4 วิธีค้นหากองทุน LTF-RMF ที่ใช่ สำหรับลดหย่อนภาษี

4 วิธีค้นหากองทุน LTF-RMF ที่ใช่ สำหรับลดหย่อนภาษี

4 วิธีค้นหากองทุน LTF-RMF ที่ใช่ สำหรับลดหย่อนภาษี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ใกล้สิ้นปีอีกแล้ว เรื่องที่เราไม่อาจหลงลืมได้เลยนั่นคือ การวางแผนภาษี เพื่อแบ่งเบาภาระที่จะเกิดขึ้นในปีหน้าใครที่รายได้เยอะต้องเสียภาษีอัตราสูงต้องมองหา “ตัวช่วย” กันหน่อย ซึ่งในการลดหย่อนภาษีก็มีตัวช่วยอยู่ไม่น้อย ทั้งในรูปแบบของการออมและการลงทุน โดยรูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจและเหมาะกับมนุษย์เงินเดือนอย่างเราก็คือ การลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เพราะนอกจากสามารถนำเงินลงทุนมาหักลดหย่อนภาษีได้แล้ว ยังสร้างผลตอบแทนให้งอกเงย นำไปสู่ความมั่งคั่งในอนาคตอีกด้วย

อย่างไรก็ดี หลายคนอาจยังสงสัยว่า LTF และ RMF ต่างกันยังไง เราสามารถสรุปง่ายๆ ได้ครับว่า LTF เป็นการลงทุนสั้นๆ แค่ 7 ปี อยากซื้อหรือไม่ซื้อก็ได้ ไม่ต้องซื้อทุกปี นำไปหักลดหย่อนภาษีได้ 15% แต่ไม่เกิน 500,000 บาท ส่วน RMF ผูกพันกันยาวๆ ต้องซื้อทุกปี คือถือไปจนถึงอายุ 55 ปี เป็นการออมและลงทุนเพื่อการเกษียณจริงๆ สามารถนำมาหักลดหย่อนได้ 15% แต่ไม่เกิน 500,000 บาท อันนี้ใครมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพต้องเอามานับรวมในกองนี้ด้วย

โดยมีคำถามสำคัญตามมาก็คือ “เลือกซื้อกองไหนดี” เพราะมีหลายกองหลายเจ้าเหลือเกิน เรียกว่าเป็นคำถามยอดฮิตที่ตอบยากสักหน่อย ต้องบอกว่าการลงทุนนั้น ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว ด้วยเป้าหมายที่ต่างกันของแต่ละคน หรือไลฟ์สไตล์ที่ไม่เหมือนกัน รวมทั้งการรับมือกับความเสี่ยงได้ไม่เท่ากัน แต่อาจใช้หลักกว้างๆ ลองตอบโจทย์นี้ดู

สำรวจตัวเอง

เราต้องชัดเจน ต้องรู้ว่า เป้าหมายในการลงทุนคืออะไร นอกเหนือจากเรื่องลดหย่อนภาษีสามารถรับความเสี่ยงได้แค่ไหน ซึ่งบางคนไม่อยากคิดเยอะให้ปวดหัวกลัวเงินต้นหาย ขอเลือกแบบไม่มีความเสี่ยง เพียงแค่ได้ผลตอบแทนติดไม้ติดมือมาสักนิดหน่อยก็ดีแล้ว ขณะที่บางคนมองว่าลงทุนทั้งทีก็อยากลองเสี่ยงดูบ้าง หวังผลตอบแทนที่คุ้มค่าสักหน่อยเมื่อรู้จักรู้ใจตัวเองจะทำให้มองหากองทุนได้ง่ายขึ้น

ทำความรู้จักกองทุน

เมื่อเรารู้จักตัวเองแล้ว ก็ต้องไปทำความรู้จักกองทุนด้วย เช่น กองทุน LTF แม้จะเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนหุ้นเหมือนกันก็จริง  แต่นโยบายการเลือกหุ้นเข้ามาในพอร์ตก็ไม่เหมือนกัน บางกองทุนเน้นหุ้นขนาดเล็ก ขนาดกลาง บางกองทุนเลือกหุ้นขนาดใหญ่ หรือจะเน้นอุตสาหกรรมไหนเป็นหลัก เรียกว่ามีหลากหลายนโยบายในการลงทุน ทำให้ความผันผวน ความเสี่ยง และผลตอบแทนของแต่ละกองทุนแตกต่างกันไป ซึ่งการทำความรู้จักกองทุนจะช่วยให้เรามองหาสิ่งที่ตอบโจทย์ตรงใจได้มากขึ้น

ผลการดำเนินงานย้อนหลัง

ตรงนี้ต้องเข้าใจตรงกันก่อนนะครับว่า ผลงานในอดีตจะไม่สามารถการันตีอนาคตได้ แต่การที่เราศึกษาข้อมูลประวัติหรือผลงานของกองทุน ก็สามารถช่วยให้เรารู้ฝีมือในการบริหารจัดการกองทุนได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งการหาข้อมูลไม่ใช่เรื่องยาก เพราะมีหน่วยงานอย่าง มอร์นิ่งสตาร์ (Morningstar) มาช่วยจัดอันดับผลตอบแทนให้อยู่แล้ว คลิกไปดูได้ที่เว็บไซต์ www.morningstarthailand.com ครับ

เลือกกองทุนแนะนำจากมอร์นิ่งสตาร์

ทั้งนี้การจัดอันดับโดยมอร์นิ่งสตาร์ ได้ให้คำแนะนำสำหรับการลงทุนใน LTF ปีนี้ โดยมีกองทุนน่าสนใจได้แก่ กองทุนเปิด แวลูพลัส ปันผล หุ้นระยะยาว (VALUE-D LTF) ลงทุนในหุ้น 100% เน้นบริษัทที่มีพื้นฐานดีและผลประกอบการดี มีการจ่ายเงินปันผลต่อเนื่อง ผลการดำเนินงาน 5 ปีย้อนหลังเป็นอันดับ 7 ใน TOP 10 LTF กองนี้เหมาะกับคนที่อยากได้เงินปันผลระหว่างทางสม่ำเสมอ  

พร้อมกันนี้ยังมีกองทุนเปิด บรรษัทภิบาล หุ้นระยะยาว (CG-LTF) ลงทุนในหุ้น 100% เน้นหุ้นบริษัทจดทะเบียนที่มีธรรมาภิบาลที่ดี ผลการดำเนินงาน 5 ปีย้อนหลังเป็นอันดับ 1 ใน TOP 10 LTF ความเสี่ยงกองทุนระดับ 6 และกองทุนเปิด แมนูไลฟ์ สเตร็งค์ คอร์ หุ้นระยะยาว (MS-CORE LTF) ลงทุนในหุ้น 65% เน้นหุ้นบริษัทจดทะเบียนหรือตราสารทุนซึ่งผลตอบแทนอ้างอิงกับผลตอบแทนของบริษัทที่อยู่ในดัชนี Set50 ผลการดำเนินงาน 5 ปีย้อนหลังเป็นอันดับ 4 ใน TOP 10 LTF ซึ่งทั้ง CG-LTF และ MS-CORE LTF เหมาะกับคนที่อยากลงทุนแบบยาวๆ ได้เงินเป็นก้อน

หากสนใจลงกองทุน RMF กองทุนที่มอร์นิงสตาร์แนะนำ ได้แก่ กองทุนเปิดหุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (ERMF) กองทุนเปิดทหารไทยธนไพศาล เพื่อการเลี้ยงชีพ (TMBBFRMF) และกองทุนเปิด แมนูไลฟ์ สเตร็งค์ เฟล็กซิเบิ้ลฟันด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (MS-FLEX RMF) ซึ่งความเสี่ยงของแต่ละกองจะไม่เท่ากัน เช่น ERMF ก็จะมีความเสี่ยง

หากสนใจลงกองทุน RMF กองทุนที่มอร์นิงสตาร์แนะนำ ได้แก่ กองทุนเปิดหุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (ERMF) กองทุนเปิดทหารไทยธนไพศาล เพื่อการเลี้ยงชีพ (TMBBFRMF) และกองทุนเปิด แมนูไลฟ์ สเตร็งค์ เฟล็กซิเบิ้ลฟันด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (MS-FLEX RMF) ซึ่งความเสี่ยงของแต่ละกองจะไม่เท่ากัน เช่น ERMF ก็จะมีความเสี่ยงสูงอยู่ในระดับ 6 เพราะเน้นลงทุนในหุ้น แต่ผลการดำเนินงานย้อนหลัง 5 ปี เป็นอันดับ 6 ใน10 RMF ในกลุ่ม Equity กองนี้จะเหมาะกับคนที่ชอบเสี่ยงอยู่บ้าง

แต่ใครที่มองหากองทุน RMF ความเสี่ยงต่ำลงมาอีก อาจใช้บริการ TMBBFRMF กองนี้มีความเสี่ยงแค่ระดับ 4 โดยเน้นลงทุนในเงินฝาก ตราสารหนี้ภาครัฐ ตราสารหนี้ภาคสถาบันการเงิน และตราสารหนี้เอกชนชั้นดี เรียกว่าเป็นสินทรัพย์มีความเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทน 5 ปีย้อนหลังเป็นอันดับ 7 ใน 10 RMF ในกลุ่ม Fix Income ขณะที่ MS-FLEX RMF มีความเสี่ยงระดับ 5 ลงทุนแบบผสมผสานในหุ้นและตราสารหนี้ โดยในส่วนของหุ้นจะเน้นหุ้นที่มีแนวโน้มการเติบโตและประวัติการจ่ายปันผลดี ไปดูผลตอบแทนย้อนหลัง 5 ปี เป็นอันดับ 10 ใน RMF ในกลุ่ม Allocation

จากที่แนะนำมาข้างต้น ก็น่าจะเป็นคำแนะนำสำหรับการค้นหากองทุน LTF และRMF ที่ใช่ สำหรับลดหย่อนภาษีนะครับ สุดท้ายต้องไม่ลืมว่า การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุนทุกครั้งนะครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook