หากไม่จ่ายบัตรเครดิตจะมีผลกระทบอย่างไรบ้าง

หากไม่จ่ายบัตรเครดิตจะมีผลกระทบอย่างไรบ้าง

หากไม่จ่ายบัตรเครดิตจะมีผลกระทบอย่างไรบ้าง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าบัตรเครดิตได้กลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันของคนเราไปเสียแล้ว การพกบัตรเครดิตไว้ทำให้เราไม่จำเป็นต้องพกเงินสดติดกระเป๋าในจำนวนที่มาก การมีบัตรเครดิตเพียงใบเดียวก็ช่วยให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้นมาก ไม่ว่าจะไปที่ไหนบัตรเครดิตก็สามารถใช้แทนรูดจ่ายแทนเงินสดได้ในแทบจะทุกที่

ความสะดวกสบายนี่เองที่ทำให้คนเราเกิดความเพลิดเพลิน จากที่เคยใช้บัตรเครดิตรูดจ่ายแทนเงินสด เมื่อถึงเวลาก็รวมยอดจ่ายกับบัตรเครดิตเอาแค่เดือนละครั้ง ก็ถือว่าสะดวกดี แถมใบแจ้งยอดที่ส่งมาเราก็สามารถมานั่งรีวิวดูได้ว่าจ่ายค่าอะไรไปบ้างในแต่ละเดือน เมื่อใช้ไปนาน ๆ ก็เพลินยิ่งวงเงินในบัตรเครดิตที่ให้ 1-2 เท่าของเงินเดือนหรือรายได้ต่อเดือน การมีวินัยทางการเงินที่ไม่แรงพอ บัตรเครดิตก็ทำให้เสียนิสัยทำให้เรากลายเป็นคนใช้เงินมือเติบไปได้เช่นกัน

การหยิบบัตรเครดิตออกมา รูดแล้วเซ็นชื่อ มันง่ายนิดเดียว กินเวลาแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น ไม่เหมือนกับการต้องหยิบเงินสดออกมานับแล้วส่งจ่ายไป ในแง่ของจิตวิทยาในการใช้เงินแล้วให้ผลที่ต่างกันมาก ยิ่งใช้ทุกวัน นานเป็นเดือนเป็นปีแบบนี้ หากไม่ระวังพอยอดเงินที่รูดสะสมพอกพูนเกินกว่าที่จะจ่ายเต็มจำนวนไหวได้เหมือนเคย ก็ต้องจ่ายแค่บางส่วน พอเริ่มจ่ายบางส่วนทีนี้ก็เริ่มโดนคิดดอกเบี้ยแพงหูฉี่จากบัตรเครดิต หากยังรูดต่อหนี้ก็เพิ่มดอกเบี้ยก็ทบไป ๆ มา ๆ ต้องเหลือจ่ายแค่เพียงขั้นต่ำและสุดท้ายเชื่อไหมคะ ว่าร้อยทั้งร้อยต้องจบด้วยการไม่สามารถจ่ายคืนได้ เพราะดูยอดหนี้ก็เห็นแววแล้วว่าจ่ายไปก็ไม่รอดแน่ ๆ

เมื่อถึงเวลาที่เราไม่จ่ายบัตรเครดิต เพราะจ่ายไม่ไหวแล้วมีคำถามว่าจะมีผลกระทบอะไรตามมาหรือไม่นั้น เรามาดูสิ่งที่ผู้ใช้บัตรเครดิตเริ่มกลัวกัน ว่าผลกระทบเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับตัวเองหรือไม่


• โดนทวงหนี้ เรื่องโดนทวงหนี้นี้ไม่ต้องห่วง เพราะต้องโดนทวงแน่นอน เริ่มจากไม่ได้จ่ายเดือนแรกก็อาจจะมีตามเป็น SMS มาก่อน ต่อจากนั้นก็จะเริ่มเป็นเจ้าหน้าที่โทรมา เริ่มทวงแบบเบา ๆ ก่อน พอเริ่มไม่จ่ายเดือนที่ 2 ที่ 3 นี่ การโทรจะเริ่มถี่ โทรทุกที่ ๆ โทรได้ ทั้งบ้าน โทรศัพท์มือถือหรือเบอร์ที่ทำงาน เรียกว่าโดนทวงจนเครียดและไม่เป็นอันทำมาหากิน

• เครียด ผลกระทบที่ตามมาจากการไม่จ่ายหนี้บัตรเครดิต แน่นอนคงไม่มีใครนอนนั่งอย่างสบายใจแน่นอน ความเครียดเป็นผลร้ายที่ตามมาอย่างทันท่วงที หากต้องไปทำงานทุกวัน การทำงานก็จะไม่มีประสิทธิภาพ เพราะเราต้องกังวลเรื่องนี้ ความสัมพันธ์กับคนในครอบครัวก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย เพราะชีวิตไม่ได้สนุกสนานเหมือนเดิม บางครั้งอาหารที่เคยอร่อยเรากลับทานแล้วไม่อร่อยด้วย

• เสียประวัติ การไม่จ่ายหนี้บัตรเครดิตจะมีผลทำให้ประวัติการชำระหนี้ในเครดิตบูโรของเราไม่ดี ยิ่งหากไม่ชำระนานเกินกว่า 3 เดือน หนี้จะกลายเป็นหนี้เสียทันทีหรือที่เรียกว่าหนี้เอ็นพีแอลที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินจะมีวิธีในการจัดการหนี้เหล่านี้เป็นพิเศษ สถานะหนี้เสียในเครดิตบูโร หากไม่มีการเคลียร์หนี้หรือแก้ไข สถานะหนี้เสียก็จะอยู่แบบนั้นไปตลอดเป็นระยะเวลาหลายปีทีเดียว อย่างต่ำก็ต้อง 3 ปีเป็นอย่างน้อย

• เสียโอกาสในการกู้เงินในอนาคต การไม่จ่ายหนี้บัตรเครดิตทำให้ประวัติการชำระหนี้ในเครดิตบูโรต้องเสียไป เมื่อเป็นเช่นนี้หากในอนาคตเราต้องการกู้เงินหรือขอสินเชื่อโอกาสที่จะได้รับการอนุมัติก็จะน้อยลงหรือไม่ได้รับการอนุมัติ เพราะประวัติหนี้เสียในเครดิตบูโรนี้ หากไม่ได้รับการแก้ไขก็จะถือว่าซีเรียสมากไม่ค่อยจะมีธนาคารใดยอมให้เงินกู้ ทั้งที่หนี้บัตรเครดิตที่จริงอาจไม่ได้มาก แต่โอกาสในการกู้ซื้อบ้านหรือโอกาสในการกู้เงินเพื่อมาทำธุรกิจของเราในอนาคตนั้น เราต้องสูญเสียไป

• โดนฟ้อง หากมูลหนี้มากพอเมื่อถึงระยะเวลาหนึ่งธนาคารเขาจะส่งเรื่องฟ้องศาล ซึ่งหนี้บัตรเครดิตนี้ถือเป็นคดีแพ่งมีบางท่านสงสัยว่าจะต้องติดคุกด้วยหรือไม่ ไม่ต้อง เมื่อโดนฟ้องก็จะเป็นเรื่องยุ่งยากพอสมควร เพราะเราต้องเดินทางไปที่ศาลเมื่อศาลนัด อาจเริ่มจากการไกล่เกลี่ยก่อน ถ้าตกลงกันได้ก็เป็นไปตามที่ศาลไกล่เกลี่ย แต่ถ้าตกลงกันไม่ได้ก็ต้องตั้งทนายเพื่อสู้คดี มีค่าใช้จ่ายตามมาอีกมากมายและต้องเสียเวลาด้วย มีบางคนถามว่าหากเดินทางไปต่างประเทศอยู่ แล้วโดยฟ้องหนี้บัตรเครดิตจะเดินทางกลับประเทศไทยได้หรือไม่ คำตอบก็คือได้ ไม่ได้เกี่ยวกัน เพราะหนี้บัตรเครดิตเป็นคดีแพ่ง สามารถเดินทางเข้าออกประเทศได้ตามปกติ

• ถูกยึดทรัพย์หรืออายัดเงินเดือน อันนี้เป็นไปได้ หลังจากที่ทำเรื่องฟ้องเรียบร้อยแล้วเราไม่มีเงินชำระหนี้คืนตามที่ศาลสั่ง ธนาคารมีสิทธิ์ยึดทรัพย์และอายัดเงินเดือนของเราได้ แต่จะยึดทรัพย์ได้เฉพาะที่มีชื่อของเราเป็นกรรมสิทธิ์เท่านั้น หากเป็นชื่อพ่อแม่หรือพี่น้องเราก็จะยึดไม่ได้ บัญชีเงินเดือนก็อายัดได้เพราะส่วนมากธนาคารจะเช็คจากประกันสังคมว่าเราทำงานที่ใด ก็จะตามได้ยึดเงินเดือนของเราที่บริษัท

• การเปิดบัญชีธนาคาร หากไม่สามารถชำระหนี้บัตรเครดิตกับธนาคารได้ ก็ไม่ควรเปิดบัญชีกับธนาคารเจ้าหนี้ เพราะในสัญญาอาจมีการระบุว่าหากลูกหนี้ผิดนัด ธนาคารสามารถหักเงินจากบัญชีเงินฝากได้

• ฟ้องเอากับทายาทกรณีเสียชีวิต หากลูกหนี้บัตรเครดิตเสียชีวิตโดยที่ยังมีหนี้ค้างอยู่ ธนาคารอาจทำเรื่องฟ้องร้องให้ทายาทเป็นผู้จ่ายหนี้แทนได้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องเป็นไปตามเงื่อนไข คือ ธนาคารต้องฟ้องภายใน 1 ปี นับตั้งแต่ทราบเรื่องการเสียชีวิต หากเกินจากนี้ทายาทมีสิทธิ์ปฏิเสธไม่จ่ายหนี้ได้และความรับผิดชอบต่อหนี้บัตรเครดิตของทายาทจะเฉพาะกรณีที่ทายาทได้รับมรดกจากผู้เสียชีวิตเท่านั้น และความรับผิดชอบก็ไม่เกินกว่ามูลค่าของมรดกที่ได้รับ หากทายาทไม่ได้รับมรดกใด ๆ จากผู้เสียชีวิตก็ไม่ต้องจ่ายหนี้แทน

ยุ่งยากพอสมควร สำหรับกรณีที่เป็นหนี้บัตรเครดิตแล้วไม่จ่าย ชีวิตที่เหลืออยู่ก็ไม่ค่อยน่าอภิรมย์เท่าไหร่เลยล่ะ แม้จะมีทางแก้ไขได้บ้าง แต่เป็นใครก็คงไม่อยากเจอ จริงไหมคะ เมื่อเห็นผลกระทบจากการไม่จ่ายบัตรเครดิตแบบนี้แล้ว อยากให้ระวังในเรื่องของการใช้บัตรเครดิตกันให้มากขึ้น คนที่จะต้องรับผิดชอบทุกสิ่งทุกอย่างก็คือตัวเราและบางครั้งก็เลยไปถึงครอบครัวของเราด้วย คิดสักนิดก่อนรูด เอาให้มั่นใจว่าเรามีเงินจ่ายคืนแบบเต็มจำนวนแน่นอนดีกว่า หากไม่มั่นใจว่าจะมีเงินมาจ่ายคืนหรือไม่ก็อย่ารูดเลย

สนับสนุนเนื้อหาโดย MoneyHub

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook