"สมศักดิ์ ชลาชล" มือตัดมือตบตัวจริงและเคล็ดลับทำไมถึงไม่แก่ ?

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

เคยมั๊ย? ที่คุยกับใครแล้วรู้สึกสนุก มันส์ ได้ความรู้ อยากคุยต่อเรื่อยๆ และไม่อยากหยุด

วันก่อนมีโอกาสป๊ะหน้ากันกับ "พี่แดง - ดร.สมศักดิ์ ชลาชล" Hair Hero Asia-Pacific ที่โด่งดังทั่วฟ้าเมืองไทยและเมืองนอก

ดูหน้าตาผิวพรรณและแววตาแล้ว "เจ้าแม่ชลาชล" ไม่ชราเลย แถมแฮ๊ปปี้สุดๆ และแทบไม่น่าเชื่อที่ "แฮร์ ชีโร่" คนนี้อายุเฉียดใกล้วัยเกษียณแล้ว เพราะดูเอ๊าะไปทุกส่วน

"อายุพี่เหรอ 58 ปีแล้วจ้ะ กำลังย่างเข้า 59 ตอนนี้พี่รักและหลงตัวเองมากๆ (หัวเราะ) เพราะกลัวตาย กลัวว่าเราจะไม่มีโอกาสได้ทำในสิ่งที่คิดไว้”

แต่ที่ผ่านๆ มาก็ทำสำเร็จไปแล้วหลายอย่าง เพราะทำด้วยความรัก ด้วยความฝัน เช่น ฝันสร้างอาชีพ "ช่างผม" ให้เป็นที่ยอมรับ ฝันทำร้าน “ซาลอนแบรนด์หรู” แตกสาขานับไม่ถ้วน ฝันสร้าง “โรงเรียนเสริมสวยชลาชล” CHALACHOL Academy
แล้วก็ฝันพัฒนา “หลักสูตร” สร้างนักบริหารแฮร์แฟชั่นในระดับสากล ซึ่งก็ทำได้สำเร็จ

ล่าสุด CHALACHOL Academy ได้ดองกับคณะบริหารธุรกิจ แห่งมหาวิทยาลัยศรีปทุมเรียบร้อยแล้ว โดยมี 2 สิงห์สาวแกร่ง ดร.รัชนีพร พุคยาภรณ์ พุกกะมาน อธิการบดี และผศ.ดร.รวิภา ลาภศิริ คณบดีคณะบริหารธุรกิจ อ้าแขนรอรับอย่างเต็มใจ ที่จะร่วมพัฒนาวิชาชีพกับวิชาการแก่นักศึกษาเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบการมืออาชีพ

"พี่แฮ๊ปปี้มากที่ได้ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ให้คนรุ่นหลังเป็นนิวเจนเนอเรชั่นที่โชคดี ได้วิชาจากช่างตัวจริง จากนี้ไปโอกาสที่ประเทศไทยจะก้าวหน้าสร้างชื่อเสียง และแข่งกับต่างประเทศได้ก็เป็นจริง โดยเฉพาะตลาดเออีซีที่เปิดกว้างแล้วในปีนี้"

"คนเราเมื่อสำเร็จแล้ว มีเงินแล้ว มั่นคงแล้ว เราก็ต้องมองถึงคนอื่นและตอบแทนคืนกำไรสู่สังคมบ้าง คุณค่ามนุษย์อยู่ตรงนี้ เหมือนเรามีธรรมะนำทาง แม้เราจะใช้ชีวิตเปลือง สุดซ่าส์หรือดันทุรังแค่ไหน ที่สุดเราก็ต้องมาจุดนี้ จุดที่ต้องดูจิตตัวเองนั่นแหละ"

"ทุกวันนี้พี่พยายามดูแลตัวเอง คือนอนให้ได้ 8 ชั่วโมง และออกกำลังกายด้วยการตีแบด ตีประจำที่คอร์ทซอยวัชรพล ตอนเย็นถึงสามทุ่ม ทุกวันจันทร์ พุธ เสาร์ ไม่ใช่ตีเล่นๆ นะ ตีจริงๆ เคยลงแข่งมาแล้วด้วย (หัวเราะ)"

นี่มั๊งที่ทำให้ "มือตัดผม" ตัวจริงของชลาชล ดูไม่แก่ แต่กลับดูกระฉับกระเฉง คึกคักและมีสีสันทุกครั้งที่ออกงาน เพราะ ดร.สมศักดิ์ ชลาชล ต้องเนี๊ยบ เป๊ะและหุ่นเซี๊ยะตลอด โดยคุมน้ำหนักไม่ให้เกิน 64 กิโลกรัมมาตลอดหลายปี

"พี่เป็นคนโชคดี ทุกอย่างง่ายหมด ไม่ค่อยมีอะไรยากในชีวิต เพราะเราเริ่มจากศูนย์ เลยไม่กังวล แม้พี่จะมีพรสวรรค์ แต่ก็ต้องขยันหาความรู้หาประสบการณ์"

ณ จุดนี้ไม่มีอะไรน่าห่วงแล้ว ครอบครัวโอเคแล้ว มีหลานมารับไม้ต่อแล้ว และได้ช่วยคนช่วยสังคมแล้ว

ห่วงแค่ตัวเอง คือต้องเป็น "แบบอย่าง" ที่ดี เพราะเราเป็นศูนย์กลาง มีเด็กๆ และสังคมมองเราอยู่

แล้วความรักล่ะ ...

"ไม่รู้จะตอบยังไง จะให้พูดไงล่ะ พูดไม่ได้หรอก ต้องแคร์สังคมไทยบ้าง แหม! มันไม่ง่ายเหมือนตัดผม หรือตีแบดฯ นะ”

ชีวิตเรา บางทีก็กำหนดได้บ้าง ไม่ได้บ้าง

ความรักน่ะ พี่มีอยู่แล้ว มีอยู่เต็มหัวใจ แต่จะเพศไหน คนไหน ไม่ตอบได้มั๊ย ขอเถอะ!!!