ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น คำนี้ใช้ได้ดีเสมอไม่เว้นแม้แต่การออกกำลังกาย เพราะหากมีความตั้งใจอย่างจริงจัง คุณก็สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ อย่างคุณแบงค์ที่เคยหนักถึง 180 กก. ยังสามารถกลับมาดูดีได้ แต่กว่าจะมาถึงทุกวันนี้ก็ใช้เวลา 7 เดือน ว่าแต่คุณแบงค์ทำได้ยังไง วันนี้มีข้อมูลดีๆ มาฝากเพื่อนๆ Sanook! Men กันอีกแล้ว

แชร์ประสบการณ์ หนัก 108 เหลือ 75 ภายในเวลาไม่กี่เดือนของคนที่ไม่คิดว่าจะมีวันนี้

สวัสดีครับ ผมขอแนะนำตัวก่อนนะครับ ผมชื้อ แบงค์ครับ วันนี้อยากจะมารีวิวการลดน้ำหนักและการหันกลับมาดูแลตัวเองของผมที่ทำให้ผมสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองจากน้ำหนักที่มากถึง 108 กิโลกรัมมมมมมม - -* (ก็ไม่รู้ว่าปล่อยตัวขนาดนั้นได้ยังไงเหมือนกันครับ) จนน้ำหนักปัจจุบันเหลือ 75 กิโลกรัมครับ ภายในเวลา 7 เดือน อันนี้เป็นความคิดของผมจากประสบการณ์ตรงนะครับ การที่เรามองตัวเองในกระจกทุกวัน มันทำให้เราคิดไปเองว่าเราไม่อ้วนครับ ตอนที่ผมน้ำหนัก 108 โล ผมไม่เคยรู้สึกเลยว่ารูปที่ผมลงในเฟส หน้าบานมาก ถึงมากที่สุด และอ้วนมาก(พึ่งมารู้ตัวหลังจากดูรูปตัวเองหลังจากที่ผอมแล้ว TT)ใครเป็นเหมือนผมบ้างยกมือขึ้น lol ฮ่าๆ เอาหล่ะเรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ

อันนี้เป็นภาพก่อนการลดน้ำหนักของผมครับ อ้วน ดำ หน้าโจร ผมมาเต็มครับ TT

อันนี้ฮาๆครับ เสื้อซักไม่ทันกระดุมแทบแตก 5555

ก่อนอื่นผมขอออกตัวนิดนึงนะครับ ว่าการลดน้ำหนักจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วงจนกระทั่งมาถึงปัจจุบันครับ ช่วงแรกคือช่วง น้ำหนัก 108 - 84 กิโลกรัมครับ และอีกช่วงคือหลังจากน้ำหนัก 84-75 กิโลกรัมครับ

- ช่วงแรก 108-84 กิโลกรัม
เป็นช่วงที่ผมได้ลองอาหารเสริมตัวนึงที่ช่วยในการบล็อกไขมัน ประกอบกับการเล่นเทนนิส(อาทิตย์ละ 3-4 วัน/วันละ 2-3 ชั่วโมง)ในช่วงนี้ผมไม่ได้มีการคุมอาหารอะไรมากครับ อยากทานอะไรทาน ของทอด ของหวาน แต่พยายามคุมปริมาณให้น้อยลงครับ ลดปริมาณแป้งเน้นทานโปรตีนมากกว่า เรามาดูรูปกันเลยครับ

ช่วงนี้คือช่วงที่น้ำหนักเริ่มลงมาบ้างแล้วครับ แต่ยังบวมอยู่สังเกตุจากหน้า ฮาา

ส่วนนี้เป็นรูปที่ผมถ่ายเก็บไว้ของการลดน้ำหนักของช่วงแรกครับ เรียงไปเลยนะครับ

จากที่เห็นในภาพด้านบนนะครับใช้เวลาประมาณ 3 เดือนครับ เพื่อเปลี่ยนแปลงมาถึงภาพที่ 4 ครับ ลดไปทั้งหมด 24 กิโลครับ ถึงจุดนี้ผมรู้สึกว่าดูผอมลงเยอะแล้วครับค่อนข้างพอใจกับรูปร่างแล้ว แต่มันดูตัวแห้งๆไป ว่ามั้ยครับ นั่นคือจุดเปลี่ยนอีกครั้งที่ทำให้ผมอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองขึ้นไปอีก บอกเลยนะครับพอน้ำหนักเราลดลงมาได้ขนาดนี้ จะอยากทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองดูดีขึ้นครับ จากตอนแรกผมเป็นคนไม่แต่งตัว ไม่เซ็ตผม ไม่อยากทำอะไร แต่พอน้ำหนักลงมาถึงจุดนี้ผมบอกเลยครับมีกำลังใจในการอยากกลับมาดูแลตัวเองมากๆเลยครับ เพราะฉะนั้นผมขอให้คนที่กำลังคิดจะลดน้ำหนักแบบผมนะครับ แข็งใจไว้ครับถ้าถึงจุดๆนึง คุณจะรู้สึกดีกับตัวเองมากๆครับ และอยากที่จะดูแลตัวเองมากยิ่งขึ้นแน่นอน โม้สะนาน มาต่อกันดีกว่าครับ พอผมมาถึงจุดนี้ครับ สิ่งแรกที่ผมคิดครับ "อยากมีกล้าม" นั่นคือสิ่งที่ทำให้เข้าสู่การเปลี่ยนแปลงตัวเองช่วงที่ 2 ของผม คือการเข้า Fitness ครับ

-ช่วงที่สอง 84-75 กิโลกรัม
ช่วงนี้เป็นช่วงที่ผมเริ่มหันมาทำการคุมอาหารและดูแลตัวเองอย่างจริงจรังครับ โดยการทานอาหารของผมในแต่ละวันจะทำการคุมปริมาณพลังงาน และปริมาณโปรตีนในแต่ละวันครับเพื่อให้เพียงพอต่อการสร้างกล้ามเนื้อ และเบิร์นไขมันไปในเวลาเดียวกันครับ หลังจากช่วงแรกผมได้หยุดทานอาหารเสริมบล็อกไขมันแล้วนะครับ ช่วงนี้อาหารเสริมจะเป็นจำพวก BCAA/Whey Protein แทนครับ

ผมขอนำตารางการออกกำลังกายของผมในการลดน้ำหนักช่วงนี้มาให้ดูนะครับ
ผมจะเข้าฟิตเน็ต 3 วัน พัก 1 วันครับ โดยตารางของผมเป็นแบบนี้ครับ
วัน 1 :
- เดินชัน 30-45 นาที
(ความชัน 15 ความเร็วอยู่ที่ 5.0 ครับ) เหงื่อออกดีมากครับช่วยในการเผาผลาญไขมันได้เป็นอย่างดีและยังสามารถนำ Ipad มาดูละคร ดูหนัง ฟังเพลง แก้เบื่อได้ด้วยครับเพราะมันจะไม่เหนื่อยจนเกินไปแค่เมื่อยครับ โดยถ้าอิงจากลู่วิ่ง การเดิน 45 นาที จะเผาผลาญพลังงานได้ถึง 500 แคลเลยครับ
- เล่นกล้ามเนื้อ อก/หลังแขน
ส่วนละ 4 ท่า ท่าละ 3 Set /Set ละ 8-10 ทีครับ
-เล่นท้อง
3 ท่า ท่าละ 3 Set/Set ละ 20-30 ครั้งครับ

วัน 2 :
- เดินชัน 30-45 นาที
- เล่นกล้ามไหล่ /ขา(นานๆทีครับ)
ส่วนละ 4 ท่า ท่าละ 3 Set /Set ละ 8-10 ทีครับ
-เล่นท้อง
3 ท่า ท่าละ 3 Set/Set ละ 20-30 ครั้งครับ

วัน 3 :
- เดินชัน 30-45 นาที
- เล่นกล้ามหลัง/หน้าแขน
ส่วนละ 4 ท่า ท่าละ 3 Set /Set ละ 8-10 ทีครับ
-เล่นท้อง
3 ท่า ท่าละ 3 Set/Set ละ 20-30 ครั้งครับ

แล้วก็จะพัก 1 วัน แล้วก็วนไปทำเหมือนวันแรกใหม่ครับ โดยค่อยๆเพิ่มน้ำหนักขึ้นทีละนิด และก็เปลี่ยนท่าบ้างเพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อเคยชินครับ โดยส่วนตัวเผมไม่ได้ต้องการให้กล้ามนื้อใหญ่มาก แต่เล่นเพื่อให้น้ำหนักลงมากกว่า และก็เล่นโดยอาศัยความเข้าใจของตัวเองเป็นส่วนใหญ่ถ้าผิดพลาดยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ แหะๆ มาดูผลที่ได้จากการออกกำลังในช่วงนี้กันครับ

นี่คือภาพช่วงที่เริ่มเล่นฟิตเนต ช่วงเดือนแรกๆนะครับ มีแค่ 3 ภาพ หลังๆไม่ค่อยได้ถ่ายเท่าไร แหะๆ จะสังเกตุเห็นว่า ตอนนี้จากตัวที่ดูแห้งๆ จะเริ่มมีกล้ามขึ้นมานิดๆละครับ และหน้าค่อยๆเรียวขึ้น ดูตามภาพไปเลยนะครับ

ส่วนนี่เป็นภาพที่น้ำหนักเริ่มอยู่ตัวละครับ ช่วงน้ำหนักในภาพน่าจะอยู่ประมาณ 77 กิโล ครับ ใกล้ถึงฝันแล้ววววววว

อาหารที่ผมเลือกทานในช่วงนี้นะครับ อาหารที่ผมทานช่วงนี้จะเป็นอาหารคลีนที่สั่งมาครับ ถ้าวันไหนไม่ได้สั่งก็จะเป็นอาหารจำพวกต้มเช่น ก๋วยเตี๋ยว ชาบู(กินแต่เนื้อสัตว์+ผัก) ส้มตำ เป็นส่วนมาก โดยจะมีสัปดาห์ละ 1-2 มื้อ ที่จะกินอาหารปกติบ้างครับ โดยเน้นที่การรับโปรตีนให้เพียงพอต่อวันมากกว่า แต่ผมติดใจอาหารคลีนกินกับน้ำพริกไม่เบื่อเลยครับ

วาปมาปัจจุบันครับ นี่เป็นภาพที่ถ่ายในช่วงเวลาใกล้ๆกับปัจจุบันมากที่สุด หรือก็คือน้ำหนัก 75 กิโลกรัมนั่นเองครับมาดูกันเลย ว่าแตกต่างกับตอนแรกขนาดไหน ^^ ปัจจุบันสูง 183 หนัก 75 ครับผมมมม

จบแล้วนะครับกับการรีวิวการเปลี่ยนแปลงของผม ที่ใครๆก็ทำได้ถ้ามีความตั้งใจจริงครับ ที่ผมมารีวิวไม่ใช่ว่าตัวผมเก่งนะครับ ผมแค่อยากให้เป็นกำลังใจสำหรับคนที่พยายามลดน้ำหนักเหมือนกันกับผม ให้มีกำลังใจในการลดครับ เมื่อไรที่เราทำสำเร็จ หรือทำไปได้จุดนึง เราจะรู้สึกดีมากๆครับ อะไรก็ดีขึ้น เวลามีคนมาทักว่าเราดูดีขึ้น จะรู้สึกดีมากๆเลยครับบอกตรงๆ ขอให้ทุกคนอดทนจนถึงจุดนั้นนะครับ ถ้าชอบช่วยโหวต ช่วยแชร์ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

มีคนสอบถามเข้ามานะครับว่าผมกินอะไรบ้างใน 1 วันนะครับ อันนี้ขอยกตัวอย่าง 1 วันครับตามนี้เลย

ตื่นนอน : Whey 2 ช้อน = โปรตีน 40 กรัม/240 แคลอรี่
หลังอาหารเช้า 1 ชม. : อกไก่ต้มน้ำปลา ฝักทองต้ม ผักต้ม น้ำพริกตาแดง ข้าวกล้อง /โปรตีน 35 กรัม/350-400 แคลอรี่
กลางวัน : เสต็กอกไก่พริกไทยดำ(ใช้น้ำมันนิดเดียว) ฝักทองต้ม ผักต้ม น้ำพริกตาแดง ข้าวกล้อง /โปรตีน 40 กรัม /400-450 แคลอรี่
หลังออกกำลังกาย : Whey 2 ช้อน = โปรตีน 40 กรัม/240 แคลอรี่
อาหารเย็น : อกไก่ย่าง 3-4 ไม้ หรืออาจจะเป็นไข่ขาว 5 ฟอง กินกับทูน่ากระป๋อง = โปรตีน 35 กรัม/แคลอรี่แล้วแต่อาหารที่เลือกทานครับ

ส่วนในระหว่างวัน ถ้าหิวจะมีทานสัปปะรสครับ เพราะมันช่ววในการซ่อมแซมกล้ามเนื้อ หรือเมล็ดถั่วอัลมอนครับ
โดยสัปปะรสน้ำหนัก 100 กรัม จะให้แคลอรี่ประมาณ 50 เท่านั้นเองครับ ส่วนมากที่เค้าขายๆกันจะหนักประมาณ 300-400 กรัม
ส่วนเมล็ดอัลมอนด์ เม็ดละประมาณ 7 แคลอรี่ ผมทานวันละประมาณ 10-20 เม็ดครับ
ที่ผมกล่าวมาเป็นข้อมูลที่ผมอ้างอิงจากเน็ตนะครับถ้าผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะครับ ^^
ผมไม่ค่อยได้เข้ามาออน Pantip นะครับ ถ้ามีอะไรสอบถามแอดเฟสมาได้เลยนะครับ

Bank Breakdown Lorphasongsuk

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : คุณแบงค์ pantip.com

(คลิกที่ภาพเพื่อชมภาพขนาดใหญ่)

อัลบั้มภาพ แชร์ประสบการณ์ หนัก 108 เหลือ 75 ภายในเวลาไม่กี่เดือน ภาพที่ 4 / 37

แชร์ประสบการณ์ หนัก 108 เหลือ 75 ภายในเวลาไม่กี่เดือน

อัลบั้มภาพที่เกี่ยวข้อง

3 หนุ่ม "แจ๊ค-หอย-โก๊ะตี๋" กับจุดเปลี่ยนลดน้ำหนักกว่า 30 กิโลกรัม