล่า ของ Microsoft 71%, ซุนดาร์ พิชัย ของ Google 68%

“ในกรณีนี้ มันอาจหมายถึง ซัคเกอร์เบิร์ก ได้แค่เกรด C หรือ D เท่านั้นในชั้นเรียน” เกอร์เซม่า สรุป พร้อมย้ำว่า ซัคเกอร์เบิร์ก ยังมีงานหนักอีกมากในการกอบกู้ความมั่นใจของผู้ใช้กลับคืน หลังจากเกิดปัญหาซ้ำๆ ในตลอดช่วงที่ผ่านมา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook