สมาคมผู้ประกอบการท่องเที่ยวเกาะเสม็ด ยื่นฟ้องพีทีทีจีซี ทำน้ำมันดิบรั่ว เรียกค่าเสียหาย 1,000 ล้าน

สมาคมผู้ประกอบการท่องเที่ยวเกาะเสม็ด ยื่นฟ้องพีทีทีจีซี ทำน้ำมันดิบรั่ว เรียกค่าเสียหาย 1,000 ล้าน

สมาคมผู้ประกอบการท่องเที่ยวเกาะเสม็ด ยื่นฟ้องพีทีทีจีซี ทำน้ำมันดิบรั่ว เรียกค่าเสียหาย 1,000 ล้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก สมาคมผู้ประกอบการท่องเที่ยวเกาะเสม็ด จังหวัดระยอง ซึ่งมีสมาชิก 70 ราย เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (พีทีทีจีซี) เป็นจำเลยในความผิดฐานละเมิด และความผิดตามพ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม พร้อมเรียกค่าเสียหายจำนวน 1,000 ล้านบาท

โดยคำฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 27 ก.ค.2556 จำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์ กล่าวคือขณะเรือบรรทุกน้ำมันของจำเลยได้ถ่ายน้ำมันดิบผ่านทุ่นรับน้ำมันมายังโรงกลั่นน้ำมันของจำเลย ได้เกิดเหตุท่อรับน้ำมันดิบรั่ว ห่างจากชายฝั่งมาบตาพุตไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ 20 กิโลเมตร และหลังจากน้ำมันดิบรั่วแล้วพนักงานของจำเลยผู้ที่ควบคุมการขนถ่ายน้ำมันจากเรือ ไม่ตัดวาล์วเมื่อมีการรั่วไหล ทำให้มีน้ำมันดิบรั่วกว่า 50,000 ลิตร ลงสู่ทะเลใน จ.ระยอง และน้ำมันทะลักเข้าสู่อ่าวพร้าว เกาะเสม็ด เมื่อวันที่ 29 ก.ค.2556 ในพื้นที่ความยาว 600 เมตร

หลังจากจังหวัดระยองประกาศให้เกาะเสม็ดเป็นเขตภัยพิบัติทางทะเล ทางบริษัทได้ใช้สารเคมี 2 ชนิด เพื่อกำจัดคราบน้ำมัน โดยไม่แจ้งต่ออุทยานแห่งชาติ โจทก์ทราบจากนักวิชาการสิ่งแวดล้อมว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ได้ส่งผลกระทบจนเสียหายไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท และต้องใช้เวลาฟื้นฟู 10 ปี ทั้งนี้ ความเสียหายดังกล่าวได้ส่งผลให้นักท่องเที่ยวหวาดกลัว ยกเลิกการมาเที่ยวเกือบทั้งหมด และส่งผลเป็นลูกโซ่ไปถึงโรงแรม ร้านค้า รถโดยสาร ผู้ค้า ซ้ำยังส่งผลกระทบต่อแนวปะการังและสิ่งมีชีวิตต่างๆ ได้ตายไปจำนวนมาก เนื่องจากเกิดการสะสมของปรอทและสารอื่นๆ

โดยศาลรับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ สว.7/2557 พร้อมนัดชี้สองสถานหรือนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 22 ก.ย.นี้ เวลา 09.00 น.

ด้านนางสุจารี เจริญผล อุปนายกสมาคมผู้ประกอบการท่องเที่ยวเกาะเสม็ด กล่าวว่า ตนเคยเข้าไปเจรจากับผู้แทนบริษัทหลายครั้งแล้ว แต่ยังไม่มีความชัดเจน จึงเรียกประชุมสมาชิกแล้วมีมติให้ฟ้องแพ่งเพื่อเรียกค่าเสียหาย เพื่อจะได้นำมาแก้ไขปัญหาให้เป็นรูปธรรมต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook