สารพัดเหตุผลที่ทนต่อไป ท้ายที่สุดอาจย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง

สารพัดเหตุผลที่ทนต่อไป ท้ายที่สุดอาจย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง

สารพัดเหตุผลที่ทนต่อไป ท้ายที่สุดอาจย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เคยมีคนบอกว่าด้านลบของความรัก คือการทำให้คนดี ๆ เสียผู้เสียคนมานักต่อนักแล้ว หลายคนที่เคยเผชิญกับความรักที่เลวร้ายหรือความรักที่ไม่สมหวัง ต่างก็พูดไปในทิศทางเดียวกันว่าชอบตัวเองตอนที่ยังไม่มีความรักมากกว่า หรือตนเองนั้นไม่น่ารู้จักกับอดีตคนรักเลย เพราะชีวิตก่อนหน้าที่จะได้รู้จักกับความรักหรือก่อนหน้าที่จะคบหากับอดีตคนรัก มันเคยดีกว่านี้ แต่หลังจากได้ลองรักให้ได้รู้ ก็ได้รู้ทันทีว่าชีวิตของตัวเองต้องสูญเสียอะไรไปมากมายเพื่อรักครั้งนั้น มองย้อนกลับไปได้แต่รู้สึกเจ็บปวดและเสียดาย

ความรักจะมีคุณหรือมีโทษ ก็คงสุดแล้วแต่ที่คนจะมอง สำหรับคนที่มีประสบการณ์เลวร้ายฝังใจเกี่ยวกับความรัก จะมีความคิดว่าความรักเป็นพิษภัยต่อชีวิตก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เมื่อเวลาผ่านไป พวกเขาก็คงได้รู้แล้วว่าตอนนั้นตนเองต้องเสียหายไปกับการลงทุนเพื่อความรักเท่าไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่รักจนขาดสติ รักแบบหน้ามืดตามัว รักคนคนนั้นมากกว่ารักตัวเอง ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ความรักยังคงอยู่ รั้งเขาหรือเธอไว้ทั้งที่ตัวเองต้องเจ็บปวด ยอมทรมานตัวเองไปวัน ๆ ทั้งที่ไม่ได้มีเหตุผลเรื่องความจำเป็นที่ต้องจำใจทนอะไร คุณกำลังทำร้ายตัวเองด้วยความอดทน

เพราะ “รักเกินรักมักทำลาย” ความรักที่คิดว่าตนเองสามารถอดทนต่อทุกสิ่งทุกอย่างได้ เพื่อแลกกับการที่คนรักจะยังอยู่ข้าง ๆ กัน ยังอยู่ในสถานะที่มีความสัมพันธ์กับใครสักคน หลอกตัวเองไปวัน ๆ ว่าเรายังรักกันดี ให้อภัยกับทุกเรื่องที่อีกฝ่ายทำร้าย ยกโทษให้ง่าย ๆ อย่างไม่มีเงื่อนไข เพียงแค่เขาหรือเธอมาง้อ แต่ในท้ายที่สุดเหตุผลที่ทำให้เลือกที่จะอดทน มันอาจย้อนกลับมาทำร้ายตัวเราเองได้ในสักวัน จนบางครั้งก็ต้องมานั่งพิจารณาว่าที่เลือกที่จะอดทนต่อไปเรื่อย ๆ นั้น มันดีต่อใจของตัวเองแล้วจริง ๆ หรือ ความรักแบบที่อดทนไปเรื่อย ๆ ฝ่ายเดียวคือรักที่ต้องการจริง ๆ หรือ

เพราะยังรัก
คนเราน่ะนะ ถ้าใจยังรักอยู่ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะทำผิดเรื่องอะไร ปากจะบ่นตัดพ้อว่าไม่ทนแล้วอย่างไร หรือต้องยอมรับความเจ็บปวดไว้แค่ไหน ก็ยังเลือกที่จะยกโทษให้ง่าย ๆ อยู่ดี การทำตามสิ่งที่หัวใจต้องการด้วยเหตุผลว่ายังรักเขาหรือเธออยู่นั้นไม่ใช่เรื่องผิดหรอก ในใจก็แอบหวังลึก ๆ ว่าความรักที่เราส่งไปจะถึงใจเขาหรือเธอบ้าง ขอให้ความรักช่วยเปลี่ยนแปลงเขาหรือเธอไปในทางที่ดีขึ้น แต่ก็ต้องรู้ตัวเองอยู่เสมอว่ากำลังรักจนขาดสติอยู่หรือเปล่า ไม่ใช่ว่ายกโทษแบบไม่ลืมหูลืมตาไปทุกครั้ง มิเช่นนั้นจะกลายเป็นว่าคุณรักเขาหรือเธอมากถึงขั้นที่ยอมทำร้ายตัวเอง

เพราะนี่เป็นครั้งแรก
ข้ออ้างที่ว่า “นี่เป็นความผิดครั้งแรก” ช่วยให้คุณยกโทษให้เขาหรือเธอง่ายขึ้นเสมอ เพราะคนเราผิดพลาดกันได้ ถ้าไม่รู้มาก่อนก็ถือว่าไม่ผิด ยกโทษให้ได้ ให้โอกาสเริ่มต้นใหม่ได้ ถ้าอย่างนั้นลองพิจารณาว่าความผิดพลาดที่เขาหรือเธอทำให้คุณเสียใจนั้นมันคือครั้งแรกจริง ๆ หรือเปล่า หรือมันเป็นความผิดครั้งที่ร้อย ที่พอมาจำแนกเป็นรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ มันก็อาจกลายเป็นความผิดครั้งแรก (ในเรื่องนั้น ๆ) ได้อยู่ดี ทำไมไม่ลองถามตัวเองหน่อยว่าโอเคแล้วจริงหรือที่หลอกตัวเองด้วยข้ออ้างนี้มาตลอด ทั้งที่เขาหรือเธอขยันที่จะทำให้เสียใจแบบซ้ำ ๆ ซาก ๆ ขนาดนั้น

เพราะอยากให้โอกาสแก้ตัวอีกสักครั้ง
จริง ๆ แล้ว โอกาสที่คนเราจะได้แก้ไขตัวเองจากความผิดพลาด มันไม่ใช่สิ่งที่จะมีมาได้เรื่อย ๆ หากมองว่าธรรมชาติของ “โอกาส” ไม่ใช่สิ่งที่มีดาษดื่น เพราะความอดทนของคนเรามันมีจุดสิ้นสุด ซึ่งจะไม่เป็นไรเลยถ้าคุณไม่ได้ให้โอกาสเขาหรือเธอพร่ำเพรื่อเกินไป “จะให้โอกาสอีกสักครั้ง นี่เป็นครั้งสุดท้าย” ครั้งสุดท้ายที่ไม่มีอยู่จริง อีกสักครั้งที่คุณคงเลิกนับไปแล้วว่ากี่ครั้ง ยิ่งทำให้คนที่ทำผิดอยู่เรื่อยได้ใจ เพราะรู้ว่ายังไงคุณก็ใจอ่อน ส่วนตัวคุณก็ทรมานตัวเองไปเรื่อย ๆ ทั้งที่ไม่จำเป็น รู้ว่าทนไม่ไหวแต่ก็ไม่เด็ดขาดที่จะตัดโอกาส ทำแบบนั้นแล้วจะดีต่อใจตัวเองจริง ๆ หรือ

เพราะไม่ใช่เรื่องร้ายแรง
บางทีการมองข้ามความผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของคนรักไปบ้าง ไม่ถือสาหาความ หรือไม่พยายามที่จะทำให้เรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้งมันเป็นปัญหาขึ้นมา อาจเป็นกลวิธีที่ช่วยให้ความสัมพันธ์ของคุณนั้นยืนยาว แต่คุณก็ลืมไปเหมือนกันว่าการที่คุณแบกรับความอดทนไว้คนเดียวมันก็อาจทำให้คุณหลังหักได้เหมือนกัน คิดจริง ๆ เหรอว่าคุณจะอดทนได้ตลอดไป ทุกครั้งที่คุณต้องบอกตัวเองว่า “ไม่เป็นไร ฉันทนได้ ไม่ใช่เรื่องร้ายแรง” มันจะบั่นทอนความสุขของคุณลงไปตลอด ความจริงก็คือเรื่องเล็กน้อยที่ค่อย ๆ สะสมไปเรื่อย ๆ นานวันเข้าวันมันจะกลายเป็นระเบิดเวลา!

เพราะอยู่ไม่ได้ถ้าต้องขาดเขาหรือเธอไป
มีคนจำนวนไม่น้อยที่เคยอยู่ได้ด้วยตนเองมาตลอด แต่พอได้เข้าไปอยู่ในความสัมพันธ์กับใครคนหนึ่งแล้ว กลับเอาชีวิตของตัวเองไปผูกติดไว้กับคนรัก ชนิดที่ว่าฉันอยู่ไม่ได้แน่ ๆ ถ้าวันหนึ่งต้องเลิกกับเขาหรือเธอไป อยู่ไม่ได้ถ้าขาดความรักไป ถ้าเป็นอย่างนี้คุณกำลังรักแบบขาดสติอยู่ เพราะคุณจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เขาหรือเธอยังอยู่กับคุณ แม้ว่ามันจะไม่ใช่ความรักแล้วก็ตาม คุณไม่สนว่ามันจะทำร้ายหรือทำลายตัวเองยังไงบ้าง คิดว่าแค่การที่คนรักยังอยู่ข้างตัวคือความสุข ยอมให้เขาหรือเธอทำร้ายอยู่ซ้ำ ๆ ปฏิเสธความจริงว่าคนรักของตัวเองนั่นแหละคือตัวปัญหา!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook