2ทุนยักษ์กวาดที่ดิน"สุขุมวิท" ซีพีทุ่มซื้อตึกแถว-ชินวัตรฮุบเร็กซ์โฮเทล

ทุนใหญ่กว้านซื้อโรงแรม-ตึกแถวย่านสุขุมวิท สร้างอาณาจักรอสังหาฯแนวรถไฟฟ้า ค่ายเอสซีฯ ลูกเขยทักษิณปิดตำนาน "เร็กซ์โฮเทล" ทุ่มซื้อตารางวาละล้านบาท เร่งพัฒนาคอนโดฯหรู ลูกสาวเจ้าสัวใจถึงซื้อตึกแถวริมถนนห้องละ 20-30 ล้านบาท ต่อยอดโครงการปิยรมย์ ผุดเมกะซีพีคอมมิวนิตี้มอลล์

แหล่งข่าวจากวงการอสังหาริมทรัพย์เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจซบเซาแบบซึมลึก จะไม่ค่อยเห็นการลงทุนใหม่ ๆ ของกลุ่มผู้ประกอบการมากนัก ยกเว้นกลุ่มทุนที่ติดอันดับมหาเศรษฐีเมืองไทย ซึ่งมีเป้าหมายจะสร้างอาณาจักรอสังหาริมทรัพย์เต็มรูปแบบอย่างต่อเนื่อง

"ล่าสุด 2 กลุ่มทุนเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้งกับการทุ่มซื้อทรัพย์สินในตำนาน โดยเฉพาะย่านสุขุมวิท" แหล่งข่าวกล่าวและว่าที่น่าจับตาและวิพากษ์วิจารณ์กันมากในสังคมออนไลน์ของกลุ่มดาราและไฮโซนั่นคือการซื้อที่ดินโรงแรมเก่า "เร็กซ์ โฮเทล-REX Hotel" ของบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เนื่องจากเจ้าของเดิมอยากเลิกกิจการและกำลังมองหากลุ่มทุนที่อยากซื้อทรัพย์สินและที่ดินแบบยกแปลงมานานแล้ว

"เสน่ห์ของเร็กซ์ โฮเทล นอกจากทำเลดีติดถนนสุขุมวิทอยู่ใกล้ห้างเอ็มโพเรียมแล้ว ยังเป็นแหล่งแฮงเอาต์ของกลุ่มดาราไฮโซ นักธุรกิจและนักการเมืองทั่วฟ้าเมืองกรุงทั้งรุ่นเก่ารุ่นใหม่ เพราะดังมาจากข้าวต้มรอบดึกที่เปิด 24 ชม. จนเป็นตำนานสืบเนื่องร่วม 30-40 ปี ส่วนพนักงานก็เป็นคนเก่าที่อยู่ร่วมกันมาตั้งแต่แรกเริ่ม" แหล่งข่าวกล่าวและว่าพอดีจังหวะกลุ่มเอสซีฯ เครือชินวัตร ต้องการหาที่ดินแนวรถไฟฟ้าบีทีเอส เพื่อเจาะตลาดระดับเอและบีบวก ทำให้เกิดความลงตัวทั้งสองฝ่าย แม้ราคาซื้อขายที่ดินจะไม่เปิดเผยมากนัก แต่รู้กันว่าราคาที่ใจกลางเมืองย่านสุขุมวิทเริ่มหายาก ยิ่งอยู่ริมถนนแทบไม่เหลือแล้ว คาดว่าราคาซื้อขายสูงพอสมควรอยู่ในระดับล้านบาทต่อตารางวา

ขณะเดียวกัน กลุ่มทุนเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือซีพี โดยบริษัท แมกโนเลียควอลิตี้ ดีเวล็อปเมนต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาที่ดินบริหารโดย นางสาวทิพาภรณ์ เจียรวนนท์ บุตรสาวคนเล็กของนายธนินท์ เจียรวนนท์ เริ่มเจรจาซื้ออาคารพาณิชย์ 4-5 ชั้น หน้าโครงการปิยรมย์ สปอร์ตคลับ ปากซอยสุขุมวิท 101/1 ในราคาที่สูงมาก เพราะต้องการเปิดทางเข้าออกรองรับเมกะโปรเจ็กต์ของกลุ่ม ซึ่งอนาคตจะเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มีทั้งซีพีมอลล์และคอนโดมิเนียมหรูหลายอาคาร

ปิดตำนานเร็กซ์ โฮเทล

ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" ลงพื้นที่สำรวจพบว่า ทำเลริมถนนสุขุมวิท ปากซอยสุขุมวิท 32 ใกล้สถานีรถไฟฟ้าทองหล่อ ระยะทาง 150-200 เมตร เดิมเป็นที่ตั้งโรงแรมเร็กซ์ ขณะนี้ตัวอาคารโรงแรมและคอฟฟี่ช็อปถูกทุบทิ้งไปหมดแล้ว และมีการล้อมรั้วสังกะสีทำเป็นไซต์งานก่อสร้างคอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่ ซึ่งรั้วด้านหน้าริมถนนจะติดป้ายสวยงาม พร้อมจัดนิทรรศการเล่าประวัติพนักงานเก่าแก่ของโรงแรมเร็กซ์ก่อนปิดกิจการเมื่อปลายปี 2557 โดยระบุชื่อ บมจ.เอสซีแอสเสทฯ เป็นผู้จัดทำซึ่งบริเวณทำเลดังกล่าวเป็นแหล่งรวมโครงการคอนโดฯหรูหลายแบรนด์ อาทิ โครงการโนเบิล รีมิกซ์ 2 อาคาร 666 ยูนิต ราคาขายปัจจุบัน 1.3-1.9 แสนบาทต่อตารางเมตร โครงการคีนน์ ของบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) จำนวน 216 ยูนิตราคาขาย 1.4-2.1 แสนบาทต่อตารางเมตร และโครงการเดอะ เครสท์ ของ บมจ.เอสซีแอสเสทฯ จำนวน 265 ยูนิต ราคาขายประมาณ 1.9-2 แสนบาทต่อตารางเมตร ไม่รวมคอนโดฯในซอยละแวกนั้นอีกหลายโครงการ

ผุดคอนโดฯขาย ตร.ม.ละ 3 แสน

นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวยอมรับกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า บริษัทได้ตัดสินใจซื้อที่ดินโรงแรมเร็กซ์จริงเมื่อต้นปี 2558 ที่ผ่านมา ขนาดพื้นที่ 1 ไร่ 3 งาน 69 ตารางวา และโอนกรรมสิทธิ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีเป้าหมายจะพัฒนาเป็นอาคารชุดพักอาศัยระดับ Super Luxury แบรนด์ใหม่ ชื่อโครงการ BEATNIQ มีกำหนดเปิดตัวในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ส่วนราคาขายยังไม่กำหนดชัดเจน แต่คาดว่าจะแพงกว่าโครงการ "ศาลาแดง วัน"ที่เพิ่งเปิดตัวและเปิดขายไปในราคาเริ่มต้น 2.8 แสนบาทต่อตารางเมตรเมื่อเร็ว ๆ นี้ ฉะนั้นราคาขายสำหรับคอนโดฯแบรนด์ใหม่บนทำเลนี้ อาจเริ่มต้นที่ 2.9 แสนบาทต่อตารางเมตร

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้เอสซีฯแถลงว่า ในปีนี้จะเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่อีก 2 โครงการ มูลค่าโครงการ 4,160 ล้านบาท เป็นโครงการระดับ Super Luxuryแบรนด์ใหม่ ที่สุขุมวิท 32 กับคอนโดมิเนียมอารมณ์บ้าน พร้อมเปิดตัวโครงการใหม่แนวราบอีก 3 โครงการ มูลค่ารวม 3,990 ล้านบาท

ทายาทเจ้าสัวไล่ซื้อตึกแถว

ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานอีกว่า สำหรับการเคลื่อนไหวบนทำเลสุขุมวิท 101/1 หรือซอยวชิรธรรมสาธิต ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส "ปุณณวิถี" จากเดิมเป็นโครงการปิยรมย์ สปอร์ตคลับ ขณะนี้บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ได้ทยอยทุบทิ้งอาคารด้านในโครงการเกือบหมดแล้วพร้อมสร้างสำนักงานขายแบบทันสมัยอยู่ด้านหน้า และเตรียมงานก่อสร้างโครงการคอนโดฯด้วย

ล่าสุดมีรายงานข่าวแจ้งว่า บริษัทแมกโนเลียฯได้เจรจาซื้ออาคารพาณิชย์ด้านหน้าโครงการปิยรมย์ฯ ที่มีอยู่ประมาณ 40 ห้องอย่างต่อเนื่อง เพื่อต้องการเปิดพื้นที่ทางเข้าออกที่มีด้านหน้าติดถนนจากเดิมกว้างประมาณ 20 เมตร คาดว่าถ้าซื้อตึกแถวได้ทั้งหมดตามที่ต้องการ จะทำให้ทำเลด้านหน้ากว้างขึ้นถึง 200 เมตร

จากการสอบถามเจ้าของตึกแถวพบว่าMQDC ได้เข้าเจรจาซื้อตึกแถว 22 ห้อง สูง 4-5 ชั้น หน้ากว้าง 4 เมตร ลึก 20 เมตรระหว่างซอยปิยบุตร์ 1-ปิยบุตร์ 2 แล้วก่อนหน้านี้ โดยมีบางห้องยินยอมขายด้วยราคาที่น่าพอใจ โดยเมื่อเดือนพฤษภาคม 2558 มีผู้ตัดสินใจขายไปแล้ว 7 ห้อง โดย MQDC ทำข้อตกลงเงื่อนไขซื้อขาย ห้ามผู้ขายเปิดเผยราคาต่อบุคคลภายนอกเด็ดขาด

เจ้าของตึกอัพขาย 50 ล้าน

อย่างไรก็ตาม ราคาเสนอซื้อ 20-30 ล้านบาทต่อหนึ่งห้องแถวนั้น เจ้าของตึกแถวส่วนใหญ่ที่ยังไม่ได้ทำสัญญาซื้อขายกับบริษัทแมกโนเลียฯให้ความเห็นว่า ราคาดูต่ำเกินไป เพราะเครือซีพีสามารถสร้างมูลค่าที่ดินแถบนี้ได้อย่างมหาศาลในอนาคต รายงานข่าวระบุว่า ส่วนตึกแถวอีก 20 กว่าห้อง ช่วงระหว่างซอยปิยบุตร์ 2-ซอยวชิรธรรมสาธิต (101/1) ยังไม่มีการเสนอซื้อแต่ตามแปลนจำลองพื้นที่โครงการบริเวณดังกล่าวน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของโครงการด้วยและ MQDC ระบุว่าจะเริ่มก่อสร้างโครงการได้ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ทำให้เจ้าของตึกแถวต่างอยากทราบความแน่ชัดว่า เครือซีพีจะซื้อเพิ่มอีกหรือไม่

โดยก่อนหน้านี้ MQDC เพิ่งประกาศแผนลงทุนวิสซ์ดอม 101 มูลค่าเต็มโครงการ 3 หมื่นล้านบาท บนที่ดินที่ซื้อปิยรมย์ สปอร์ตคลับแปลงใหญ่ขนาด 43 ไร่ เพื่อพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูส ประกอบด้วย คอนโดมิเนียม 3 อาคาร สูง 40-50 ชั้น ราคาเริ่มต้น 1.2 แสนบาทต่อตารางเมตร อาคารสำนักงานขนาด 3 หมื่นต่อตารางเมตรสปอร์ตคลับขนาด 10,000 ตารางเมตร และร้านค้าอีก 150 ร้านในบริเวณเดียวกัน และจะสร้างเลนจักรยานลอยฟ้าจากสถานีรถไฟฟ้าปุณณวิถีเชื่อมเข้าสู่อาคารสำนักงานโดยตรง ซึ่งแมกโนเลียฯหวังให้โครงการวิสซ์ดอม 101 เป็นแหล่งไลฟ์สไตล์สำหรับครอบครัวรุ่นใหม่ริมถนนสุขุมวิท

ทำเลสุขุมวิทยิ่งนานยิ่งแพง

ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานเพิ่มเติมว่า จากการรวบรวมข้อมูลราคาซื้อขายที่ดินแนวถนนสุขุมวิท ตั้งแต่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสนานา-แยกบางนา พบว่าในปี 2558 ราคาที่ดินมีการปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ปัจจุบันที่ดินทำเลใกล้รถไฟฟ้าอโศก-นานา ราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ตารางวาละ 1.2-1.8 ล้านบาท ทองหล่อเฉลี่ยราคาตารางวาละ 1-1.5 ล้านบาท พระโขนงเฉลี่ยราคา 8.5 แสนบาทต่อตารางวา ส่วนช่วงต่อขยายอ่อนนุช-แบริ่ง ตั้งแต่ทำเลสถานีบางจาก-สถานีแบริ่ง ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ตารางวาละ 3-4.7 แสนบาท

สำหรับราคาคอนโดมิเนียมตั้งแต่สถานีนานา-สถานีทองหล่อ ราคาสูงสุดพุ่งขึ้นถึง 2-3 แสนบาทต่อตารางเมตร สถานีพร้อมพงษ์ขณะนี้มีราคาขายเปลี่ยนมือสูงสุดตารางเมตรละ 4 แสนบาท ส่วนสถานีพระโขนง-อ่อนนุช ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 8 หมื่น-1.5 แสนบาทต่อตารางเมตร และช่วงต่อขยายสถานีบางจาก-แบริ่ง ราคาขายเฉลี่ยยังอยู่ที่ 6 หมื่น-1.3 แสนบาทต่อตารางเมตร