พาณิชย์จี้ผู้ส่งออกแจงสต๊อกข้าวภายใน10มี.ค.

พาณิชย์จี้ผู้ส่งออกแจงสต๊อกข้าวภายใน10มี.ค.

พาณิชย์จี้ผู้ส่งออกแจงสต๊อกข้าวภายใน10มี.ค.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กระทรวงพาณิชย์ จี้ ผู้ส่งออก แจงสต๊อกข้าวภายใน 10 มี.ค.นี้ ก่อนส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพข้าว สร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ซื้อ ตั้งเป้าระบายข้าว มี.ค. 1 ล้านตัน ผ่านเอเฟท

นายยรรยง พวงราช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ ขอความร่วมมือให้ผู้ส่งออกข้าว เร่งรายงานสต๊อกข้าวมายังกรมการค้าภายใน ภายในวันที่ 10 มี.ค.นี้ หลังสิ้นสุดโครงการรับจำนำข้าวฤดูการผลิตปี 2556/2557 รอบแรก เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เพื่อสร้างความมั่นใจว่าสต๊อกข้าวของภาครัฐและเอกชนมีอยู่จริง ไม่ได้เป็นสต๊อกลมตามที่เป็นข่าว ซึ่งตามกฎหมายแล้วผู้ส่งออกจะต้องมีสต๊อกข้าวตลอดเวลาไม่ต่ำกว่า 500 ตัน และหากไม่แจ้งสต๊อกข้าวมาภายในระยะเวลาที่กำหนด จะมีความผิดตามกฎหมาย จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือ มีโทษทั้งจำทั้งปรับ โดยหลังจากมีการแจ้งสต๊อกข้าวแล้ว กรมการค้าภายในจะส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบคุณภาพข้าวเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับทางผู้ประกอบการ หรือ ผู้ซื้อข้าว คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 1 - 2 เดือน ในการรายงานสต๊อกข้าวที่ชัดเจนให้กับรัฐบาล

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ ยังเดินหน้าระบายข้าวเพื่อหาเงินมาชำระคืนให้กับชาวนา โดยในเดือน มี.ค.นี้ ตั้งเป้าระบายข้าวให้ได้ 1 ล้านตัน โดยเป็นการระบาย ผ่านตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า หรือ เอเฟท วันที่ 12 มี.ค.นี้ จำนวน 244,454 ตัน จาก 8 จังหวัด 12 คลัง คือ สระบุรี สิงห์บุรี ชัยนาท กำแพงเพชร สระแก้ว ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี แบ่งเป็นข้าวขาว 5% จำนวน 106,479 ตัน และข้าวหอมมะลิ จำนวน 80,375 ตัน และการระบายข้าวผ่านการเปิดประมูลแบบทั่วไป ในวันที่ 26 มี.ค.นี้ จำนวน 247,000 ตัน

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ จะเริ่มเปิดประมูลข้าวในภูมิภาคภายในเดือน มี.ค.นี้ ใน จ.เชียงราย พิจิตร และนครสวรรค์ตั้งเป้าระบายข้าวให้ได้ 2 แสนตัน เดือนละ 2 ครั้ง

นายยรรยง ยังกำชับให้กรมการค้าภายในรวบรวมข้อเท็จจริงในกรณีที่มีกลุ่มหวังผลประโยชน์ เช่น อดีตผู้ส่งออก กลุ่มโรงสี อดีต ส.ส. พยายามออกมาให้ข้อมูลเท็จเรื่องข้าวในสต๊อกรัฐบาลเสื่อมคุณภาพเพื่อฟ้องร้องดำเนินคดีกับกลุ่มดังกล่าวที่หวังปั่นราคาข้าวให้ตกต่ำ โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook